อาศิรวาท พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว
ตราชู
เพื่อนๆทุกท่านครับ บทนี้ ผมขอทิ้งไว้ให้อ่านเผื่อวันพรุ่งนี้เลย ๒๔ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๔๙
ย้อนกลับไปเมื่อปี ๒๔๗๕ วัน เดือนเดียวกันนี้ เป็นวันซึ่งองค์พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงระทมพระราชหฤทัยอย่างที่สุด ด้วยมีคณะบุคคลกลุ่มหนึ่ง ใจร้อน เอาแต่ได้ คิดเปลี่ยนแปลงการปกครอง จากสมบูรณายาสิทธิราช เป็นประชาธิปไตย ทั้งๆที่สยามประเทศในขณะนั้น ยังไม่พร้อม พระปกเกล้าฯ พระองค์ก็ทรงตั้งพระทัยไว้แล้วว่าจะพระราชทานรัฐธรรมนูญเมื่อวาระอันพร้อมเพรียงแล้วมาถึง หาก คนไทยบางเหล่า บังอาจรู้ดี กระทำจู่ลู่เอาแต่อำเภอจิต ผลก็คือ เราได้ประชาธิปไตยมา โดยประชาชน ยังไม่เข้าใจเลยว่า ระบอบการปกครองนี้ คืออะไร
ร้ายไปกว่านั้น ประชาธิปไตยไทย ดำเนินไปท่ามกลางควันปืน คาวเลือด คณะรัฐบาล ผลัดกันแย่งอำนาจไปมากี่ชีวิตของผู้บริสุทธิ์ต้องสูญเสีย กี่รายของผู้ไร้มลทินถูกกล่าวหาป้ายโทษ เพื่อบ้านเมือง, เพื่อประเทศชาติ เป็นเพียงคำโฆษณาหาเสียงชั่วครั้งชั่วคราว กระทั่งบัดนี้ ๗๔ ปีแล้ว ประชาธิปไตยไทย ก็ยังล้มลุกคลุกคลาน อนาถหนอ!
อาศิรวาท พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว
วันนี้
แสนสุดยินดีพระจันทร์วันเพ็ญ
ขอเชิญสายใจเจ้าไปนั่งเล่น
ลมพัดเย็นเย็นหอมกลิ่นมาลีเอยฯลฯ
เพลง ราตรีประดับดาว เมื่อคราวสดับ
บรรสานศัพท์บรรสมรื่นรมย์เฉลย
เหมือนความหลังทั้งปวงไม่ล่วงเลย
มาให้เชยเช่นดาวเด่นพราวดวง
ขอเชิญเจ้าฟังเพลงวังเวงใจ
เพลงของท่านแต่งใหม่ในวังหลวงฯลฯ
หอมรินรินกลิ่นผกาบุปผาพวง
ยังห่วงหวง ห่วงหา ให้อาวรณ์
ถึงปิ่นหล้าเลอดิลก พระปกเกล้าฯ
ทรงผ่านเผ้าปฐพีบดีศร
รังรองรัฐฉัตราตรูนาคร
ทรงปกเกล้าประชากรปรากฏไกร
ทรงตั้งหลักนัคราสถาวเรศ
จักรพรรดิขัตติเยศผู้ยิ่งใหญ่
ต้องทรงทุกข์ทับถมระทมพระทัย
เพื่อ ประชาธิปไตย จักตราตรึง
ยินเพลง โหมโรงคลื่นกระทบฝั่ง
คลื่นกระทั้นลั่นกระทั่งกระเทือนถึง
เจ็ดสิบสี่ปีนำครุ่นคำนึง
คลื่นยังอึงอรรณพตระหลบอวล
ต้น ประชาธิปไตย ยังไม่เติบ
กิเลสร่ำกำเริบก่อร้ายป่วน
ซอครั่นสายคล้ายคำที่คร่ำครวญ
คล้ายเสียงร่ำกำสรวลกันแสงทรง
มโหรีรินเสียงจำเรียงซ้ำ
พร้องขับลำคลั่งไคล้เคลิ้มใหลหลง
ร้องประเลงเพลง เขมรลออองค์
กราบจอมนาถบาทบงสุ์พระภูบาล
จวนจะรุ่งแล้วนะเจ้าพี่ขอลาฯลฯ
แสงอุษาส่องสว่างกระจ่างสถาน
หวังแสงทองส่องหล้า ส่องฟ้าตระกาล
สมดั่งพระปณิธานพระภูธร
หมายเหตุ
๑. เนื้อความซึ่งคัดมาในเครื่องหมายอัญประกาศ และมีเครื่องหมาย ฯลฯ กำกับอยู่นั้น ได้อัญเชิญบางส่วนจากเนื้อเพลงพระราชนิพนธ์ ราตรีประดับดาว ในพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว มาเขียนไว้ด้วย
a. ๒. เพลงพระราชนิพนธ์ในองค์พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว
คือเพลง ราตรีประดับดาว โหมโรงคลื่นกระทบฝั่ง และ เขมรลออองค์
b. ________________________________________________________