อิ่มรักกับอักษร อิ่มอาทรทุกเช้าค่ำ อิ่มอุ่นคุ้นน้ำคำ อิ่มลำนำความจริงใจ ดอกไม้สักกี่สวน ดวงดอกล้วนสีสดใส ดาษดื่นชื่นทรวงใน เต็มด้วยใจทุกดอกดวง งอกเงยเป็นความงาม ทุกนิยามคือความห่วง ด่ำปลื้มดื่มซึ้งทรวง เรียนโลกลวงให้ลึกลง โลกนี้มีความหมาย เงียบ-เรียบง่ายคลายพะวง หล่อหลอมจนมั่นคง จึงบรรจงวางเรียงราย เรียงร้อยถ้อยคำรัก มิหาญหักมิห่างหาย ไออุ่นกรุ่นกำจาย คือความหมายกันและกัน
20 มีนาคม 2549 12:27 น. - comment id 567344
เอิบภาพอาบน้ำคำ อุ่นลำนำดื่มด่ำใจ อบร่ำคำใดใด อวลกลิ่นอายความหมายมี คือสื่อ คือถ้อยคำ งดงามล้ำทุกถิ่นที่ น้ำใจมิตรไมตรี คือเรามีกันและกัน : ) สวัสดีค่ะ ... คุณร้อยแปดพันเก้า
20 มีนาคม 2549 12:57 น. - comment id 567351
คุณร้อยแปด ใช้คำได้ดีจังค่ะ มีข้อแนะนำเอามาฝากกันนะคะ เคยอ่านหนังสือของคุณคมทวน ได้เขียนแนะนำการเขียน กาพย์ยานี รวมไปถึงฉันท์ที่แต่ง 4 บาท ด้วย คำลงท้ายวรรค 1 ควรลงท้ายด้วยเสียงเต้น คำลงท้ายวรรค 2 ควรลงด้วยเสียงสามัญ คำลงท้ายวรรค 3 ลงด้วยจัตวา หรือ ตรี คำลงท้ายวรรค 4 ลงด้วยจัตวา หรือ สามัญ ข้อแนะนำตรงนี้ นางก็ได้รับมาเหมือนกัน เลยเอามาบอกต่อค่ะ
20 มีนาคม 2549 14:16 น. - comment id 567368
ขอบคุณคุณเพรง พเยีย นะคะที่ตั้งใจเข้ามาเผยแพร่ความรู้ แต่มีข้อสงสัยนิดนึงค่ะ ... ขออภัยคุณร้อยแปดพันเก้าในที่นี้ด้วย คือ ดิฉันพยายามเทียบหลักที่คุณเพรง พเยีย แนะนำ กับ วรรณคดีโบราณ เห็นว่า นับแต่โบราณกาลมาก็ไม่ได้มีหลักเกณฑ์ตรงนี้นัก เช่นข้อมูลในเว็บนี้ค่ะ http://www.geocities.com/thailiterature/jfk1.htm อ่านดูก็มีความไพเราะไม่มีอะไรบกพร่องเสียหายอะไรนักเลย แต่มันอาจจะดีก็ได้นะคะ ... ยังไงก็ขออภัยด้วยค่ะ : )
20 มีนาคม 2549 15:12 น. - comment id 567388
แวะมาอ่านพร้อมมาแอ่วหาต๋อนบ๋ายแก่ๆ แหะๆได้ฟามรู้แถมแต่เขียนบ่เป็น คริคริ
20 มีนาคม 2549 16:52 น. - comment id 567432
หลากหลายดีครับ คุณร้อยแปดพันเก้า ซุ่มเป็นนักอ่านซะนาน แต่เป็นสิ่งที่ดีเพราะคนจะเขียนได้ดีต้องอ่านมาก แต่ผมทำไม่ได้มากนัก ส่วนใหญ่อ่านไป เขียนไป มาคุยด้วยครับ
20 มีนาคม 2549 20:48 น. - comment id 567471
แหะ แหะ เพิ่งจะรู้เหมือนกันค่ะ ...นึกว่าจะคล้ายกับกลอนแปดซะอีก เขียนมาตั้งเนิ่นนาน..อิอิ ต้องทดลองแบบที่แนะนำดูบ้าง..หลากหลายสนุกดีค่ะ.. คือกันและกัน....ฟังดูแล้วอบอุ่นดีค่ะ.. :)
