หากวันนี้ไร้เสียงแว่วแก้วกวีศรี สุขสุนทรียะรสคงหดหาย เหมือนข้าอยู่ด้วยใจท้อรอวันตาย มิอยากหมายสิ่งใดในโลกา มีชีวิตคงเหมือนซากกากชีวิต หากผลผลิตแห่งอักขระ ณ ปรารถนา ไร้สิ้นซึ่งมนต์ขลังอักษรา แค่เกลื่อนหน้ากระดาษเลอะเปรอะเปื้อนไป คนไทยเป็นเจ้าบทกลอนอักษรสาร แค่ตำนานอันรุ่งเรืองฤาไฉน พลังแห่งบทกวีที่เกรียงไกร มิอาจกลับมายิ่งใหญ่ในใจคน ฤาเกิดมาผิดยุคให้ทุกข์หนัก ใครเล่าจักเข้าใจให้หมองหม่น ท่ามโลกที่ศรีวิไลซ์ใครเล่ายล มีกี่คนเห็นคุณค่าล้าหัวใจ บทกวีคืออะไรแทบไม่รู้ เอ๊ะคุณครูท่านสอนในตอนไหน อ๋อตอนที่เรียนวิชาภาษาไทย แต่นานแล้วจะมีใครที่ไหนจำ ผู้พร่ำเพียรเขียนอ่านงานกวี คล้ายผู้ที่ปล่อยจิตใจไปถล่ำ ลืมหลงยุคต้องทนทุกข์ทุรกรรม ถูกตีค่าให้ตกต่ำพร่ำคนเดียว มิอาจอยู่ร่วมสมัยในยุคนี้ โอ้บทกวีกี่คนหนามาแลเหลียว ซึ้งอรรถรสงดงามไปเพียงดายเดียว คล้ายวันเปลี่ยวคืนว่างเปล่าหนาวหัวใจ หากวันนี้ไม่มีแล้วแก้วกวีศรี สุขสุนทรีย์ข้าจักมีอยู่ที่ไหน คงจะต้องตรอมตรมระทมไป แนบเนาในทางผ่านกาลเวลา เกรียงไกร หัวบุญศาล ๒๔ พฤษภาคม ๒๕๔๙
25 พฤษภาคม 2549 12:35 น. - comment id 579447
อัตคัดคารมคมความหมาย จึงบรรยายไร้บรรยากาศศาสตร์และศิลป์ ไม่ซึมซับซาบซึ้งเข้าถึงจินต์ ดุจศิลปินเรียงถ้อยร้อยอารมณ์ ในบทกลอนมิรุ่มรวยด้วยภาษา รู้คำน้อยด้อยปัญญามาสั่งสม ร่ายความรักบ้างวิถีธุลีระทม ไม่สวยสมวรรณศิลป์จินตนาการ กลอนบทไหนใช่บทกวีที่สูงส่ง อ่านลื่นไหลครบองค์สื่อตรงสาส์น เล่าความนัยย้ำเน้นเห็นเหตุการณ์ เพื่อสืบสานงามล้ำดั่งคำกวี อยากเขียนดาวให้เด่นเห็นภาพพจน์ ให้งามงดดั่งเส้นสายระบายสี ให้กระพริบระยิบพร่างกลางนที ให้เจิดจ้ากระจ่างวจีกว่าที่เป็น อยากจะเขียนความเศร้าให้เศร้าโศก ผจญทุกข์อุปโลกน์โลกแสนเข็ญ เสียงร่ำไห้แตกสลายกลายลำเค็ญ เขียนจนเห็นโลกเขยื้อนสะเทือนใจ เพียงแต่เขียนด้วยใจใส่ความหวัง เพิ่มพลังสานฝันสู่วันใหม่ เพื่อรอยยิ้มอบอุ่นละมุนละไม เขียนต่อไปแม้ห่างกฎเรียกบทกวี
25 พฤษภาคม 2549 12:55 น. - comment id 579529
ครับคุณร้อยแปดฯ ร่วมแรง มิแล้งอรรถถรสบทกวี
25 พฤษภาคม 2549 12:59 น. - comment id 579530
ครับคุณร้อยแปดฯ ร่วมแรงมิแล้งอรรถรสบทกวี
25 พฤษภาคม 2549 17:16 น. - comment id 579589
นี่คงเป็นบทกลอนคนอ่อนไหว คำที่ใช้เหมือนพล่ามยามหงอยเหงา ไร้ความหมายแก่นสารขาดการเกลา มีโศกเศร้าทั้งเรื่องเปลืองอารมณ์ คำบรรยายเลื่อนลอยดูด้อยค่า อาจผ่านตาคนอ่านพาลขื่นขม ถ้อยภาษาเรียบเรียบไม่เฉียบคม จึงถูกถมหม่นหมองคนมองเมิน เพราะขาดคำสัมผัสใจใช้ความคิด ง่ายประดิษฐ์คำห่วยจึงขวยเขิน ขาดรสคำรสความยังห่ามเกิน เนื้อความเดินไม่ชัดอ่านขัดใจ ขาดมุมมองวิถีสอนชีวิต จนมิอาจสะกดจิตใครหลงใหล คนอ่านแล้วรู้สึกเฉยอ่านเลยไป อารมณ์ไม่ลึกซึ้งตราตรึงพอ ทั้งขาดพจน์คติธรรมชี้นำทิศ บอดมืดมิดบนทางก้าวย่างต่อ ไม่นุ่มลึกละเมียดละเอียดลออ ให้เกิดก่อวิสัยทัศน์อัศจรรย์ \"นี่มิใช่บทกวีที่แสนหวาน แต่วิญญาณยังเพียรเฝ้าเขียนฝัน แด่มวลมิตรเด็ดเดี่ยวเลือดเดียวกัน ทุกภพนั้นจักเขียนร่ำคำกวี\" หยิบกลอนเก่ามาร่วมอรรถรสด้วยคน
