ท่านผู้อ่านทุกท่านครับ ร้อยกรองบทต่อไปนี้ ผมเขียนด้วยความหดหู่ใจเป็นที่ตั้ง ขอท้าวความสักนิดนะครับ นับแต่องค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชดำรัส เมื่อวันที่ ๒๕ เมษายน เกี่ยวเนื่องด้วยปัญหาการเมืองนั้น ตอนแรก ทุกฝ่ายปฏิญานน้อมรับในกระแสพระราชดำรัส แต่หลังจากนั้นแล้ว อะไรเกิดขึ้นบ้าง ทุกท่านย่อมทราบดี สรุปก็คือ ต่างคนต่างยังถือทิฐิ ต่างฝ่ายยังจ้องเอาชนะคะคานกัน ประเทศชาติ, ประชาชน อยู่ที่ไหน ไม่มีใครคิดถึง จนสภาพเศรษฐกิจของเราถดถอยก็ยังไม่มีใครรู้สึก ผมอยากถามทุกฝ่ายว่า เมื่อไร? เมื่อไร? จะคืนประชาธิปไตยให้บ้านเมืองเราเสียที เมื่อไร? สัททุลวิกกีฬิตฉันท์ ๑๙ ครวญคำนึงอุระหนาว ณ คราวอดุระเนือง ขุ่นข้นกมลเคือง คดี ไทยแยกแตกสติหมุนกรุณมนะมิมี วุ่นว้าเพราะราวี พะวง ไหนว่าซื่อปฏิญาณประสานหทยะตรง ไยเลี่ยงและเบี่ยงหลง เลอะเลือน แม้จอมราช ธ จะตรัสพิพัฒน์พจนะเตือน ยังบ้ายกระลายเบือน บฟัง ต่างเทิดถือทิฐิล้นอนนต์ปะทะพลัง แน่นฝาก ณ รากฝัง คุไฟ ใครท้วงใครก็มิคร้ามมิขามภิรุกใคร จึ่งไทยซิ่อาไทย อธรรม์ โอ้ครานี้บุระหน่วงระลวงทุพละนำ กรรมกรรมนะกรรมกรรม กระลูน แสนสงสารนระผองพะพ้องทุกขะพูน โศกสรรพมิลับสูญ สิหนอ รอรอโรยสุขะร้างก็ต่างสถิตะรอ ขอขอก็ขอขอ เขษม ยังไป่รื่นฤดิปรีดิ์ทวีรมยะเปรม ห้วงหาวพระพราวเหม ฤเห็น โอ้ทุกหย่อมติณะหญ้าธราดลมิเย็น ครอบคลุ้มคละคลุมเข็ญ มิคลาย เมื่อไร?ภาวะเทวษประเทศอุณหะวาย สมมานสราญหมาย ประมวล เมื่อไร?ศรีปิติส่งประสงค์ถิระมิซวน เลิกผันฉกรรจ์ผวน ไผท เมื่อไร?หนอนระเติบและโตอธิปไตย หรรษานราศัย กสานติ์? (๑๙ พ.ค. ๒๕๔๙) ขออนุญาตอธิบายคำบางคำ สำหรับเพื่อนๆสมาชิกรุ่นเยาว์เข้าใจครับ กระลาย คำนี้แผลงมาจากคำว่า กลาย ที่แปลว่า เปลี่ยนแปลงไป นั่นเอง ภิรุก หรือ ภีรุก หมายถึง หวาดกลัว อาไทย ทีฆสระจากคำว่า อไทย อักษร อ เป็นอุปสรรคภาษาบาลี ใช้เติมหน้าคำมีความหมายว่า ไม่ ส่วนคำว่า ไทย แปลว่า อิสระ ฉะนั้น อไทย หรือ อาไทย จึงแปลว่า ไม่อิสระ ระลวง หมายถึง เป็นทุกข์ หรือ เป็นห่วง (คำเขมร) เหม หมายถึง ทองคำ ติณะ หรือ ติณ หมายถึง ต้นหญ้า (ภาษาบาลี ถ้าสันสกฤต ใช้ ตฤณ) กสานติ์ หมายถึง สงบสุข ________________________
19 พฤษภาคม 2549 12:51 น. - comment id 578287
ผมอยากถามทุกฝ่ายว่า เมื่อไร? เมื่อไร? จะคืนประชาธิปไตยให้บ้านเมืองเราเสียที คำถามว่าเมื่อไร .. จะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อรู้วิธีและแนวทางแก้ไขแล้ว ตราบใดที่ยังงมปัญหาและค้นวิธีแก้กันอยู่ มันก็ยังคงวนเวียนอยู่กับสภาพการณ์เดิม ๆ หากคุณถามว่าเมื่อไร .. ในใจของคุณมีแนวความคิดเช่นไร ในการณ์นี้ ที่จะทำให้สถานการณ์ดีขึ้น
