เร้นพง ดงตื้อ ฤาเรไร จึงบ่กล่อม หัวใจ ใครคนเหงา ก่อนนี้ทุกข์ แม้กระชั้น ก็บรรเทา เพราะเพลงเจ้า ปลอบปลุก ประโลมทรวง ค่ำนี้ มืดดำ จริงเรไร นู่นไหน หนแห่ง วาวแสงสรวง ก็นี่นั่น หลากแหล่ง แสงล่อลวง คอยหลอนดวงแดด่าวระดาษดิน ร้องเพลง กล่อมเพื่อน หน่อยได้ไหม เฉไฉ เพื่อนจะหา ว่าเหี้ยมหิน เพลงทุกข์ เพลงล้า เพลงชาชิน บ่ใช่อัน อยากยิน ดอกเรไร เพื่อนร้อง เราจะเล่น ดนตรีรับ แคนขลุ่ย จะขยับ ด้วยลายไหล พิณซอ ออเออ เพ้อคลอไป กล่อมใจ มิให้ล้า คราวราตรี ดาริก เคยราย ก็กลายเลือน เสี้ยวเดือน เคยฉาย ก็หายหนี เมฆหม่นปิดฟ้า คลุมธานี บ่มี อันหมาย อันเคยมอง จะแกล้ง กระไร เล่าเรไร โน่นเพื่อน ร่ำไห้หัวใจหมอง อ้อมแขน ว่ายากหามาตะกอง ง่ายกว่าขอ เรไรร้อง คืนร้าวราน
23 มิถุนายน 2549 23:39 น. - comment id 585800
ครูใหญ่บอกว่า..จะเอาพิณ ซอและกลอง พร้อมเครื่องขยายเล็กที่ติดรถไป .. อัลมิตราก็ว่าจะพกขลุ่ยไปนะ ขลุ่ยเลานี้ไม่ได้ซื้อมา เป็นขลุ่ยที่คุณกฤษณะให้มาค่ะ วันนี้เอามาลองซ้อม ๆ โดยไม่มีหนังสือโน๊ต ก็ดำน้ำได้หลายเพลงอยู่ ยิ่งตอนนั้นฝนตก ยิ่งดำน้ำได้แนบเนียน ถ้าคุณก่อพงษ์ไปเป่าแคนด้วยก็ดีเนอะ .. เรไรก็เรไรเหอะน่า ปล่อยให้เป็นแมลงขี้อิจฉาคาป่าร้องเพลงคลอไปกับกบอ๊บอ๊บ ก็ละกัน ..ฮา ปล. เสียงฝนตกที่กรุงเทพฯ ดังซ่า ๆ ซู่ ๆ แปลก ๆ พร้อมกันนั้นก็ได้ยินเสียงล้อรถเสียดกับพื้นถนนแฉะ ๆ เสียงฝนที่บ้านต่างจังหวัดเป็นอย่างไรบ้างคะ เสียงจ๋อม จ๋อม มั๊ย
24 มิถุนายน 2549 05:51 น. - comment id 585805
สวัสดีครับคุณอัลมิตรา ฝนต้องหลังคาสังกะสีน่ะครับ กราว โครม ป๊อกแป๊ก เฮ้ ( เสียงฝนนะครับ) เสียงที่ได้ยินเปลี่ยนไปตามสภาพของลม ขนาดเม็ดฝน สถานะของน้ำ( ถ้าเป็นลูกเห็บ ก็มีเสียงเหมือนเราเทก้อนน้ำแข็งใส่สังกะสีหลังคา ) แต่ก็เอามาเขียนเป็นเพลงได้แหละ เหมือนเพลงของมงคล อุทก ( คาราวาน ) ผมนึกสนุกกับคุณอัลมิตรานะครับที่ได้ไปอีสานใต้หนนี้ ยังไงก็ฝากความคิดถึงไปยังครูใหญ่ด้วย ผมติดภาระเรียนเสาร์อาทิตย์จริงๆครับ เลี่ยงได้ยาก จะคอยติดตามภาพและเรื่องในเว็บครับ ตอนนี้แถวบ้านผมแทบไม่มีฝนนะ ตอนกลางวันขับรถออกไปอำเภอใกล้เคียง เขาก็แล้งเหมือนกัน ชาวนาบางคนวิดน้ำในสระขึ้นมาเพื่อให้ปักดำต้นกล้าได้ เห็นแล้วก็ห่อเหี่ยวหัวใจเอาการ
25 มิถุนายน 2549 09:31 น. - comment id 586035
