ท้องฟ้ามืดคือดวงหน้าข้าหมองหม่น มองธารฝนคือน้ำตาข้าหลั่งไหล สายฟ้าแลบคือศรแปลบเสียดทรวงใน พายุใจครวญคลั่งดับอภิรมย์ นี่คือวิกฤตการณ์จากฟากฟ้า เวิ้งเวหาปั่นป่วนชวนขื่นขม สุดเคว้งคว้างว้าวุ่นใจระทม น้ำตาพรมพร่างพรายสลายลงดิน เมื่อไรฤาผ่านพ้นห้วงทุกข์นี้ ไพร่ฟ้ามีความสุขสมถวิล เมฆหมอกร้ายอ่อนเปลี้ยร่วงโรยริน ทุรชนสิ้นคืนถิ่นแผ่นดินทอง
4 กุมภาพันธ์ 2549 14:58 น. - comment id 558294
นั่นนะซี เมื่อไหร่จักพ้านพ้นอารมณ์อย่างนี้หนอ
5 กุมภาพันธ์ 2549 11:19 น. - comment id 558436
เมื่อประชาลุกขึ้น.............จากฝัน ไปสู่ปัจจุบัน....................เพื่อท้า มือเปล่ากอบกำวัน..........คืนทุกข์ ปลุกพลังฉกาจกล้า..........ต่อต้านเผด็จการ ไทยเคยเสียเลือดเนื้อ......มากมาย พลีชีนวางเรียงราย...........เพื่อค้น เสรีภาพขวนขวาย.............มาสู่ มาตุภูมิสุขล้น.................... สงบได้สยามแดน วันนี้ความชั่วช้า...............ย้อนมา คนเลวปั้นวาจา................เล่ห์แสร้ง ปิดบังเลี่ยงอดีตา...............โป้ปด ปลุกปั่นมวลชนแกล้ง........มิรู้ทำไม อุดมการณ์หลอกใช้..........ปลุกระดม ชี้สู่เป็นเงื่อนปม...............จักน้าว นำชาติประชาคม.............ไปสู่ พวกมากลากนำก้าว.........หลั่งสิ้นเลือดไทย