หมี่เป็ด ผู้ชายนัยน์ตาสนิมเหล็ก
๑). ที่รัก& เดี๋ยวอีกสักเพียงครู่ก็ตรู่รุ่ง กลิ่นดอกเช้าแสนหอมจะหอมฟุ้ง ชโลมคุ้งขอบโลกมาโกรกเรือน อีกเพียงมิกี่กะพริบของดวงดาว ความชืดหนาวแสนมืดจะจืดเฝื่อน เพื่อจะทอแสงรางขึ้นรางเลือน แล้วแรเลื่อนไล่รางจนรางราง แหละอีกมินานเลยจักเผยภาพ อันอาบแสงพรายแดดสายพร่าง ส่องฉาดสาดฉายทุกสายทาง จัดจ้านสานสางขึ้นสางฟ้า นี่คือเรือนสุดท้ายในชีวิต หลังจากติดปีกบินทุกถิ่นท่า ที่จะพักความหนักหน่วงของดวงตา และดวงใจอ่อนล้านิรันดร์กาล ๒). เคยไหม?.-ความมืดดำที่งำชีวิต นั้นคลุ้มทิศครึ้มเหมือนมิเคลื่อนผ่าน ท่วมท้นล้นทะลักจากจักรวาล ขนาบกร้านขนานกร้าวทุกเท้าทาง เคยไหย?-ดั่งดวงตานี้ฝ้าหม่น มืดมนแล้วโลกที่โศกสร้าง และยิ่งทุกขณะตานี้ฝ้าฟาง ยิ่งเดินก้าวเท้าย่างบนทางรก นั่นแหละ-ทุกโขดเขินฉันเดินมา เหวชะโงกโตรกผาและป่าปรก แต่ละหนแห่งเยือนเหมือนนรก ให้ตื่นตกตระหนกขวัญและฝันร้าย ฝันร้ายมาตลอดชีวิตการเดินทาง ฝันระหว่างทางทอดตลอดสาย นั่นแหละ-การกัดกรามสู้ความตาย ที่ฉันบ่ายใบหน้าเข้าหามัน! ๓). ดึกสงัดหนาวเทิ้มมาเติมดึก สักเพียงพรึกเป็นเพื่อนก็เฝื่อนฝัน ดวงตา-ชะตากุมด้วยกลุ่มควัน ดวงใจจึงไข้ครั่นตะครอคลอ มากอดเข่าร่ำไห้อยู่ดายเดียว ในเรือนเปลี่ยวหนาวลมที่ห่มห่อ กอดตนเองสะอื้นจนขื่นคอ ถั่งทอน้ำตาจนพร่าพราย สวยแท้ความเศร้าโศกของโลกระยำ หวานล้ำความขมแค้นนับแสนสาย หอมเหลือกลิ่นความเศร้าที่คาวคาย โชคร้าย-ฉันยังมีซึ่งชีวิต!! ๔). เธออยู่ ณ ที่ใดโลกใบนี้? คุ้งฟ้าราตรีนี้มืดสนิท ชโลมอาบฉาบโลกจนโชกทิศ โซมมืดจนมืดมิดสนิทฟ้า มืดมนจนมิเห็นสักเส้นแสง ที่ดาวแต่งให้เห็นสักเส้นค่า มืดมิดสนิทห้วงบดดวงตา อันเฟือนฝ้าฝาดดวงของห้วงใจ เธออยู่ที่ใด ณ โลกใบนี้? ชีวิตที่ฉันเคย-เธอเคยไหม? หนาวลมพรมระบัดที่กวัดไกว นี้ชื้นไอหนาวเยือกสุดเฮือกแล้ว เคยไหม?-ความเหน็บหนาวในชีวิต ห่มเธออยู่แนบชิดทุกทิศแถว เคยไหม?-หวังสักพราวดาวดวงแพรว กลับดวงแก้วแวววับนั้นวับวาย สวยแท้ความเศร้าโศกหนอโลกระยำ หอมล้ำความขมแค้นนับแสนสาย หยาดน้ำตารี่รุดเม็ดสุดท้าย มือฉันป้ายพรายฝาด-แล้วปาดทิ้ง! ๕). เมื่อใดจะทอแสงรางขึ้นรางเลือน ยิ่งดูเหมือนดึกคล้อยยิ่งอ้อยอิ่ง มีเพียงอายลมหนาวมากราวติง ลั่นกริ่งกังสดาล ณ ชานเรือน โอความมืดดำที่งำวิญญาณ หนาวสะท้านสิ้นไร้สักใครเพื่อน โอโขดเขินเนินเขาที่ก้าวเยือน ยิ่งดูเหมือนนรกตามสุมอกมิวาย สวยแท้ความเศร้าโศกอันโชกชุ่ม ทุกเหลี่ยมมุมงามแท้-ความแพ้พ่าย เสียงสะอื้นฟังสิ-จะอธิบาย ชีวิตก่อนความตายจะกุมกำ ฉันกอดเข่าร่ำไห้อยู่ดายเดียว ขับเคี่ยวความเจ็บปวดที่หวดย่ำ ในโลกหนาวชืดแสนมืดดำ รอหอมล้ำแสนเศร้าที่เช้าปรุง ที่รัก& เดี๋ยวอีกสักเพียงครู่ก็ตรู่รุ่ง เรือนจะไหม้ควันคลุ้มเป็นกลุ่มคลุ้ง และศพสดสะดุ้งเมื่อถูกไฟ! มันใกล้จะเช้าละยังหว่า เฮ้อออออออออออออออออ
18 พฤษภาคม 2549 09:00 น. - comment id 573382
เข้ามาเป็นแสงอาทิตย์ยามเช้า ให้ศพสะดุ้ง ......ช่างว่าดีนึ
18 พฤษภาคม 2549 10:41 น. - comment id 577932
เฮียหมี่............... นอนไม่ห่มผ้านี่ ก้หนาวสิ ทีหลังนอนห่มผ้า หรือไม่ก็ห่มเนื้อ จะได้ อุ่นกาย ไม่หนาวแล้วฟุ้งซ่านไงครับ อิอิอิอิอิอิ