http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song369.html ในโลกแห่งความฝัน ................ ฝัน มีหลายรูปแบบ ทั้ง.. ฝันดี ฝันร้าย ฝันหวาน ฝันค้าง ฝันกลางวัน ฝันกลางคืน และ.. ฝันพอแค่ตื่นแล้วให้ชุ่มฉ่ำราว*ฝันกลางฤดูฝน* และหาก.. ทุกฝันที่ก่อเกื้อกลางกมลนั้นมิทำให้ใครเดือดร้อน เป็น... เพียงฝันหวังปลอบประโลมใจตน.. ที่ไร้คนไร้ใครเข้าใจ ก็คงฝันฝันฝันไป ให้.. ดวงใจแสนไสวสว่าง แสนสวยพร่างสงบเย็นสงบงาม เพื่อต่อเต็มเติมตาม นำมาสร้างพลังใจไฟฝัน ให้ได้มาปันพลี ปันดี พลีแด่กันและกัน ฝันบางเรื่องราว เป็นจริงได้ ฝันบางราวเรื่อง เปล่าเปลืองใจ ทั้งชาตนี้ชาติหน้า หาก ฝันเกินจริงเกินวาสนา เกินความพอดีพอเพียง.. สำหรับ..ขวัญยิหวา เกิดมาก็ชื่อขวัญแล้วยังช่างฝันสมชื่อ แถมมีขวัญกลางหน้าผาก ให้ไรผมหมุนพร้อยดูลอยวนแสนแปลกดี และ... กับมากมีทัศนะ ที่ทั้งคนดี คนร้าย มากรายกล้ำ กระทบกระแทก แกล้งหยอกล้อ กระทบกระทั่ง กระทุ้ง พยายามเข้ามายุ่งมาเกี่ยว แม้นกระทั่งความฝัน หากเธอคนดี ก็มิเคยสะดุ้งสะเทือนกับคำคนคำใคร ยังคงตามใจฝันฝันฝัน หาก ฝันนั้นมิพาให้ใครเดือดร้อนแถมพลันพาให้ มีเงินทองมากองไว้ตรงหน้ากองใหญ่.. ไม่เป็นไร..ไม่เป็นไร และไม่เป็นไร คือคาถาที่เธอเพียรท่อง หาก.. พบเจอคนที่มาพิพากษาเธอพิพากษาใจ หากตราบใด..ใจดวงอัญมณีไพร ยังคง.. ซ่อนซุกสุขซึ้งเหงางามเงียบ และ ยังรักในวิถีความเรียบง่ายไร้พิษภัย ไม่เคยมีใจคิดร้ายใครเลย... ขวัญยิหวา.. มีโปรเจคฝันมิใช่พันล้าน..หากผ่านมานับพันเรื่อง ให้ประเทืองประทับใจ แค่ใครสักคนสักใครก็ยังดี คนที่.. รักวิถีไพร... มีใจรักพลังโอบเอื้อจากอวลอุ่น แห่งมวลแมกไม้สายลมดงข้าวตาลนา กับฟ้าสลัวชิดบึงบัวบังใบ รัก.. ร่มใจคือแมกไม้ไพรไทย ใกล้ชานเรือนเคียงกระท่อมวิมานน้อยวิมานนา มีฟ้าสวยแปร มีแท้เที่ยงธรรม มีงามตามธรรมชาติ มีแสงตะเกียงแสงเทียนเสน่หา มีสายธาราระรินแสนใสฉ่ำเย็น มีปวงดวงดอกไม้ป่า มีลีลาแห่งดนตรีจากระงมส่ำสัตว์ มีวัด..โบสถ์คร่ำ มีเสียงระฆัง เสียงสงฆ์สวดมนต์ มีบทเพลง ดั่งมนตราทิพย์..จากผืนดินนวล มีลมอวลกลิ่นสุคนธรสแสนสดชื่น มาในยามค่ำ มีตะวันดวงโต สีส้มสุก ค่อยๆรุกไล้ระเรี่ยเคลียนาข้าว ให้อาบพราวราวทองทาบ ให้.. ฟ้าฉาบด้วยแสงสีเรียวรุ้ง ยามทิวารอน อ้อนมวลหมู่นกกา ที่พากันผกโผผินบินกลับสู่รวงรังแห่งรัก มี.. ลอมฟางหอมให้นอนนับดาว มีพราวน้ำค้าง แพรวหยาด ดั่งอัสสุชลสะอาดปานหยาดน้ำผึ้งสวรรค์ หยดเย็นเป็นเม็ดกลมกลิ้งพริ้งพร้อย บนใบบัวน้อยยามกระทบสายแสงอาทิตย์อุทัย.. และ ทุกฝันฝันฝันของขวัญยิหวา เป็นเพียงลีลาฝันที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานจิต ที่คิดแค่ความสมถะพอดี พอเพียง ที่.. แสนรักรักรักเป็นยิ่งนักในงามธรรม งามธรรมชาติ ที่ดั่งสร้อยโซ่มนตราเสน่หา ที่พึงขาดจากกันมิได้.. นาทีนี้.. จึงอยากมาปันพลี.. มากระซิบบอกทุกคนดีในดวงใจว่า จงฝันไปเถอะนะ.. และ พยายามสร้างสรรให้ฝันดีฝันงามนั้น ได้พลัน.. เอื้อโอบให้ผองชนผู้คนบนผืนโลกใบน้อยนี้ ได้มีชีวีสดสวยฉ่ำเย็น เป็น *ดั่งฝันฝน*อันพร่างพราย ดับไร้แล้งแห่งเนื้อใจมนุษย์ ให้มีนวลน้ำผ่องผุดผลิพิลาสสะอาดหอม แห่งดวงดอกไม้ใจ ..จากต้นใจ ที่คงงามไสว ดั่งเพชรพรายฉายฉานไปตราบชั่วนิจนิรันดร์กาล ให้จิตใสนั้น ดั่งอัญมณีเพชร ที่มีก้านกิ่งพริ้งพราวโอบหนาวใจ ให้ใสงามเพื่อสร้างสรรปันเพียงดีพลีแด่กันและกัน ราวสวนขวัญสวรรค์ทิพย์ ที่.. ผลิผลให้หยิบแลกมิแบกงามไว้เพียงผู้เดียว ให้เปลี่ยวเหงาใจ... ให้.. เก็บเกี่ยวกินกันไปอย่างมิ่งมิตร สนิทในจิตวิญญาณ ตระการแก้วแววประภัสสร... ได้.. ดับร้อนผ่อนเย็นเป็นดั่งพลังใจพลังไฟ ในการจะทำสิ่งดีพลีกลับแด่โลก วันนี้.. ขวัญยิหวาจึงมิโศก หากสุขนัก เมื่อมีฝันล่ามาแรงแฝงฝังในฝั่งใจ ที่อยากพลีด้วยใจรักระบาย มาบอกกล่าว..ให้มิ่งมิตรน้องพี่ และ.. ให้ใจดวงดีดวงดินดวงดายเดียวได้ดำรงรอ มิท้อแท้ยังมิแพ้พ่าย เพื่อได้สานฝันนั้นให้พลันจริงสักวัน แม้น.. อาจจะไม่มีวันนั้น ก็จักฝันต่อไปว่า คง.. มีใครสักคนที่เข้าใจขวัญฝัน..คนชิดใกล้ได้สานต่อ ก่อพลังให้เกิด..ให้เบิกบานไปในเส้นทางสะอาดสงบ พบเพียงฝันดี ที่ฝันนี้แค่ฝันนิดฝันน้อย อย่าได้ลอยดับลับลาไปเลย ฝัน..