....ขอพัก.... .....ทุกขณะจิตตะช่างสับสน อลวนการงานพานวิ่งหา ชั่วขณะหนึ่งนั้นจึงหลับตา แล้วถามตนเองว่า...ได้อะไร .......ก็เพียงเราเกิดมาในชาติหนึ่ง เร่งตะบึงจะเกิดอีกไปชาติไหน อายุมากฝากบุญแต่โดยไว บุญกิริยาสิบไซร้..เพ่งกระทำ .....มีสิ่งหนึ่งพึงหมายกายสะกัด จิตรู้ชัดวิ่งวนจนถลำ คือหยุดเร่งเสียบ้างการกระทำ ไกลระกำ..ฝึกสติ..ผลิหยุดคน ....ทุกขณะจิตตะช่างว้าวุ่น ชุลมุนการงานพานสับสน ชั่วขณะหนึ่งนั้นจึงหยุดตน เพ่งตัวเองไว้บน..คำ..พุทโธ .....คือดำริ..จิตผลิ..ที่อากาศ ซึ่งสูดเข้า.ขนาดไม่อักโข รีบเร่งนัก ลืมหายใจ..ทำใหญ่โต เข้าคือพุธ...ออกคือ โธ...จงหายใจ .....ฤาเป็นเพียงเศษเสี้ยวของวิญญาณ อวิชชาอลหม่านเกินสานใฝ่ แค่เกิดมาชาติหนึ่งขึงผ่านไว ..พอตายไปแบกสิ่งไหน ไปกับตน? ....ชั่วขณะวันหนึ่งจึงคิดน้อม ให้จิตพร้อม..ผ่อนคลาย ...ทุกแห่งหน วิ่งเมามัว กิเลส..เหตุมารชน หยุด."พุท".."โธ"..จิตพ้น..พุ่งสู่ธรรม ขอ..พัก ..ทุกๆวันเรานั้น วิ่งอยู่บนเส้นทางการงาน ทางโลก หาวิชา หางาน หาเงิน วิ่งทะแร่ออกไป มุดดินลงสู่ รถไฟฟ้าใต้ดิน ขึ้นฟ้า วิ่งขึ้นรถไฟฟ้าลอยฟ้า เคลื่อนคลั่กเกลื่อนกล่น ด้วยยวดยานอันขวักไขว่ไปมาบนหนพารา แล้วถามตนว่า..ชีวิตนี้คืออะไร .......เสมือนปลาเหล่านั้นในอ่างอันน้อยนิด วนไปวนมาทุกชีวิต คิดแล้วเศร้าสังเวชตนไหม... ........แล้วถามเถิดเกิดมาแล้วได้อะไร ....ฤาตายไปกับวัตถุอันครอบงำ ...? tiki_ทิกิ
22 กุมภาพันธ์ 2549 09:54 น. - comment id 562523
เขียนไว้ ณ เรือนนนทบุรี หลังจากผ่านวันอันกระหืดกระหอบในเมืองมาหลายวัน นั่งเพ่งพิจารณาวาระธรรมแห่งตน ว่าสับสนอยู่บนหนทางมารไม่เว้นแต่ละวัน... สักหน่อยละหนอ...พักใจเสียบ้าง... คนเราจะดับชีพไปตอนไหน ใครจะรู้..? ทรัพย์ทั้งหลาย ทุกสิ่งที่ครอบครองอยู่ แม้น สังขาร ปลายนิ้วตนยังนำไปไม่ได้ แล้วเราจะวิ่งรีบเร่งไปอีกทำไม.. .......ผ่านวัน และ วัยมามากนักแล้ว วันใดเล่า จะได้ หยุดพัก...ในธรรม เสียที ??
22 กุมภาพันธ์ 2549 10:06 น. - comment id 562526
กายไม่ใช่ของเรา โลกไม่ใช่ของเรา ทุกสิ่งทุกอย่างในโลกน้มีอะไรเป็นของเรา มีเพียงจิตเท่านั้น ที่จะนำสิ่งที่ดีและไม่ดีมาสู่เราได้ ทุกสิ่งทุกอย่างไม่ใช่ของเรา หมั่นทำความดีเถิด แม้เหนื่อยกาย แต่ความดี ยังคอยพยุงจิตเราให้มีกำลังต่อไป
22 กุมภาพันธ์ 2549 11:39 น. - comment id 562543
พักกายให้สงบพักจิตให้หยุดนิ่ง เหนื่อยจากการวิ่งตามโลก พักจิตโดยพุทโธ ดีจังค่ะ สาธุด้วยค่ะ
22 กุมภาพันธ์ 2549 16:54 น. - comment id 562581
