ทักทาย
ธรรมาภิวัฏ
..จากปิดตาดับเลือนอย่างหายห่าง๑
ใจยังถามความงามที่หวามไหว
จึงเปิดสู่อารมณ์ที่กว้างไกล
จึงกลายมาเปิดใจสู่ความรัก
..เปิดหน้าต่างออกมาเพื่อรับรู้๒
เปิดประตูฟ้ากว้างให้ประจักษ์
ด้วยอารมณ์ที่แช่มชื่นในความรัก
จึงได้ทักได้ทายที่รายทาง
..กับอีกหนึ่งกระดาษที่ว่างเปล่า๓
ยังรอเงาหัวใจใคร่สะสาง
จะขีดเขียนความนัยไม่ไว้วาง
จะเติมต่างกระดาษวาดพู่กัน
..ลายอักษรยังมิเลือนจากหัวใจ๔
เพียงอารมณ์ที่หวั่นไหวในคืนนั้น
ยังตั้งคำถามแห่งใจสารพัน
ที่คืนนั้นจันทร์แรมเคยแจ่มจาย
..ถามหาความคิดถึงที่คำถาม๕
เปิดหน้าต่างเยี่ยมจันทร์งามดั่งใจหมาย
ฉายแสงแห่งอักษร พรพราย
ใต้เลื่อมลายสายเทียนส่องซุ้มซอ
..กระท่อมบ้านร้านรวงฤาเงียบเหงา๖
บ้านกลอนก่ำลำนำเก่าเคยพร่ำผลอ
ด่ำอารมณ์ชมกวีที่พนอ
ด้วยเพลงคลอสำเนียงแห่งเสียงเพลง
..เพลงยาวคราวนั้นยังคิดถึง๗
ยังหวานซึ้งเสียงใสใจขะเหนง
อารมณ์ ดนตรี กวี ความรัก เคยบรรเลง
ด้วยครื้นเครงเพลงเก่ากวีกาล
..จึงเปิดหน้าต่างมารับรู้๘
เปิดประตูหัวใจในคำถาม
ถึงห่างจากหัวใจที่ไหววาม
แต่ความรักยังเบิกงามในหัวใจ
..สานสมลมลอยร้อยเรียบ๙
เปรียบเทียบหัวใจหวามไหว
หวิวอารมณ์คมคิดสนิทใน
กลอนไกรประดิษฐ์วิจิตรจาร
..รักแลคิดถึง๑๐
สหายเก่าเราจึง ใคร่ถาม
สุขทุกข์อย่างไร ฤาคร้าม
ชีวิตก็ยังงามอยู่อย่างนั้น..
------------------------------------------------------------------