ในดวงใจ ในนาทีนี้ คงมีภาพฝันในจินตนาการ ให้หวานหวัง *ดั่งวิมานลอย* แนบนิ่งอิงผาธรรมชาติ ชิดใกล้ราวหนึ่งเดียว ให้ได้.. เกี่ยวเก็บดาวดวงรวงดาวดารางามในท่ามราตรี ราว.. ร่างเรานี้... ลอยเยี่ยมยลชมวิมานแก้ว ด้วยแพรวเมฆหวานระยิบ กับ.. กระพริบพร่างแห่งดารารายพรายพร่างสว่างสุกใส ราวจะเอื้อมมือคว้าไขว่ได้มาวางไว้ในอุ้งมือ แล้ว.. ได้..หว่านโปรยโรยร่วงรวงดาวราย ให้.. พรายพร้อยลอยละลิ่ว ปลิวลงไปณ..เบื้องล่าง ท่ามผืนหล้า..ที่มีผู้คนรอเวลาจะได้หยิบชม ด้วยลมหายใจแห่งความปิติเกษมไปตราบนิรันดร์..... .............................. http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song369.html ในโลกแห่งความฝัน ในโลกแห่งความเป็นจริง เธออาจเป็นหญิง ของใครก็ได้ และค่าแห่งความสนใจ ย่อมน้อยลงไปจากเขา ในโลกแห่งความเป็นจริง เธออาจเป็นหญิง หัวใจแสนเศร้า ฝืนทนชื่นบานหวานเอา เพื่อข่มความเศร้าในใจ มาพบกับฉัน มาพบกับฉัน ในฝันดีกว่า ในฝันดีกว่า ฝันนั้น จะพาให้จิตสดใส ลืมชีวิต เมื่อตื่นชื่นใจ มาพบคนเก่ากันใหม่ในฝัน ในโลกแห่งความเป็นจริง เธออาจเป็นหญิง ของใครไม่หวั่น แต่ในโลกแห่งความฝัน เธอเป็นของฉันเสมอ มาพบกับฉัน มาพบกับฉัน ในฝันดีกว่า ในฝันดีกว่า ฝันนั้น จะพาให้จิตสดใส ลืมชีวิตเมื่อตื่นชื่นใจ มาพบคนเก่ากันใหม่ในฝัน ในโลกแห่งความเป็นจริง เธออาจเป็นหญิง ของใครไม่หวั่น แต่ในโลกแห่งความฝัน เธอเป็นของฉันเสมอ
8 มกราคม 2549 18:28 น. - comment id 551979
ฝากไว้ในงานน้องไรไก่ค่ะ ฤดูที่แตกต่าง season change จากปกหลังบทเพลงบรรเลง ฤดูกาลแห่งชีวิต ของคุณจำรัส เศวตาภรณ์ SEASON OF LIFE พี่พุดน้อมนำมาพลีค่าคำล้นค่า ในจิตวิญญาณ ผ่านฤดูกาลแห่งชีวิต นำมามอบให้น้อง และทุกดวงใจในร่มรัก แทนของขวัญปีใหม่นะคะ *หาก..เปรียบชีวิตได้เป็นดั่งฤดูกาล เยาว์วัย คือฤดูฝน หนุ่มสาวคือฤดูร้อน วัยชราคือฤดูหนาว เฉกเช่นต้นไม้ที่กำลังเติบใหญ่ ความยืนยาวของชีวิต มิอาจสร้างอาณาเขตของการยืนต้นได้ แต่เมล็ดและร่มเงาต่างหาก ที่ได้สร้างอาณาจักร เป็นที่กล่าวขานในหมู่สรรพชีวิต ฤดูแห่งปฐมวัยได้เริ่มขึ้น เราได้แย้มยิ้มสนุกสนาน และเรียนรู้มากมายมิจบสิ้น ความร้อนของสังคมหลอมหล่ออุดมการณ์ ไปสู่ฤดูแห่งวัยหนุ่มสาว ความทรงจำที่จะเล่าขาน สติปัญญาอันแก่กล้า สวนทางกับความอ่นล้าของร่างกาย เมื่อเข้าสู่วัยชรา ปลดปล่อยเพื่อจะก้าวเดินต่อไป เพื่อจะเริ่มต้นใหม่ สรรค์สร้าง *ฤดูกาลแห่งชีวิต*อันทรงคุณค่าต่อไป\" ด้วยรักล้นใจค่ะ
