สัททุลวิกกีฬิตฉันท์ ๑๙ แย้มรักเพียงนภฉายอรุณหทยแจ่ม เพียงจิตจะพิศแซม รดี หอมกรุ่นพฤกษจะเบิกประดับพชรมี รุ้งเรียวสะท้อนสี ณ ชล หวานหอมนักดุจะอุทัยกระทบรดิกมล ล้างสร่างชะสับสน ผลิใจ อาบอวลอุ่นพิศะประดิษฐ์สถิตะใน วาดหวังระวีใส จะทอ คือรักที่จะประจักษ์ประดับนทิละออ เลื่อมลายประพิมพ์พอ ณ ใจ แย้มรักเผยผลิฤทัยจะจำวจนใด ทุกถ้อยมิเลือนใน จะตรึง แรกรักหวานดุจะแย้มตะวันรตนซึ้ง หอมกรุ่นและรำพึง เพราะเพลิน อ่อนอุ่นนักสุริยา ณ แรกคุณะเจริญ กาลหมุนมิรู้เหิน จะวน แสงแรกเผยผลิสว่างมิลวงหทยกล รำพึงเพราะเพลินยล ณ กาล เพลินพิศเพียงนภเปี่ยมประดิษฐ์อรุณะสาน ถักทอ ฤ เนิ่นนาน ฤทัย.
27 พฤษภาคม 2549 08:46 น. - comment id 579896
27 พฤษภาคม 2549 08:55 น. - comment id 579899
บ่เข้าใจอ่ะ อิอิ แวะมาเยี่ยมพี่รุ่งคะ
27 พฤษภาคม 2549 09:23 น. - comment id 579909
แหะๆๆเหมี๋ยนกะน้องหม๋าวเหมียวคับ มาอ่านก็แล้วกันเนาะ
27 พฤษภาคม 2549 10:35 น. - comment id 579931
หุหุ บอเค่ยบอพ่อ แอ่บเอ่า \" สองกายเป็นหนี่งใจ \" ม่าใซ่ตั้วนิ สอย สอย พู่สาวสำน่อยยั่งบอเค่ยมี่พู่บาว .... เบิงหั่นพู่บาวน่ำม่าต้อยๆแหล่ว ...
27 พฤษภาคม 2549 12:25 น. - comment id 579949
แรกรัก แย้มรักเพียงนภฉายอรุณหทยแจ่ม เพียงจิตจะพิศแซม รดี แย้มเผยผลิรักคล้ายฟ้าฉายแสง ยามอรุณเจิดแจ้งนภาสรรค์ แซมหัวใจไหวพิศเพลินฟ้านั้น ยินดีมั่นกับฝันอันอำไพ ........................................... หอมกรุ่นพฤกษจะเบิกประดับพชรมี รุ้งเรียวสะท้อนสี ณ ชล ร่ำหอมกรุ่นอุ่นอวลมวลดอกรับ เบิกประดับน้ำค้างพร่างเพชรใส ประกายรุ้งเรียวรายสะท้อนใจ ผลิบานในห้วงห้องของดวงมาน ........................................ หวานหอมนักดุจะอุทัยกระทบรดิกมล ล้างสร่างชะสับสน ผลิใจ แสนหอมหวานปานอุทัยไหวกระทบ ที่ซับซบดวงฤดีคลายฟุ้งซ่าน คลี่กลีบดอกหัวใจใสตระการ งามเพียงซ่านซึมซอกทุกตรอกทรวง ............................... อาบอวลอุ่นพิศะประดิษฐ์สถิตะใน วาดหวังระวีใส จะทอ อาบอวลอุ่นยามพิศเพลินประดิษฐ์ มั่นสนิทในคำนึงซึ้งห่วงหวง วาดหวังชมดวงแดดประดับดวง ทอผ่านช่วงภาพใจให้ซ่านตรึง ....................................... คือรักที่จะประจักษ์ประดับนทิละออ เลื่อมลายประพิมพ์พอ ณ ใจ คือรักที่แน่นมั่นฝันละเมียด และละเอียดละออท่ามความคิดถึง ล้ำเลื่อมลายประกายฉายรำพึง ณ ใจหนึ่งถึงอีกใจใสลึกซึ้ง .................................. แย้มรักเผยผลิฤทัยจะจำวจนใด ทุกถ้อยมิเลือนใน จะตรึง ยามแย้มรักจักจำทุกคำถ้อย