อำนาจอำนรรฆอ้าง...................อธรรม คือขื่อคาครอบงำ.......................ง่าเงื้อ คมดาบแห่งอธรรมนำ...............พิฆาต กระหน่ำกระหนาบเนื้อ.............หนักนี้ลืมไฉน มิ่งมหาอริยเจ้า..........................โคดม ไร้ซึ่งกฤตยาคม.........................ครอบไว้ อริยสัจจ์สั่งสม............................ศักดิ์สิทธิ์ คือพระธรรมาวุธไซร้..................ชำนะสิ้นเสนามาร ผลาญไพรีบำราศเรื้อง...............บูรพ์บรรพ์ ละละโมบโกรธโมหันธ์...............หั่นเหี้ยน พระโพธิญาณอัน......................อัครเดช เศิกแต่เศิกแสนเสี้ยน.............แตกสิ้นสูญพล ประดนธรรมท่านเที้ยร............ทิพยธาตุ ผ่องพิสุทธิ์สะอาด.......................เอี่ยมแผ้ว อัญเชิญยุรยาตร.......................ยอทิพย์ ธรรมนา ประจุลงใจแล้ว.........................รืนเรื้องมลายหลง จงสู้เหมือนไม่สู้........................อหิงสา คือดาบปราบปัจจา....................จิตป้อง เจริญสู่มรรคา ......................... อันประเสริฐ คือเกียรติยศก้อง.....................แกว่นกล้ากร่อนกรรม เวรย่อมระงับด้วย....................ดับเวร คือหลักคือกฎเกณฑ์.................เที่ยงแท้ ไม่หย่อนไม่เอียงเอน...............อิงกฎ ธรรมนา ผิดจากกฎนี้แล้........................โลกร้ายมนุษย์ทราม
1 กุมภาพันธ์ 2549 17:12 น. - comment id 557405
เวรย่อมระงับด้วยการไม่จองเวร ถูกต้องแล้วค่ะ ชื่นชมในผลงานนะค่ะ
3 กุมภาพันธ์ 2549 16:34 น. - comment id 557986
เก่งจัง
3 กุมภาพันธ์ 2549 20:42 น. - comment id 558068
อ่านกลอนนี้แล้วรู้สึกถึงความล้ำลึกของภาษาไทยมากเลย และรู้สึกถึงอุดมการณ์ของผู้แต่งได้เป็นอย่างยิ่ง