20 มีนาคม 2549 21:26 น. - comment id 567483
สวัสดีค่ะ คุณหยาดอรุณ ต้องขอออกตัวก่อนเลยนะคะ ว่าส่วนตัวเองเพิ่งเริ่มเขียนได้ไม่นาน ซึ่งได้รับคำแนะนำจากพี่คนหนึ่งให้ลองศึกษาจากหนังสือที่ คุณคมทวน คันธนู เขียนไว้ ชื่อ \"วรรณวิเคราะห์ ตำนานฉันทลักษณ์กับหลักการใหม่\" ประกอบกับได้ยินนักเขียนหลายๆ ท่าน อ้างอิงถึงคู่มือเล่มนี้ จึงได้ใช้คู่มือเล่มนี้เป็นแนวทางในการศึกษาค่ะ นางเองก็เคยก็ได้สังเกตเห็น วิธีเขียนคำลงท้ายเสียงที่ต่างกันอยู่ในร้อยกรองโบราณ เมื่อเทียบกับคู่มือที่ศึกษานี้ และพอทราบว่า เป็นเรื่องของการพัฒนาไปตามแต่ละยุคสมัย ได้นำมาบอกต่อไว้ที่นี้ เผื่อคุณร้อยแปดพันเก้าเกิดสนใจ ก็จะได้ค้นคว้าศึกษาเพิ่มเติมกับหลักการเขียนอีกแนวทางค่ะ ดีใจนะคะ ที่ได้สนทนาแลกเปลี่ยนความรู้ เพราะโดยส่วนตัว ก็ชื่นชมในงานเขียนคุณหยาดอรุณไม่น้อย มักจะเข้าไปอ่านเสมอๆ ค่ะ มีโอกาสคงได้พูดคุยกันอีกนะคะ เอามาฝากคุณร้อยแปดพันเก้าด้วยค่ะ เผื่อจะสนใจศึกษาเพิ่มเติม http://siampoetry.com/modules.php?name=Forums&file=viewtopic&p=3131
21 มีนาคม 2549 08:40 น. - comment id 567551
สวัสดีครับ..คุณหยาดอรุณ รู้สึกว่าได้รับเกียรตินะครับจากคนที่มีฝีไม้ลายมือทางกาพย์กลอนเข้ามาพูดคุยและทักทายด้วยความอบอุ่นแบบนี้ คุณเขียนกาพย์เพียงสองบท ก็แพรวพราว น่าอ่าน ขอบคุณนะครับที่กรุณาแนะนำเว็บเกี่ยวกับการเขียนให้ทราบ ขอเวลาศึกษาสักนิด ผมจะลองเขียนมาใหม่ ยินดีที่ได้รู้จักครับ สวัสดีครับ..คุณเพรง.เพยีย.. ขอบคุณครับ ที่กรุณาเอาข้อแนะนำการเขียนมาให้ดู และให้เห็นความแตกต่าง ลีลาของกาพย์แต่ละท่านก็ต่างกันออกไปตามสมัย ตามความนิยม ที่สุดแล้วก็มีความงามในฉันทลักษณ์ ทั้งคำ ความ จังหวะตกกระทบ โดยเฉพาะเรื่องเสียงท้ายคำ ซึ่งผมยอมรับว่าศึกษามาไม่พอ ผมเรียนการเขียนกลอนที่ กวีนิพนธ์สยาม มาเกือบจะหกเดือนแล้วครับ ก่อนหน้านี้ได้แต่อ่าน แต่ไม่เข้าใจเรื่องการเขียนเลย เรียนเริ่มจากเขียนเพื่อจะได้รู้ข้อผิดพลาดของตัวเอง ที่นั่นจะมีผู้ใหญ่ใจดีคอยแนะนำ เอาใจใส่อย่างสม่ำเสมอ ประสบการณ์การเขียนผมไม่มีเลย ปกติแค่การพูดคุยก็คุยแทบไม่รู้เรื่องแล้วครับ เขียนกลอน ยากกว่าหลายเท่า มาที่นี่ก็มาอ่าน อ่าน อ่าน และชอบงานเขียนของหลายท่าน เพียงแต่ไม่ค่อยเขียนอะไรทิ้งไว้ อีกอย่างบรรยากาศฉันมิตรแบบนี้ ผมรู้สึกประทับใจ เพราะเหมือนมีคนมาช่วย มาแนะนำ มาพูดคุยกันเรื่อยๆนะครับ ขอบคุณครับ สวัสดีครับ..