19 พฤษภาคม 2549 13:12 น. - comment id 578296
แต่งได้ไงครับ เก่งจัง เดี๋ยวจะลอกบ้าง
19 พฤษภาคม 2549 13:12 น. - comment id 578297
ต่างฝ่านบอกว่าน้อมรับกระแสพระราช ดำรัส จนป่านนี้ก็ยังไม่ทราบจะไปทางใหน .........สังคมไทยน่าแปลก ความแตกแยกทุกหย่อมหญ้า เมื่อมองท้องนภา ทั่วแผ่นฟ้ายิ่งมืดมน
19 พฤษภาคม 2549 14:51 น. - comment id 578322
สำหรับผมเห็นว่า ศาลท่านน่าจะตัดสินเรื่องต่างๆโดยลงโทษให้จะจะกันไปเลย ผมเชื่อว่า ในที่สุดแล้ว ไม่มีใครสามารถหลีกเลี่ยงกฎหมายสูงสุดของประเทศได้ ต่อให้จะดื้อแพ่งอย่างไรก็ตามเถอะ ลองเชือดไก่ให้ลิงดูสักทีก็ดีนะครับ เช่น กกต. นี่ก็สั่งจำคุก หรือถ้าสืบได้แน่ชัดว่า พรรคไหนจ้างพรรคเล็กลงสมัครรับเลือกตั้ง ความผิดมีมูลสมควรยุบพรรคก็สั่งยุบเลย ให้รู้ไป ใครจะกล้าหือ
19 พฤษภาคม 2549 16:15 น. - comment id 578335
อำนาจตุลาการ มีขอบเขตอยู่ที่ตรงไหนกันคะ คุณตราชู ถ้าไม่มีคดี ไม่มีการฟ้องร้อง ไม่มีโจทก์ ไม่มีจำเลย ไม่มีหลักฐาน พยาน หรืออะไรเลย ตุลาการก็ไม่มีอำนาจเพียงพอที่จะลงมาตัดสินอะไรได้ ความผิดของพรรคใหญ่จ้างพรรคเล็ก เขาไม่ได้ฟ้องศาลไม่ใช่เหรอ เขาฟ้อง กกต. กกต.ก็ยังไม่ตัดสินความให้ยุติธรรม แต่ กกต. ถูกฟ้องศาลเรื่องการจัดการเลือกตั้งที่ไม่เป็นธรรม แต่กฎหมายมีช่องโหว่เพียงพอที่เขาจะดื้อแพ่ง เขาก็อ้างกฎหมายตีความเข้าข้างตัวเองอีกนั่นแล้ว ไม่ชอบธรรม แต่ชอบด้วยกฎหมาย เป็นไปตามกติกา โดยก่อปัญหา นี่คือ สิ่งที่ทำให้คนทำผิดลอยนวลได้ เขาอ้างว่า เขาไม่ผิด เพราะไม่ผิดกฎหมาย จะเอายังไงกับเขาล่ะคะ ก็เลยเป็นปัญหาอยู่เพราะไม่มองปัญหาส่วนรวม แต่มองเพียงเอาตัวรอดไปวันๆ โดยที่คิดว่า เราไม่ผิดกฎหมาย เราทำตามกติกา แต่ไม่มองที่ตัวปัญหา ... ก็เลยเป็นปัญหาซ้ำซาก กฎหมาย มีไว้สำหรับแก้ปัญหาส่วนรวม ไม่ใช่เอาไว้อ้างความชอบธรรมให้กับตัวเอง ถ้าเขาสามารถมองทะลุกรอบของกฎหมาย เข้าไปถึงหัวใจของบ้านเมืองได้ เขาก็จะรู้เลยว่า ควรจะทำอย่างไร ... แต่แล้วมันไม่เป็นเช่นนั้น เขาไปยึดตัวบทกฎหมายที่เป็นข้อๆ เป็นสรณะ ปัญหาก็แก้ไม่ได้ เพราะปัญหาอยู่ที่ความเป็นจริง ณ เวลานี้ เหมือนเราเล่นเกม เราโกงเกมก็ได้ แต่เราทำไม่ผิดกติกา นั่นคือการเอาเปรียบคนอื่นแต่เราก็อ้างว่า คนอื่นเขาไม่เล่นตามกติกา เพียงแต่เขาไม่อยากถูกเอาเปรียบเท่านั้นเอง แล้วเราจะโวยๆ ได้ยังไงว่า คนอื่นไม่เล่นด้วยเลยทำให้เป็นปัญหา กรรมการก็เอียงมาข้างเรา เพราะกรรมการพยายามจัดการแข่งขันให้มีขึ้นให้ได้ พอกรรมการถูกใครสักคนมาตัดสิน แล้วแนะว่า กรรมการไม่สมควรมาทำหน้าที่กรรมการต่อไป กรรมการก็ดื้อต่อ บอกว่า ผมทำตามกติกาทุกอย่าง ผมไม่ผิด แต่ปัญหาก็คือ เกมนี้เล่นต่อไปไม่ไหวแล้ว แต่กรรมการก็ยังอยากจะให้มันดำเนินต่อไป แล้วทำทุกวิถีทางแม้จะสิ้นงบประมาณไปสักเท่าไหร่ก็ตาม และเงินงบประมาณนั้นก็มาจากคนดูช่วยกันลงขัน มันยุติธรรมดีแล้วหรือ จริงๆ เรื่องมันง่ายนิดเดียว ... แต่คนที่ดำเนินการอย่างไม่ชอบธรรมเพียงกลุ่มเดียวทำให้ทุกอย่างเป็นปัญหา แล้วปัดความผิดทั้งหมดทั้งปวงให้กับอีกฝ่ายหนึ่ง โดยที่อีกฝ่ายหนึ่งเป็นผู้ถูกกระทำตลอดมา เพียงแต่เขาลุกขึ้นสู้แข็งขืน ไม่เป็นไปตามเกมที่ถูกคุมเกมโดยอีกฝ่ายที่ได้เปรียบ และโดยกรรมการที่พยายามจัดการแข่งขันให้อีกฝ่ายเป็นฝ่ายชนะในทุกสนามเกมนั้นๆ ดิฉันมองภาพการเมืองเป็นแบบนี้นะคะ ... รายละเอียดที่เบี่ยงประเด็นไป ดิฉันขอผ่าน เพราะถือว่า เป็นจุดเล็กๆ เป็นชนวนที่จะทำให้ฝ่ายที่ไม่ชอบธรรมอ้างขึ้นมาเพื่อที่จะทำให้เขาดำเนินการคุมเกมทางการเมืองเพื่อ \"ผลประโยชน์\" บางอย่างได้ต่อไป ดีใจที่คุณหญิงจารุวรรณ ขอตรวจสอบงบประมาณการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาตามความเป็นจริงว่า นำไปทำอะไรบ้าง คิดว่า จะเป็นจิ๊กซอว์ที่ทำให้เห็น \"ปลาเน่า\" ได้ว่า ควรจะเอาปลาเน่าตัวไหนทิ้งบ้าง เพื่อไม่ให้เหม็นไปทั้งข้อง กรรม มีจริงค่ะ ... คุณตราชู แต่ขอบเขตของอำนาจก็เป็นสิ่งที่ต้องดำรงไว้ มิฉะนั้น ปัญหาอื่นๆ จะตามมา เป็นข้ออ้างของผู้กระทำไม่ชอบธรรมแล้วหาประเด็นที่จะดำรงตนให้มีสถานภาพและอยู่รอดได้ โดยไม่รับผิดชอบหรือเสียสละใดๆ ดิ้นรนทุกวิถีทางเพื่อให้ตัวเองได้มาซึ่งอำนาจและเงิน รักษาไว้ซึ่งตำแหน่งชื่อเสียง และหน้าตาของตัวเอง แต่ยิ่งไม่รีบเสียสละ ก็ยิ่งเน่าทุกวันๆ ถ้ายอมเสียสละแล้วจะเป็นผู้สง่างามยิ่งนัก ดิฉันเชื่อเช่นนั้น คนที่ยอมรับความจริงในสิ่งที่ตัวเองผิดพลาดได้ แล้วแก้ปัญหาเมื่อรู้ว่า ตัวเองเป็นผู้ก่อ ก็จะทำให้ปัญหาทุกอย่างจบลง กล้าทำก็ต้องกล้ารับ จึงจะเป็นวีรบุรุษอย่างแท้จริง สุดท้าย ... ความชั่วแม้เพียงนิด อย่าคิดทำเลยเลยดีกว่าค่ะ (จะทำให้ทำความชั่วอื่นๆ มาปกปิดความชั่วนิดน้อยของตนนั้นไม่มีที่สิ้นสุดต่อไป) (ขออภัยแสดงความคิดเห็นยาวสักหน่อย)
20 พฤษภาคม 2549 15:50 น. - comment id 578539
มันผิดมาตั้งแต่นาย ทักษิณ ชินวัตร ยุบสภาหนีคดีมาแล้วครับ.. ยุบสภาหนีการตรวจสอบ แล้วลากเรื่องต่างๆ เข้ามา กะจะให้ประชาชนอุ้มเข้าสภา แต่ผมถามว่าเมื่อเลือกตั้งแล้วคนกลุ่มนั้นเขาจะหายสงสัยไหม.. มันก็ไม่.. ทั้งๆ ที่รู้อยู่ก็ยังทำ ถ้ามีความโปร่งใสจริง ลงจากอำนาจ แล้วปล่อยให้มีการตรวจสอบสิ แล้วค่อยกลับเข้ามาใหม่ ถ้าเป็นอย่างนี้ บ้านเมืองก็คงไม่มีปัญหา มากกว่านี้..