ยามเช้า

โฉบเฉี่ยว

อรุณรุ่งเรืองอุไรรวีวรรณ
สุรีย์ฉันเฉิดฉายระบายแสง
สาดส่องสีสดสว่างกระจ่างแดง
ทุกหล้าแหล่งเรืองรองผ่องอำไพ
       ลมโชยฉิวชื่นชื่นรื่นนาสา
มวลผกามาลีสีสดใส
โปรยกลิ่นหอมระเหยอวลยลยวลใจ
ล่องลอยไปไกลถิ่นกลิ่นขจร
        ไม้เขียวชุ่มชอุ่มชื้นยืนสล้าง
หยาดน้ำค้างพร่างพรายใสสะท้อน
ราวกับเพชรพรรณรายพรายอมร
จรัสชอนยอนระยับวับวับพราย
          เหล่าผีเสื้อหลากสีสะพรั่งบิน
กระพรือผินผวนผกผงกผงาย
ทั้งเหลืองขาวพราวตาประดาลาย
ราวจะร่ายเริงระบำรำแสดง
            บ้างพะนอคลอดวงพวงผกา
หวนเหหาหันวับลงจับแฝง
พระพายพัดพรมพลิ้วจะปลิวแรง
บ้างพลัดแพลงผลิกผินบินกระพรือ
             วิหกเหินเวหานภาห้วง
เข้าผาดดวงสุริยันบินผันผือ
เป็นเหล่าเหล่าเฝ้าร้องก้องระบือ
เซ็งแซ่อื้ออึงเสียงบินเรียงราย				
comments powered by Disqus
  • วนกวี

    8 พฤษภาคม 2549 18:15 น. - comment id 575750

    กว่าบรรเลงเสร็จก็เที่ยงพอดี
    ผมไม่ทันดูหรอกยามเช้าน่ะเพราะตื่นซะเที่ยงเลย ไงก็เขียนยามเที่ยงบ้างสิ 46.gif46.gif
  • minin

    8 พฤษภาคม 2549 23:10 น. - comment id 575795

    6.gif เพราะที่สุดในโลกเลยคะ 11.gif
  • เพียงพลิ้ว

    9 พฤษภาคม 2549 09:29 น. - comment id 575838

    ยามเช้าซุกผ้าห่มกลัวลมต้อง
    กลัวผิวน้องจะเจ็บเพราะเหน็บหนาว
    หลับอุตุไม่รับรู้สักเรื่องราว
    กลัวผิวร้าวหากตื่นเช้าจนเกินไป อิอิ
    
    เพียงพลิ้วมั่วอีกแหละ
    เช้านี้ปวดหัวจัง
    ไม่อยากตื่นเลยค่ะ
    
    
    36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif
  • กระต่าย

    9 พฤษภาคม 2549 10:33 น. - comment id 575858

    รุ่งอรุณสาดส่องต้องแมกไม้
    นกกามากมายบินในใต้หล้า
    กระต่ายหลับอุตลุดลืมเวลา
    ตายละหว๊าเช้าแล้วตื่นโดยไว
    ก็พี่กานต์มั่วก่อนกระต่ายก็มั่วตามค่ะตามประสาพี่น้องที่รักกันอิๆๆ8.gif36.gif
  • สดายุ

    9 พฤษภาคม 2549 12:56 น. - comment id 575893

    ยามเช้า
    
    ๑. มาลีอวลกลิ่นฟุ้งแต่รุ่งสาง
    แทรกระหว่างช่วงจันทร์ผละพันแสง
    ลมอุษาผ่านลำมาย้ำแยง
    ก่อริ้วแหล่งเกลื่อนเกล็ดของเพชรร้าว
    
    ๒. ชั่วโคมฟ้าลอยดวงขึ้นสรวง/ส่อง
    หมอกจำต้องจำพรากจำจากหาว
    นานเพียงใดน้ำค้างหยดพร่างพราว
    จะยังวาวแสงวับให้รับรู้
    