25 พฤษภาคม 2549 19:25 น. - comment id 579623
คนผ่านมาอีกคน ให้กำลังใจค่ะ เขียนเถอะ เมื่ออยากจะเขียน แล้วกล่อมเกลางานที่พากเพียรให้เป็นผล เมื่อพร้อมนำมาให้ใครใครได้ยินยล ทุกผู้ทุกคน..ย่อมยินดีรับสดับฟัง สีน้ำฟ้าเองเป็นคนที่ฝีมืองานเขียน ยังต้องพัฒนาอีกมาก.. แต่ก็ชอบที่จะเขียน และให้กำลังใจคนเขียนค่ะ
26 พฤษภาคม 2549 03:36 น. - comment id 579701
๏ ร้อยลำนำอักษรผ่านกลอนสวย ปรุงแต่งด้วยหัวใจใส่งานศิลป์ ด้วยมีจิตมิตรภาพตราบฟ้าดิน มิสูญสิ้นศรัทธาแม้คราใด ร่ายกลอนรักแว่วหวานเพื่อสานฝัน พลอดรำพันจนจิตคิดสั่นไหว คำห่วงหาอาทรแทรกซอนใจ ร้อยเรียงนัยเสน่หาเพิ่มค่ารัก ยามกลอนเศร้าขื่นขมก็ตรมแสน โศกถึงแก่นหม่นใจให้ประจักษ์ ร้อยทำนองตรอมตรมเกินข่มนัก ดั่งจมปลักว่ายวนกลน้ำตา กลอนปรัชญาตัวอย่างทางชีวิต หล่อหลอมจิตนักสู้แห่งภูผา ส่วนกลอนธรรมก็เน้นเห็นอนัตตา ล้วนล้ำค่าทุกตอนสอนชีวิน กลอนเสียดสีมีบ้างเป็นบางครั้ง เพื่อยับยั้งสิ่งปลอมจอมปล้อนปลิ้น ใสว่าดำกระด่างอำพรางจินต์ หรือเล่นลิ้นปกปิดจริตตน หลากอารมณ์ชิ้นงานจารอักษร สื่อสะท้อนจากใจไม่สับสน ด้วยวิญญาณ์นักประพันธ์บันดาลดล ในกมลจึงสรรสร้างอย่างตั้งใจ๚ะ๛ ....แวะเอางานเก่ามาแจมนะครับ..
26 พฤษภาคม 2549 15:59 น. - comment id 579811
ฤาลำพังระหว่างเส้นเช่นทางฝัน มีขอบคั่นจริง-ลวงช่วงอ่อนไหว ครั้นบรรจงกลั่นกรองทำนองใจ ด้วยหลงใหลร่ายรจน์ บทกวี ย้ำหยดหมึกตรึกตรองพ้องอักษร เป็นกาพย์กลอนฉันท์โคลงบ่งศักดิ์ศรี ใช่เปรื่องปราดช่ำชองพ้องเมธี เพียงผู้ที่หัดเขียนเลียนแบบครู จำจดจารวรรณกรรมนำสื่อสาร แม้กลอนกานท์ไร้ค่าน่าอดสู ขอร่ายเรียงจินตนาการอันพร่างพรู ด้วยความรู้ยังด้อยคอยพากเพียร วอนเหล่าครูเมตตามาสอนสั่ง ศิษย์จักฟังอรรถรสแล้วจดเขียน ยากฤๅง่ายเพียงใดใคร่ร่ำเรียน ด้วยคำเธียรล้ำค่ากว่าสิ่งใด จักบรรจงบ่งความตามภาษา แล้วรจนาเรียงร้อยถ้อยขานไข อาจผิดเพี้ยนฉันทลักษณ์มากเพียงใด ขออย่าได้มองเห็นเป็นเศษกลอน ด้วยยังหมายขยายความตามใจหวัง หากพลาดพลั้งเผลอบ้างโปรดสั่งสอน อย่าเหนี่ยวรั้งอุดมการณ์ให้สั่นคลอน แม้นบทกลอนเป็นดั่งเกร็ด ..เศษกวี..
26 พฤษภาคม 2549 16:04 น. - comment id 579812
สวัสดีครับทุกท่านที่ร่วมมีความเห็น คุณคนผ่านมา มีบทกวีมาฝาก คุณสีน้ำฟ้า รวมบทกวีเป็นไงบ้างครับ คุณบินเดี่ยวฯ สบายดีนะครับ
26 พฤษภาคม 2549 16:41 น. - comment id 579823
คุณอัลมิตรา ก็อยากให้เป็นเช่นนี้ วอนเหล่าครูเมตตามาสอนสั่ง ศิษย์จักฟังอรรถรสแล้วจดเขียน ยากฤๅง่ายเพียงใดใคร่ร่ำเรียน ด้วยคำเธียรล้ำค่ากว่าสิ่งใด
4 มิถุนายน 2549 00:28 น. - comment id 581740
กวีลงอักขระประพนธ์สวย ใช่ฉาบฉวยไร้สิ้นกลิ่นแก่นสาร ใช่จะคิดแต่ถึงเกรดงานอาจารย์ ขอกราบกรานให้ท่านสนกานท์กวี