และเรียงร้อยรอยคำความคิดถึง มิเคยเลือนและไม่ลืมปลื้มคำนึง พร้อมรำพึงประทับซาบซึ้งใจ ....................................... แรกรักหวานดุจะแย้มตะวันรตนซึ้ง หอมกรุ่นและรำพึง เพราะเพลิน แรกรักหวานปานแก้วแพร้วแดดฉาย หอมกรุ่นกรายตรึงจิตคิดฝันใฝ่ รำพึงเคลิ้มเอิบอุ่นกรุ่นฤทัย เพลิดเพลินในความหวานปานแก้วรุ้ง ......................................... อ่อนอุ่นนักสุริยา ณ แรกคุณะเจริญ กาลหมุนมิรู้เหิน จะวน อ่อนอุ่นนักรักแรกตะวันพราว กาลหมุนราวหยุดได้ดังใจมุ่ง หยุดเวลาดื่มด่ำล้ำจรุง หมายพยุงเวลาตรึงไว้หนึ่งกาล ..................................... แสงแรกเผยผลิสว่างมิลวงหทยกล รำพึงเพราะเพลินยล ณ กาล แสงแรกเผยสว่างไสวมิเบลอพร่า ไม่หลอกตาลวงใจคล้ายแผ่วผ่าน รำพึงเพลินแสงรักถักดวงมาน วันเวียนผ่านล้างคืนเก่าคลายร้าวตรม .................................................. เพลินพิศเพียงนภเปี่ยมประดิษฐ์อรุณะสาน ถักทอ ฤ เนิ่นนาน ฤทัย. เพียงพิศฟ้าคราอรุณอุ่นเฉิดฉาย สานประกายเปี่ยมรักล้างขื่นขม ฤๅหยุดแสงอุ่นอวลชวนภิรมย์ ใช้ใจชมรวิวารอย่าผ่านเลย. อะ ... แปลให้อ่านกันนะคะ เห็นบางคนพยายามแปล แต่ไปคนละเรื่อง ขอบคุณที่เข้ามามีส่วนร่วมในกระทู้นะคะ ถูกคนทวงค่าลิขสิทธิ์ซะแล้ว ... แหม จับได้ด้วยว่า เอาแนวคิดมาจากกระทู้ไหน คริ คริ ฉลาดดีนิ ฮา :)
27 พฤษภาคม 2549 12:29 น. - comment id 579950
แรกรักก็เพียงอรุณะฉาย รวิร่ายประกายพรรณ เรืองรองผะผ่องพิสุอนัน- ตะจะโหมประโลมทรวง รังสีสุรีย์วิถิประทีป จรดทวีป ริ เริ่มรวง เรือนรัง นิกร สกุณล่วง ประกอบกิจจะดำรง พันธ์พุ่มผกาปะติณชาติ ชุลิลาสผิว์งวยงง ฟื้นตื่นภวังคจะผจง ประดับพุ่มกระชุ่มชวย หมู่สัตว์อุบัติสริระส่าย ตะละร่ายระบำสวย เริ่มวันผจัญชระชอวย พรจากทิวาวาร แรกรักประจักษะมนรื่น อุระชื่นวะวาบหวาน ดังศรีสุรียะจะประมาณ ศุภแผ้วผะแน่วนัว ยามใดหทัยปฏิสมัคร รสรัก มิหม่นมัว ยามนั้นก็มั่นพิริยะทั่ว มุถวิลมิหวั่นไหว ขอเจ้ายุพามละพิโรธ ขณะ โอษฐะเผยปราย เห็นอกและตกยะย่องยะย้าย ทะลุห้วงทะลวงใจ
27 พฤษภาคม 2549 12:44 น. - comment id 579955
ตอบน้องห้วงคำนึง ค่ะ : ) วสันตดิลกฉันท์ ๑๔ ฤๅชวนนรีวจนรับ ผิสดับ ณ คำใด คำหว่าน ฤ จริง สัตยะไย จะพิสูจน์ ฤ พูดจา ฤๅกล้าประจักษ์วิริยะไหน ทะลุใจมิลวงลา เผยใดจะสื่อวจิมิคลา จะมิคลาย ณ ผ่านกาล คำชายนะหรือก็เพราะจะคลั่ง และจะหลั่งประทับหวาน น้ำผึ้งจะกลายพิษะและพาล ลุวิวารละผ่านไป ไยหนอนรีวจนรับ จะสดับ ณ คำไหน หากเธอนิเสธและจะประไร ฤดิไหม้ ฤ เสรี.
