หมี่เป็ด ผู้ชายนัยน์ตาสนิมเหล็ก
๑). ท่านกับข้าพเจ้า- เราต่างสุมความเหงาความเศร้าสร้อย ทุกรอยเท้าก้าวไปล้วนไร้รอย ล่องลอยไปทั่วไร้ตัวตน ท่านกับข้าพเจ้า- เราต่างยิ้มแสนเศร้าแสนเหงาหม่น เศษวิญญาณกระจัดกระจายทุรายทุรน เกลื่อนกล่นว่อนเวี่ยลงเรี่ยราย เรา- ฝุ่นเขม่าปีเดือนที่เปื้อนป้าย ปกปิดความเบี้ยวบุบของรูปกาย และพรางแผลพร่างพรายที่ลายพร้อย ๒). ปีเดือนเคลื่อนลุปัจจุบัน คืนวันงามงดยิ่งถดถอย เราเหลือปฏิทินกี่มากน้อย ที่คอยเวลาขีดฆ่าวัน เวลาอายุที่ลุล่วง เหลือเพียงดวงตาข้นเคยโชนฝัน ท่านกับข้าพเจ้าที่เท่ากัน คือความเหงาเท่าทันเท่านั้นเอง ท่านกับข้าพเจ้า- ไดโนเสาร์ชราผู้ก้างเก้ง โดดเดี่ยว สิ้นหวัง วังเวง แค่นเปล่งคำรามในลำคอ เราเป็นสัตว์บาดเจ็บแห่งยุคสมัย อุกาบาตลูกใหญ่นั้นไล่จ่อ ข้าพเจ้าม้วนหดตัวขดงอ เขานอเขี้ยวเล็บถูกเก็บไว้! ๓). ลึกลงในดวงตาข้าพเจ้า คือองศาแผดเผาที่ผ่าวไหม้ ค่อยค่อยมอดทีละนิดชีวิตวัย กร่อนก้อนเนื้อหัวใจทีละน้อย ท่านเดินสวนทางข้าพเจ้า ดวงตาดวงเหงานั้นเศร้าสร้อย อ้อนวอน ร้องขอ รอคอย เปลี้ยง่อยใบ้บ้าล้าแรง ลึกลงในดวงตาข้าพเจ้า คือหลุมเปล่าลึกลับและอับแสง ไร้เส้นศูนย์สูตรไร้รุ้งแวง แห้งแล้งหนาวมืดอยู่ยืดยาว ลึกลงในตาสองดวงของท่าน ความดิบด้านยิ่งกลบยิ่งทบท่าว จนที่สุด-เสียงเปราะกะเทาะร้าว ก็แตกกราวเม็ดดวงลงร่วงพรู ท่านสบสายตาข้าพเจ้า ความว่างเปล่าพุ่งโถมเข้าโจมจู่ ข้าพเจ้าเขม้นเพ่งเขม็งดู เห็นอยู่ชัดชัดนั้นสัตว์ร้าย! ๔). เราตายไปแล้วสหายรัก วิญญาณอัปลักษณ์เราแหวกว่าย จากต้นทางถนนที่ฝนพราย ยังสุดสายถนนที่ฝนพรำ แล้วเวียนย้อนกลับไปทางสายเก่า จากเช้าไปจบที่พลบค่ำ ด้วยบทเพลงเศร้าเศร้าที่เราฮัม เป็นประจำและแสนธรรมดา เราตายไปแล้วสหายรัก เห็นเพียงซากอัปลักษณ์ของดวงหน้า ลมหายใจเน่าเหม็นนั้นเย็นชา และวอมแห่งแสงตาไร้อารมณ์ เราเป็นสัตว์บาดเจ็บแห่งยุคสมัย ข้าพเจ้าร้องไห้-ท่านร้องห่ม มือที่กางกรงเล็บ-เราเก็บคม เพื่อดิ่งจมความว่างอันว้างไร้ โดยมิเคยกระทำตั้งคำถาม ไร้ความงุนงงความสงสัย เราข้ามคืนข้ามวันเพียงทันใด หัวเราะร้องไห้-เป็นไปเอง ข้าพเจ้าดื่มอย่างหนักหน่วง เพื่อเติมความกลวงให้เต็มเป่ง ข้าพเจ้าเฆี่ยนสัตว์ร้ายในตนเอง ได้โนเสาร์ก้างเก้งก็เปล่งคราง ๕). เคว้งคว้างและเศร้าอย่างบัดซบ เมาพลบแล้วสะดุ้งตื่นรุ่งสาง ท่านคำรามลำคอตลอดทาง พยักหน้าอ้างว้างอยู่รางเลือน ท่านทักข้าพเจ้าอย่างเศร้าสร้อย เผยรอยยิ้มชืดอันจืดเจื่อน เราขีดฆ่าวันที่เป็นปีเดือน โดยเลื่อนร่างซากเดินลากมา กี่ครั้งแล้วที่ทักข้าพเจ้า? ขณะข้าพเจ้าเมา-ท่านบ่นบ้า กี่ครั้งแล้วที่พบเราสบตา ไดโนเสาร์ชราทั้งสองตัว เราคือสัตว์ไร้สีไม่มีชื่อ ซึมกระทือโทรมทรุดกันสุดขั้ว ข้าพเจ้าผ่านค่ำด้วยความกลัว สะอื้นรัวร่ำไห้อยู่ดายเดียว ที่สุด-ทั้งท่านแหละทั้งข้าพเจ้า แค่สัตว์เชื่องเงื่องเหงาผู้เปล่าเปลี่ยว เราจ้องหน้าเบี้ยวบิดดวงซีดเซียว นั่นเขี้ยวสัตว์ดุเราผุแล้ว! ...................... .................... รอการสิ้นชีวิตอันซีดเซียว กาลเวลาย่อยเคี้ยวเราเดี๋ยวใจ!
2 พฤษภาคม 2549 22:13 น. - comment id 574530
ความหมายหลายหลากลึก ผนึกอยู่ข้างในนั้น เป็นปรัญชาประชดประชัน อ่านแล้วมันส์ในอารมณ์ ใช้คำสละสลวย เพราะ และเพราะยิ่ง
3 พฤษภาคม 2549 07:56 น. - comment id 574572
:) เหมารวมยกเข่งเลยนะท่าน
4 พฤษภาคม 2549 04:53 น. - comment id 574747
4 พฤษภาคม 2549 13:00 น. - comment id 574871
เราไม่มีวันตายสหายรัก กระดูกหักเราคงทรงคุณค่า เศษซากศพชั้นดีมีราคา จากนรกกลับมาพิพิธภัณฑ์ ลึกลงในกระบอกตาข้าพเจ้า ฉาบฉายเงานักฆ่าผู้ล่าขวัญ เสียงคำรามแทรกไล้ทุกไรฟัน ผ่านลำโพงโพล่งสั่นทุกหัวใจ เรายังยืนอยู่ได้สหายรัก ซ้ำเป็นที่รู้จักผ่านยุคสมัย ลวดโครงเหล็กมหึมาผูกคาไว้ ร้อยซากไส้ทะลุสิ้นถึงวิญญาณ หวัดดีฮะน้องหมี่
4 พฤษภาคม 2549 13:21 น. - comment id 574878
ข้าพเจ้าตายก่อนตายแล้ว..ท่าน