    ๓. อ่อนไหวต่อปรากฎ..จึงหมดสิ้น
    เลือนจากถิ่นจากที่เคยมีอยู่
    คน/พฤกษ์/สัตว์/ฟ้า/ดิน/ทั้งสินธู
    ยากเลี่ยงสู่วงเวียนการเปลี่ยนแปลง
    
    ๔. ช่วงคำนึงไหวหวั่นของวันเก่า
    ล้วนเปลืองเปล่าสับสนกลางหนแห่ง
    เพียงหนึ่งผู้ตาต่ำต้องสำแดง
    วนสอดแสร้งสร้างซ้ำรอยจำนง
    
    ๕. ยินบรรหารปรากฎเป็นพจน์สวย
    ล้วนฉาบด้วย..แง่มุมความลุ่มหลง
    ร้อนในอกจากคิดจักปลิดปลง
    แค่เสพมงคลถ้อย..ใช่ลอยพ้น
    
    ๖. เตือนตาทุกสบต้องครรลองโลก
    ที่โบยโบกทำนองเพลงหมองหม่น
    เตือนจิตตัวอย่าพลั้งสู่วังวน
    ที่ทุกข์ทนทดท้อนั้นรอคอย
    
    ๗. ชั่วเพียงคิดผ่านคำแล้วย้ำขาน
    คืออัตตาเบ่งบานออกผ่านถ้อย
    ลืมตัวตนตามคิดจนจิตลอย
    คำก็พลอยกดชีพเทียวบีบคั้น
    
    ๘. กำเนิดท่ามขอบขันธ์ห้วงอรรณพ
    ทุกสิ่งสบส่งให้จิตไหวหวั่น
    ทุกสิ่งทราบบันลือ/หลง/ดื้อรั้น
    แต่กระนั้นโง่อยู่ไม่รู้แล้ว
    
    ๙. เหมือนเข้าใจตัวตน...ทั้งคนอื่น
    จึงพูดขืนกลบแก้อยู่แน่แน่ว
    สบตาที่วาบเต้นจึงเห็นแวว
    ว่าเพียงแนวข่มเข็ญบนเส้นทาง
    
    ๑๐. มาลีอวดสีงามในยามสาย
    หอมกำจายภู่วนทั้งบนล่าง
    หวานหอมดังข่ายขุมแห่งหลุมพราง
    รสจักจางจากลิ้นได้สิ้นฤๅ ?
  • โฉบเฉี่ยว

    9 พฤษภาคม 2549 17:24 น. - comment id 575957

    คุณวนกวี
          ยามบ่ายคล้อยค่อยตื่นเมื่อคืนดึก
    พอรู้สึกเสียดท้องร้องดังจ้อก
    ยังวิงเวียนหวิวหน้านัยตากลอก
    ไม่ลุกหลอกหลับต่อขออีกงีบ
       ขอบคุณครับ
         โฉบเฉี่ยว
    
    คุณminin
          แค่พอฟังยังก่อนยังอ่อนรส
    ต้องเติมบทบอกอารมณ์ประสมส่วน
    อุปมาหาความตามกระบวน
    ยังไม่ถ้วนทุกที่ช่วยติติง
        ขอบคุณครับ
         โฉบเฉี่ยว
    
    คุณเพียงพลิ้ว
          เช้าไม่ลุกซุกตัวคลุมหัวโป่ง
    ตะวันโด่งแดดส่องไม่มองไหน
    หลับตาปี๋นี่เดายังเช้าไป
    ลุกไมไหวได้อีกนิดยังติดนอน
          ขอบคุณครับ
           โฉบเฉี่ยว
    
    คุณกระต่าย
    
          ลุกได้แล้วแจ้วเสียงคนเลี้ยงไก่
    บอกไวไวอย่าช้าเดี๋ยวจะสาย
    พอลุกตื่นขึ้นมายังตาลาย
    เดินเซส่ายซ่วงซึมบ่นพึมพำ
              ขอบคุณครับ
               โฉบเฉี่ยว
    