27 พฤษภาคม 2549 18:27 น. - comment id 579987
ขอเกลากลอนที่แปลจากฉันท์หน่อยนะคะ ระหว่างรอ น้องห้วงคำนึง กลับมาตอบฉันท์คืนนี้ เพิ่งรู้ว่า แปลฉันท์ออกมาเป็นกลอนแปดทำให้กลอนแปดไพเราะกว่ากลอนแปดธรรมดาอีกแน่ะค่ะ แต่ความหมายในฉันท์ลึกซึ้งกว่าที่ถูกแปลออกมาอีกนะคะ : ) สื่อเป็นกลอนแปดได้ยากมากจริงๆ แรกรัก แย้มเผยผลิรักคล้ายฟ้าฉายแสง ยามอรุณเจิดแจ้งนภาสรรค์ แซมหัวใจไหวพิศเพลินฟ้านั้น ยินดีเปรมกับฝันอันอำไพ ร่ำหอมกรุ่นอุ่นอวลมวลดอกรับ เบิกประดับน้ำค้างพร่างเพชรใส ประกายรุ้งเรียวรายสะท้อนใจ ผลิบานในห้วงห้องของดวงมาน แสนหอมหวานปานอุทัยไหวกระทบ ที่ซับซบดวงฤดีคลายฟุ้งซ่าน คลี่กลีบดอกหัวใจใสตระการ งามเพียงซ่านซึมซอกทุกตรอกทรวง อาบอวลอุ่นยามเพลินภาพประดิษฐ์ มั่นสนิทในคำนึงซึ้งห่วงหวง วาดหวังชมดวงแดดประดับดวง ทอผ่านช่วงภาพใจให้ซ่านตรึง คือรักที่แน่นมั่นฝันละเมียด และละเอียดละออท่ามความคิดถึง ล้ำเลื่อมลายประกายฉายรำพึง ณ ใจหนึ่งถึงอีกใจใสลึกซึ้ง ยามแย้มรักจักจำทุกคำถ้อย และเรียงร้อยรอยคำความคิดถึง มิเคยเลือนและไม่ลืมปลื้มคำนึง พร้อมรำพึงประทับซาบซึ้งใจ แรกรักหวานปานแก้วแพร้วแดดฉาย หอมกรุ่นกรายตรึงจิตคิดฝันใฝ่ รำพึงเคลิ้มเอิบอุ่นกรุ่นฤทัย เพลิดเพลินในความหวานปานแก้วรุ้ง อ่อนอุ่นนักรักแรกตะวันพราว กาลหมุนราวหยุดได้ดังใจมุ่ง หยุดเวลาดื่มด่ำล้ำจรุง หมายพยุงเวลาตรึงไว้หนึ่งกาล แสงแรกเผยสว่างไสวมิเบลอพร่า ไม่หลอกตาลวงใจคล้ายแผ่วผ่าน รำพึงเพลินแสงรักถักดวงมาน วันเวียนผ่านล้างคืนเก่าคลายร้าวตรม เพียงพิศฟ้าคราอรุณอุ่นเฉิดฉาย สานประกายเปี่ยมรักล้างขื่นขม ฤๅหยุดแสงอุ่นอวลชวนภิรมย์ ใช้ใจชมรวิวารอย่าผ่านเลย. ............. ชักหลงเสน่ห์ฉันท์ ซะแล้วสิ ...