ริมระเบียงคืนไร้ดาวระเริงร่า มีแสงส่องผ่องนภาด้วยเทียนฉาย ฤๅเรไรร้องร่ำลำนำระบาย ดั่งเรื่องเล่าในนิยายที่ในเรือน ยินเรไรครวญคร่ำเจ้าร่ำร้อง คล้ายหม่นหมองต้อยต่ำร่ำไร้เพื่อน กลางโลกที่เหน็บหนาวพราวแสงเดือน คอยย้ำเตือนขมขื่นคืนไร้ดาว สวัสดีครับ..พี่ก่อพงษ์..ไม่เห็นเข้ามาเขียนกลอนนานแล้ว สบายดีนะครับ
25 มิถุนายน 2549 11:53 น. - comment id 586070
สวัสดีครับคุณร้อยแปดพันเก้า ผมเว้นไปสิบกว่าวันเองครับ ไม่ใช่อันใดอื่นครับ ผมขึ้นต้นโคลงไว้เป็นสิบวรรค แล้วต่อไม่ได้ซักบท แต่ไหนไหนก็จะเขียนแล้วก็เลย หันกลับมาหากลอน 7-8 แบบ 223 บ้าง 233บ้าง พอได้เวียนอ่านเองเพลินๆ ขอบคุณคุณร้อยแปดพันเก้าที่เข้ามาทักทายนะครับ ตอนนี้ผมหยุดพักเที่ยวงวันที่วิทยาลัย มาเรียนพิเศษน่ะครับ
25 มิถุนายน 2549 12:10 น. - comment id 586085
สวัสดีครับ อ่านเรื่องนี้แล้วสะดุ้งทุกทีสิน่า เหมือนถูกพาดพิง โดยคนที่แสดงความคิดเห็น คุณ ก่อพงษ์ครับเสียงเรไรที่ผมได้ยิน ...มันร้องว่า เรไรร้องดังฟังว่า เสียงเจ้าที่เฝ้าครวญหา ลมเอยช่วยพากระซิบข้างกาย ......................
25 มิถุนายน 2549 12:27 น. - comment id 586099
ขออภัย คุณเรไรที่กระทู้พี่ก่อพงษ์ ไว้ได้วยนะครับ ไม่มีเจตนาพาดพิงครับ จิตนาการเสียง เจ้าเรไร ที่มันร่ำร้องไปตามลำนำกลอน เท่านั้น
25 มิถุนายน 2549 13:17 น. - comment id 586118
แหม๊ ...เรไร .. ขโมยซีนต่อหน้าต่อหน้า ถ้าวันนั้น ไม่ร้องให้ฟัง มีรึ จะนึกออก ป่านนี้เต้นผางซะจนกระดานบ้านบุบไปหลายแผ่นแล้วมั๊ง
25 มิถุนายน 2549 13:21 น. - comment id 586121
ขออภัยคุณก่อพงษ์อีกครั้งครับ คุณ ร้อยแปดพันเก้า ผมจะหมายถึง อัลมิตรา ต่างหาก อย่าคิดมากครับ ไม่อยากเจาะจงตัว กลัวจริ๊งๆๆๆ
25 มิถุนายน 2549 13:25 น. - comment id 586123
แค่พาดพิงนะ .. ถ้าพาดแล้วซบ .. จะเป็นอีกอย่าง ... ฮา .. แล้วมาป้วนเปี้ยนกระทู้คุณก่อพงษ์ให้เลอะทำไมเนี๊ยะ แหม...เรไร...ยี้...เรรวน...
25 มิถุนายน 2549 18:57 น. - comment id 586189
ผมขอฮาแล้วกัน
26 มิถุนายน 2549 14:17 น. - comment id 586372
จั๊งซี่สะแด่งวาพีเอื้อยบอยูเด้หนี่ แมนบอพี ให่ข่อยยูเป่นมูบออ้าย สิได้ฮ่องเพลง \" อยากให้อยู่ด้วยไหม \" น่ำ ..... คักหลาย
26 มิถุนายน 2549 15:30 น. - comment id 586425
ฮ่าๆ อยู่บนบ้านครับmommamsa