......ก่อนนอน เราได้มีเวลา อ่านหนังสือ หลังจากนั่งทำงาน ทั้งส่วนตัว ทั้งบริษัท ทั้ง ส่วนกุศล... .......แล้วเราก็สัมผัส ความรู้สึก อันเบื่อหน่ายในผู้คนที่มี กิเลศหนาแน่น...เบื่อความรู้สึกทุ่มเทบุญ เบื่อความรู้สึก ที่สัมผัสได้จากการแข่งขันประชันบุญ ต่างๆ...เราจึงเบื่อ วัตถุเป็นหนักหนา....เบื่อ สิ่งที่เกิดขึ้น ที่แก้ไขไม่ได้ สิ่ง ที่ผ่านไป ดั่งวิบาก ต่างๆนาๆ ที่เราต้องรับ..ระหว่างงานบุญ ........จิตของเรา ปราถนา การปฏิบัติอันถูกต้อง เช่น การที่เราใคร่จะช่วยพระอาจารย์ สอนวิปัสนา ทำงาน ให้ท่าน เป็นการปราถนา ที่ สายไปนิด เพราะเราได้ ไปทุ่มเท ช่วยงานทางเพื่อน ไปจนหมดหน้าตักแถม เลยเถิดไปเป็นหนี้ อีก มากมาย เพราะเจตนาดี หวัง ทำงานให้เป็น เกียรติ เป็นศักดิ์ศรี ให้แก่ คำว่า บุญ ...ครั้นแล้ว เรากลับหวนคิดถึงคำพระอาจารย์ที่ท่าน ติงเตือนไว้ก่อนหน้าว่า...ทำไปทำไม อยู่เฉยๆ ยังจะได้ บุญมากมาย จาก การปฎิบัติ ธรรมของเรา การพิจารณา รูป นาม การแยกแยะ รูปธรรม นามธรรม เพื่อการพ้นทุกข์ แล้วเราก็ยอมรับว่า เราผิดพลาดไปนิด กับการ ทำบุญ..วิถีที่เรามิอยากจะไป ข้องแวะ ข้องเกี่ยวมานานหนักหนาแล้ว แต่ก็ทำไป .....วันที่บริจาคทาน .โรงพยาบาลสงฆ์ เราก็พบสัจจะธรรม มากมาย ของโลกนี้ จึงเกิดปลงสังเวช ในเรื่อง คน คน คน ใกล้ ตัว ไกลตัว ทุกคน ที่เกิดขึ้น.. .......จิต จึงฝักใฝ่ ที่จะ ฟังธรรมะ ที่แท้ ของพระพุทธองค์ มากยิ่งขึ้น เสมือนขอให้พ้นทุกข์ ไปจากสังสารวัฏฏ์ เสียแล้ว .....เช้า ขึ้นมา ก็มีกิจที่จะทำเกี่ยวกับ เรื่องหนังสือ ของเรา ที่จะส่งตอบแทน ท่านผู้ร่วมบุญ ผู้มีใจกุศลเหล่านั้น ....แต่ตัวเรา...ข้ามพ้น ความรู้สึกหวังได้ เหล่านั้นเสียหมด สิ้นไปโดยไม่คิดอยากจะหันกลับไปดูเบื้องหลังทิศทางนั้น เลย มีแต่อยาก จะ ก้าวไปข้างหน้า สู่ทางพ้นทุกข์เสียแล้ว ท่านอย่ากังวล กับความรู้สึกในธรรมะ ของข้าพเจ้า อัน ซ่อนเร้น แอบแฝง อยู่ทุกขณะจิตเลย...ผู้ใด มีวิถีทาง บุญแห่งปัญญามาเช่นใด ก็ หันไปทางนั้นมิอาจปิดกั้นได้ เลย...เช่นกัน กับข้าพเจ้า..ที่มิอาจหยุด ดวงใจใฝ่ธรรม ลงได้... เสมือน ได้ มองทะลุม่านพร่ามัวนั้นออกไปหมดสิ้น ....ขอบคุณ การบุญ การกุศล ที่เสมือนมีดคม อันผ่าตัดภาพตรงหน้า ทำให้ข้าพเจ้า มองเห็นอะไร ชัด ขึ้น คมขึ้น และ ทำให้ รู้สึก ถึงการ ตัด ..ปลงสังเวช..ได้ดีกว่าเดิม ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมค่ะ
22 กุมภาพันธ์ 2549 16:55 น. - comment id 562582
คุณ วิญญาณ ศิลา ขอบคุณมากค่ะ คุณ ไรไก่...อันที่จริง เรามักเดินลมด้วย นะโมพุทธายะ นะมะพะธะ จะได้หายใจยาวๆ ไปไหนมาไหม ก็ไปด้วยบทนี้จนชินเสียแล้วค่ะ
22 กุมภาพันธ์ 2549 19:49 น. - comment id 562624
เหนื่อยนักพักบ้างเรื่อง ที่ดี ชีวิตยากหลีกหนี หลุดพ้น เรื่องว้าวุ่นวิถี ทางมนุษย์ ยึดเหนี่ยวธรรมถางด้น ส่องชี้ดำเนิน
22 กุมภาพันธ์ 2549 22:55 น. - comment id 562655
ดุลยธรรมคือการปฏิบัติธรรมและกิจวัตรทางโลกเป็นไปอย่างสมดุล บางครั้งการทำบุญอาจไม่เป็นไปในทางบริจาค/จาคะ การละวาง/ปลง แล้วอุเบกขาเข้าสู่สมถะ อาจเป็นช่วงเวลาที่เราได้ฟังเสียงภายใน นาทีนี้ขอแนะนำงานของติช นัท ฮัน และกฤษณะมูรติ หรือไม่ก็งานของโน้สอุดม... พักผ่อนบ้างเถิดครับ เช่นนกคืนคอน ฟ้ายังกว้างทางยังไกล บุญกล่อมใจครับพี่