27 พฤษภาคม 2549 22:15 น. - comment id 580020
ทึ่งมากๆ ขนาดผมยังแต่งไม่ได้เลยอ่ะ มาหวัดดีพี่รุ่งค้าฟ
28 พฤษภาคม 2549 10:01 น. - comment id 580057
ข้าน้อยก็ร้อยพะจิมิคล่อง ริสนองเสนอนำ ถ้อถ้อยแถลงวะตะละคำ มิมุสาประการใด ถึงชายจะร้ายระดะสถาน บ่ประมาณคะเนได้ เกินกว่าจะหยั่ง ณ หฤทัย ฤ จะชั่ว ไปทั่วเมือง ชายดีก็มีปรินคเรศ มละเลศะนองเนือง อำไพวิสัยสุวะประเทือง วรชนผลิล้นหลาย นารีก็มีพิษะมหันต์ คุรุทัณฑ์อนันตราย แสร้งเล่ห์เสน่ห์ประทุษะชาย ผิวะกรายก็วายวาง หรือหรือสุดาจะวิเคราะห์แจ้ง วจะแจงระคายคาง เห็นเหตุ และ เลศะนยพราง มธุถ้อยที่ร้อยพูน แม้นแม่มิเชื่อวจนสัตย์ ปฏิพัทธะไพบูลย์ ร่ำโรยระรวยพลวะสูญ อุรดูรจะพูนเข็ญ หากว่าสบถ ณ พจนารถ ตะละภาษมิอาจเป็น ขอวิชชุช่วงประทุษะเห็น ปะทะให้ประลัยลาญ พร่ำขนาดนี้แล้ว เค้าไม่สนอีก ก็ไม่รู้จะทำไงแล้ว ไม่สนตอบก็ได้ (เชอะ) ...........ไปดีกว่า............
28 พฤษภาคม 2549 10:14 น. - comment id 580060
ตอบน้อง ห้วงคำนึง ค่ะ : ) ด้วยเคยประสบทุระ ณ จิต ฤ ละคิดประสบการณ์ รักเลย จะเลยและจะผิผ่าน เพราะประจักษ์มลายหาย ที่พบเพราะชายละสจะศีล ดุจะปีนจะลอบกราย เพียงเพื่อจะชื่นและมละหมาย มิประพัทธ์ ณ ทรวงใน จึงว่ารดีดุจะพิษา ผิจะฆ่าและฟาดใส่ เจ็บร้าว ณ วารจะ ฤ สะใจ และจะให้ระทมซ้ำ ยากเชื่อวจีบุรุษะพาทย์ จะพิฆาตและกระหน่ำ ครวญใคร่ ณ จิต ประพิศะจำ มิถลำวจีลวง พิสูจน์พิจารณ์ ณ วจนา อุทิศาชิวิตหวง ทุ่มเทมิย่อระยะมุทรวง ฤ จะล่วง ณ น้ำคำ.
28 พฤษภาคม 2549 14:14 น. - comment id 580094
เพลงโปรดครับ
28 พฤษภาคม 2549 22:23 น. - comment id 580152
๏ ฤ รติ ณ หฤทัยข้า ฯ.....ดั่งสุรีย์จ้า.................มหาศาล สิริฐิตกนิรันดร์กาล...........ล้ำและโอฬาร...........ตระหง่านงาม ดุจกวิสิพยายาม...............ย้ำประพันธ์ความ......นิยามเปรย อุระปณิธิสิชมเชย.............ดั่งเสมือนเคย..........เฉลยคำ ๚ ๏ ผิว์รติดุจศศีล้ำ.............รัศมีนำ...................ณ ราตรี ขณะศศิชุติเพียงนี้...........รื่นฤทัยมี.................สถิตใจ ผิว์อุระอภิรดีใฝ่...............คงกมลไว้.................มิให้สูญ มนะสุขอภิรมย์พูน...........รักสิเกื้อกูล...............มนุญนาน ๚ะ๛
28 พฤษภาคม 2549 22:30 น. - comment id 580154
พยายามนั่งแกะทำความเข้าใจกับฉันท์ขอรับ งามครับ