    
    คุณสดายุ
          
        อโณทัยไขแสงแจ่มแจ้งฟ้า
    มวลผกากลีบกรายรับสายแสง
    สะท้อนสีสดสะพรั่งทั้งเหลืองแดง
    โชยกลิ่นแรงลอยไปไม่บางเบา
          ภมรภู่รู้กลิ่นไม่สิ้นรส
    ยากจะอดอาลัยหาผกาเคล้า
    ย่อมร่อนร่ายเร่แล่นแดนลำเนา
    สู่ความเร้ารสหวานละลานใจ
    
            ขอบคุณครับ
               โฉบเฉี่ยว
  • สดายุ

    9 พฤษภาคม 2549 20:42 น. - comment id 576018

    พะยอมไพรส่งกลิ่นประทิ่นหอม
    พลิ้วห้อมภุมรินถวิลสรร
    โหยรสจรดหาลดาวัลย์
    กระชั้นเกสรเข้าฟอนเฟ้น
    
    หอมพบูภูู่หนอไม่พอที่ี่่
    กระหายมีปรี่สุมเข้ารุมเข่น
    หวานนั้นกระสันนักเกินจักเร้น
    คล้อยเค้นกำซาบเอาฉาบลิ้น
    
    สวยสดสีแต้มยามแย้มกลีบ
    จับจีบโค้งงอนขจรกลิ่น
    เกสรเกาะหยดเป็นรสริน
    ฤๅจะสิ้นเสน่หากับผาณิต
    
    หอมพธูตูหนอเพียรรอคลี่่
    วนศรีด่ำหวานสะท้านจิต
    อันเล่ห์เสน่หาแม้นยาพิษ
    แต่ติดจะคิดพรากช่างยากนัก
    
    กุสุมาผาณิตพิชิตภู่
    เกลือกอยู่อภิรมย์ย่อมบ่มกัก
    นุสบาผาณิตยามชิดชัก
    จะให้หักใจจากคงยากแล้ว
    
    พระพายแผ่ริ้วพฤกษ์พลิ้วไหว
    โอษฐ์ไล้สัมผัสพรรณก็สั่นแผ่ว
    เห็นพลิ้วของริ้วร่างนั้นพร่างแพร้ว
    เป็นแก้วเกสรสะท้อนสะท้าน.
  • โฉบเฉี่ยว

    10 พฤษภาคม 2549 11:28 น. - comment id 576121

    คุณสดายุ
    
    .     อรุณฤกษ์เบิกงามอร่ามฟ้า
    กุสุมาเหมือนว่ารู้ราศี
    เป็นวาระจะแสดงแห่งมาลี
    ประโคมรวีสีสันวรรณวิไล
           สุดกลิ่นรสสุดสีที่มีหมด
    ออกปรากฏงดงามวาบหวามไสว
    สะพรั่งช่ออรชรขจรไป
    หอมกลิ่นไกลอบอวลชวนภิรมย์
         อีกเกสรซ่อนรสหยดน้ำหวาน
    อันซึมซ่านตระการจิตผลิตผสม
    เสน่ห์สีแซมกลีบจีบอารมณ์
    ชวนดอมดมดึงใจในผกา
        หมู่ภมรชอนไชอาลัยรส
    เพราะเหลืออดรสหวานก็ควานคว้า
    เข้าคลุกเคล้าเคียงคลออยู่รอรา
    เสน่หาน่าภิรมย์นิยมนาน
         เป็นครรลองของธรรมดาในสากล
    ให้เวียนวนระวิงระไวขวักไขว่พล่าน
    ให้เหยื่อล่อลวงใจอาลัยลาน
    เพื่อสืบสานพันธ์ไว้ให้อุดม
           ไม่เห็นหวานหรือจะพล่านเข้าไปคว้า
    ไม่เห็นค่าหรือจะเคียงไปเรียงสม
    ไม่เห็นสวยหรือจะสอยไว้คอยดม
    ไม่นิยมหรือจะยอมไปน้อมเอา

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน