๑. แล่นแตร แหมเป่าเราเองเพลิน ลายแคน ม่วนเกินห้ามใจไหว ออกทาง ย่างขยับด้วยจับใจ ลีลา ลอกไหนล่ะหนอนั่น ๒.อ๋อทาง แขกระบำกะลำซิ่ง อย่างลิง เล่นน้ำขำปนขัน เป่าแคน แล่นตรอยร้อยสัมพันธ์ เธอรำ โค้งฉันหน่อยเพื่อนเพลง ๓.สงกรานต์ บ้านนาพาเพลินใจ บ่มี ผู้ใดมาข่มเหง ทุกคน ล้วนสมัครใจนักเลง เอื้อเฟื้อ บ่เบ่งอวดกบาล ๔.เล่นน้ำ เหนื่อยแล้วมาร้องรับ พิณแคน ขยับเป็นลายหวาน สาโท แจกจ่ายเป็นได้การ อยากให้ เพลินนานก่อนคืนกรุง ๕.กลับแล้ว บ้านเราคงเศร้าหงอย ใครหนอ รอคอยอยู่ขอบทุ่ง รอรัก มานำมาบำรุง ล้อรุ้ง วงงามตามม่านฟ้า ๖.แล่นตรอย ถอยแคนแตรแล่นแตร พิณแหย่ เพลงหยอยหน่อยเถิดหนา บอกเพื่อน ว่าเรายังเนานา สงกรานต์ ปีหน้าคืนมาเพลิน..
15 เมษายน 2549 13:06 น. - comment id 541714
ผมเพิ่งกลับจากประชุมกรรมการเลือกตั้งสว.ประจำหน่วยมา เด็ก ๆ ยังสาดน้ำอยู่ตามทางแยะนะครับ วันนี้ไม่ค่อยมีแดด อากาศก็เย็นสบายๆ ทักทายคุณผู้หญิงไร้เงา สบายใจดีใช่ไหมครับ --------------- เขย่าแคนหยอก คำ เขย่า มันไม่เข้ากับธรรมชาติของแคนที่ใช้เป่าเอาเลย แต่ผมใช้ เพราะติดลีลาการเขย่าสาย เพื่อให้ได้เสียงสั่นยาว ๆ ของเครื่องดนตรีประเภทดีด พวกพิณ กับกีตาร์ครับ จริง ๆ มันก็เป็นการออกลีลาท่าทางให้สนุก ล้อกันระหว่างคนเล่นพิณกับคนเป่าแคนครับ เมื่อดีกรีของสาโทได้ที พี่น้องก็เริงร่าสุดเหวี่ยง แคนซึ่งเขย่าให้เกิดเสียง แบบเขย่าสายไม่ได้ ก็เอาท่าทางเข้าว่า เอาลีลาเข้าไว้ ก็ทำนองคุณเบิร์ดธงชัย ดีดขาตั้งไมค์เลียนท่าทางของคุณเสกโลโซตอนออกคอนเสิร์ทคู่กัน ประมาณนั้นนะครับ-แฮ ไปงานดินเนอร์.. น่าสนใจดี เก็บเรื่องมาเล่านะครับ ผมจะตามอ่าน ขอบคุณครับคุณอัลมิตรา
15 เมษายน 2549 12:00 น. - comment id 544436
ฝนตกปรอยอีกแล้วเมื่อเช้านี้ แต่ตอนนี้แดดจ้า เหมาะสำหรับตากปลาสลิดเป็นที่สุด ตรงจุดที่เขาเล่นน้ำกัน อัลมิตราก็ไม่รู้แฮะ .. เห็นแต่ในทีวี ก็ครึกครื้นนะคะ แถวบ้าน .. แร้นแค้นอาหาร ตอนนี้เสบียงในตู้เย็นก็ร่อยหรอแล้วค่ะ อาศัยว่า มื้อเช้าทานให้อิ่มมาก ๆ กลางวันนอนยาว ๆ.. ค่ำ ทานอีกนิด..ประหยัด ฮา.. เย็นนี้น่าสนใจกับดินเนอร์ที่มีทวาทศมาส .. หนังสือที่อยากได้ มีคนเอามาล่อ.. แคน.. ใช้เขย่า ? เอ .. จริง ๆ อ่ะ ใช้เขย่า หลอกกันไม่ได้น๊า
15 เมษายน 2549 08:08 น. - comment id 557897
สวัสดีครับ วันนี้ก็ยังเพลินกับการเล่นสงกรานต์ เสน่ห์อย่างหนึ่งของสงกรานต์ คือการได้พบเพื่อนเก่า ๆ ได้เล่าเรื่องราวสู่กันฟัง ว่าไปทำงานเมืองกรุงแล้วเป็นไงบ้าง โอกาสที่แต่ละคนจะได้พูดคุยกันน้อยนะ ถ้าไม่อาศัยช่วงเวลาอย่างนี้ก็แทบจะไม่มีอีก การงานรัดตัว ภาระท่วมหัว เมื่อได้พบกันก็ได้ปลดปล่อยใจกันเต็มที่ เอาสนุกสนานเป็นหลัก ใครเล่นพิณได้ก็เล่น ใครเป่าแคนได้ก็เป่า ไม่เล่นก็ร้อง ไม่ร้องก็รำ มีสาโทเป็นเครื่องดื่มเหนี่ยวนำความเพลิน ก็พอได้ล่ะนะ หมดเวลาสงกรานต์ก็ต้องแยกย้ายกันไปอีก มันเป็นคุณค่าเป็นสีสันอย่างหนึ่งมั้งของมิตรภาพ ไม่จากกันเราก็ไม่เห็นค่าความสำคัญของไมตรี
15 เมษายน 2549 08:51 น. - comment id 557906
มาฟังเสียงแคน รับประกันจะฟังอย่างตั้งใจ แต่อะนะ จะไม่ไปรำด้วยนะค่ะ แต่อาหารรำกะเจ้า อิอิ
15 เมษายน 2549 14:43 น. - comment id 571687
เขย่ายังไงก็หนีสูงไม่ออกอะ..เอาปาเข้าป่ากล้วยตามไปดูก็ยังออกสูงอีก..เฮ้อ... แวะมาทักทายครับผม
15 เมษายน 2549 14:59 น. - comment id 571690
สวัสดีครับคุณบินเดี่ยวหมื่นลี้ สิบปีก่อน แถวบ้านผมนี่นิยมไฮโลช่วงสงกรานต์นะครับ เล่นกันทั้งหมู่บ้าน ตำรวจไม่จับ แต่เก็บเงิน ผมเอาดีทางนั้นไม่ได้เอาเสียเลย เพื่อนผมนี่เซียนนะ เป็นเจ้ามือตั้งแต่หัวเท่าหมากแข้ง ตอนนี้คงหยุดกิจการไปแล้วล่ะ สงกรานต์ที่เชียงใหม่คงสนุกนะครับ
17 เมษายน 2549 11:59 น. - comment id 572039
จังหวะและคำสวยจังค่ะ
17 เมษายน 2549 14:44 น. - comment id 572086
สวัสดีครับคุณภาวิดา ขอบคุณครับ