คนตาใน แรงบันดาลใจเกิดขึ้น เมื่อผมได้อ่านตัวอย่างบทกวี รุ้งสายอันรายสรวง (บทที่ ๙) ของ ท่านคมทวน คันธนู ครับ โลกมันเพี้ยนเวียนผันทุกวันแผก สรรพ์สิ่งแปลกปลอมแปลงจำแลงเปลี่ยน วนวนวิ่ง ยิ่งวาย ยิ่งว่ายเวียน ยิ่งหันเหียน ยิ่งห่าง ครวญครางฮือ ไร้แก่นหนักหลักแนวอันแน่วนิ่ง ต่างเชื่อสิ่งตาส่องว่าต้องซื่อ ไม่เห็นเงาเฉางำให้ชำงือ ไม่เห็นสื่อลวงซ้ำล่อส่ำทราม คนเห็นที่ถี่ถ้วนทั้งมวลแท้ กลับย่ำแย่เยินระยำเขาย่ำหยาม แยกเขี้ยวเข่นเข็ญขัดคอยตัดความ หาว่าพล่ามพลาดแพลงสำแดงเพลง ที่คนชั่วมั่วฉาวเมือกคาวกระฉูด หมั่นพูดพูดพันผูกก็ถูกเผง เจ้านายอวยช่วยเอื้อจุนเจือเอง ปล่อยคนโว้งโหวงเหวงคว้างเคว้งวาย คนหนาวนักหนักหนาสิ้นตานอก เหมือนม่านพอกหมอกพันเมื่อผันผาย มีตาในใจเนาเป็นเจ้านาย เห็นกำจายจดจ้องจากห้องใจ กลับยิ่งมืดยืดหม่น ยิ่งท้นหมาง ขวัญเคว้งคว้างซ้ายขวาควานคว้าไขว่ เป็นเช่นนี้นี่หนาคนตาใน คนอื่นไม่มองมา หันหน้าเมิน โลกมันเพี้ยนเปลี่ยนผันทุกวันแผก จึงจำแนกคนนั้นมานานเนิ่น มีทุกข์ก่ายร้ายกาจ มีขาด, เกิน ยังดำเนินอยู่นี่ เยี่ยงนี้นาน (๓๑ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๔๙) _______________________________________________
31 พฤษภาคม 2549 14:19 น. - comment id 580909
ใครไม่ทราบบอกมาว่าเค้าใหญ่ในแปดริ้ว เค้าชื่อ ฐาปัน ถาวร เค้าเอามาขู่ แล้วเค้ายังบอกอีกว่า แล้วลูกทักษิณไม่เคยตายเหรอ อย่างนี้ใช้ไม่ได้
31 พฤษภาคม 2549 21:58 น. - comment id 581048
อึมม์..เดียวนี้คนตกงานเยอะนะคะ งานหายากแย่งกันหางานทำ เลยเหมือนเบียดเบียนกันทั้งคนปกติและคนไม่ปกติ.