คุณไรไก่ มาลองหัดเขียนพร้อมๆ กับผมดีไหมครับ ช่วยกันดู ช่วยกันแนะนำ ขอบคุณครับที่มาทักทายเสมอๆ สวัสดีครับ..คุณครูใหญ่ฯ ไม่เห็นกันนาน งานคงเยอะนะครับ ปิดเทอมแล้วนะครับ สารภาพเลยครับ จริงๆ แล้วผมคงเหนื่อยกับงาน และข่าวสารบ้านเมืองช่วงนี้ หาวิธีผ่อนคลายตัวเองด้วย การเขียนกาพย์ชิ้นดีขึ้นมาแล้วมีเพื่อนๆ มาอ่านมาแนะนำแบบนี้ นอกจากจะดีใจแล้ว ยังถือว่าทำให้ต้องพัฒนาและอยากลองเขียนใหม่ด้วยน่ะครับ ความจริงแล้ว กลอนแปดของผมยังคุมความ คุมคำไม่ค่อยได้ เนื้อหาก็หลุดๆ อยู่เยอะ และการจบก็ยังไม่กระชับ บ่อยครั้งที่ตกม้าตายตอนจบ เอาเป็นว่ายังไงๆ ผมก็ต้องมาศึกษา มาอ่านงานท่านอื่นอยู่ดีแหละครับ ขอบคุณนะครับ มาคุยกันเรื่อยๆ นะครับ สวัสดีครับ..คุณกุ้งหนามแดง ผมเคยเขียนก่อนหน้านี้มาหนึ่งชิ้น แต่ความที่ไม่ได้ศึกษาอย่างจริงจัง เพราะตัวเองก็ไม่ทราบว่าชอบอะไร จากวันนี้ก็คิดว่าจะลองศึกษาใหม่ และจะลองเขียนมาใหม่น่ะครับ ไว้เขียนกาพย์มาให้อ่านบ้างนะครับคุณกุ้งหนามแดง ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาพูดคุยกันที่นี่ครับ กระทู้ของผมสามารถเข้ามาแลกเปลี่ยนความคิดได้เสมอ
21 มีนาคม 2549 17:28 น. - comment id 567697
มีคนบอกว่าถ้าชอบกลอนใครอย่าไปชมเค้าตรงๆ ให้ตอบเป็นกลอนหรือไม่ก้อเขียนอย่างอื่น แต่ไอ้อย่างอื่นนี่มันอย่างไหนม่ายรุ... ขอแหกกฎนิดนึงละกัน...คือกลอนสวยดี... แต่เขียนแบบนี้ยังไม่เป็น...มิสามารถ อิอิ
21 มีนาคม 2549 20:13 น. - comment id 567716
..เรียงร้อยถ้อยคำรัก ด้วยใจภักดิ์มิเปลี่ยนผัน ...เราคือ...กันและกัน สื่อสัมพันธ์วันเวลา.... ...รอคอยด้วยใจมั่น มิเคยหวั่นดั่งภูผา ...ด้วยรักและบูชา ปรารถนามาเคียงครอง.....ฯ มาร่วมแจมกลอนค่ะ...เพราะนะคะ..ชื่นชมด้วยใจจริงค่ะ...
23 มีนาคม 2549 08:06 น. - comment id 568060
สวัสดีครับ..คุณชมพูภูคา แค่มาอ่าน มาทักทาย ก็ดีใจมากแล้วครับ ขอบคุณครับ สวัสดีครับ..คุณราชิกา กาพย์ยานี ๑๑ ชิ้นนี้ เขียนแบบไม่ได้ศึกษาเรื่องเสียงท้ายวรรคน่ะครับ มีเพื่อนๆ แนะนำให้กลับไปศึกษาเพิ่ม ผมเลยลองเขียนเพิ่มใหม่อีกชิ้นหนึ่ง ลองอ่านดูนะครับ ขอบคุณครับที่มาร่วมแจม ยานี ๑๑..คุณเขียนได้นะครับ เขียนได้ดีเช่นกัน