เงียบหาย...ไปพร้อม...ลมหนาว จากไปพร้อมเรื่องราว...เหนื่อยหนัก ชีวิต...ไม่เคย...ผ่อนพัก จมปลัก...ในวงจร...ของคนกรุง เช้าตรู่... แหกขึ้ตาตื่น...จนขวัญหาย กิจวัตรมากมาย...เรื่องยุ่งยุ่ง บนรถเมล์...มากคนมุง เหม็นกลิ่นคลุ้ง...เขม่าควัน เช้า... ถึงที่ทำงาน...ขวัญผวา จวนเจียน...8 นาฬิกา...แทบขาสั่น บ้านใกล้...เหมือนอยู่ไกล...อะไรจะปานนั้น ? การจราจร...โอ้!...จาบัลย์...ทำฟั่นเฟือน สาย... รับศึกหนัก...สายตัวแทบขาด งานหนักขนาด...ไส้แทบเคลื่อน เป็นอย่างนี้...อีกกี่เดือน ชีวิตเหมือน...เชือกรัดตัว บ่าย... สาหัส...เพราะงานยังแสนโหด หมื่นโกฏิ...แสนล้าน...งานปั่นหัว ชีวิต...เคยสุข...กลับหมองมัว โศกแทรกทั่วหัวใจ...ไม่สร่างซา เย็น... ิเลิกงาน...ยังกลับไม่ได้ เพราะมีประชุมใหญ่...อยู่คอยท่า กลับดึก...อีกแล้วหนอ...ชีวา ช่วงเวลา...ส่วนตัว...ถูกกินกลืน ดึก... ดึกเท่าไหร่...รถไม่เคยว่าง ยังติดค้าง...แน่นถนน...จนสะอื้น แน่นในอก...ความชอกช้ำ...แห่งค่ำคืน ความขมขื่น...ครอบงำ...ความเป็นไป หลงเหลือ...ความอ่อนล้า...กลับมาบ้าน ยังครุ่นคิด...ถึงงาน...ของวันใหม่ ชีวิต...พรุ่งนี้...จะเป็นเช่นใด? ก็คงไม่...ต่างกันกับวันนี้
16 มกราคม 2545 14:42 น. - comment id 30721
เห็นด้วยจ้า..เหมือน "ต่าง"ที่เราเขียนเลย
16 มกราคม 2545 18:58 น. - comment id 30743
ชีวิตต้องดิ้นร้นเพื่ออยู่รอด มีหลากวิธีทางเดินเหลือเกินครับ
16 มกราคม 2545 22:06 น. - comment id 30796
ชีวิตคนกรุงเหมือนหุ่นยนต์เข้าไปทุกทีแล้วเนอะไขลานให้เดินไปตามตารางเวลาของชีวิต หงุดหงิดไปกับสิ่งแวดล้อมรอบๆกายแต่ก็ช่างระบายเป็นบทกลอนได้ดี
17 มกราคม 2545 02:20 น. - comment id 30824
หาเวลาพักผ่อนให้ตัวเองบ้างสิ อย่างน้อยวันละ 20 นาทีก้อยังดีนะ ^-^
17 มกราคม 2545 02:39 น. - comment id 30831
อ่านแล้วคิดถึงสมัยเรียนอยู่ในกรุงเลยครับ ตอนนี้อยู่ต่างจังหวัด .... มีเวลาว่างเยอะแยะ สำหรับที่จะทำอะไรที่ตนสนใจ นึกย้อนกลับไป ... รู้สึกเสียดายเวาลาที่ติดอยู่บนท้องถนนเหมือนกันนะครับ