8 มกราคม 2549 20:01 น. - comment id 551991
\"จากไกลหมื่นไมล์โพ้น โยกโยนบนภาระหนักอึ้ง จากคนรักเหลือเพียงสายใยคำนึง ความคิดถึงจักขัดเซาะดวงหทัย เมื่อไหร่หนอภารกิจจะหมดสิ้น ได้กลับถิ่นพำนักดั่งใจหมาย กลับสู่บ้านที่มีรักอยู่กลางใจ ในอายตนะที่ใสสุดหลุดมายา\" บทกวีของคุณจำรัส บทนี้ ฟังเคล้า บทเพลงบรรเลง \"เสียงเพรียกแห่งสายลม\" เติมพลังให้จิตวิญญาณ จนกว่าวาระสุดท้าย
8 มกราคม 2549 21:19 น. - comment id 552003
มาอ่านผลงานงามๆก่อนนอนพร้อมนำไปฝัน ยิ้มอย่างมีความสุขในฝัน........ ชีวิตคนเรามีเปลี่ยนแปลงเสมอเหมือนกับฤดุกาลที่แปรผันไปตามกฎของธรรมชาติ....... ขอให้พี่พุดมีความสุขมากๆนะคะฤดูกาลเปลี่ยนแปรผันสิ่งสำคัญต้องรักษาสุภาพด้วยนะคะ รักพี่พุดนะคะ
9 มกราคม 2549 06:02 น. - comment id 552030
สวัสดีค่ะพี่พุด แวะมางานอ่านค่ะ เหงาๆแวะมาเยื่ยมนะค่ะ สบายดีนะค่ะพี่พุด รักษาสุขภาพนะค่ะ รักพี่พุดนะค่ะ
9 มกราคม 2549 08:33 น. - comment id 552039
นานมาตั้งแต่ปี47 พุดได้รจนาเรื่องนี้ *ดุจสวรรค์แห่งภูผา*เอาไว้ค่ะ ไม่อยากเชื่อว่าณ..วันนี้ มีปาฏิหารย์รัห ที่พุด ถือเป็นโชค ที่ฟ้าดินได้ประทานผืนดิน *ดุจสวรรค์แห่งภูผางาม* ให้พุดจริงๆค่ะ http://www.thaipoem.com/forever/ipage/poem45612.html และ คุณก็รู้.. ก่อนสานฝันสร้างกระท่อมในฝันให้พลันเป็นจริงหลังนี้ ฉันพาหัวใจและร่างมานอนฝันสล้างเพื่อศึกษา ความแตกต่างระหว่างวันแต่ละฤดูกาล ที่จะพร่างฤดีให้รับรู้สึกพิเศษพิสุทธิ์ ให้..รู้รับความผันแปรของธรรมชาติ ให้สร้างลดหลั่นไปตามระดับชั้นของหินผา ให้รู้ค่าความงามของหินดิบเดิมก้อนใหญ่ สร้างลดเลี้ยวไปตามหลืบหิน มีบันไดวนคดเคี้ยวเลี้ยวผ่าน มีลานหินไว้นอนนับดาว..พราวพร่างฟ้าเวลาค่ำ มีสวนดอกไม้ไทยสมุนไพร.. รินร่ำหอมกำจายไปสายลมบางเบา ในห้องโถงละโล่งลิบด้วยกรุกระจก หันไปทางไหนจะพบ *ทะเลฝัน..พระจันทร์หวาน.. นวลแสงดาวพราวพร่างกระพริบระยิบไหว* และในยามเช้าเฝ้ามองจะ เห็นเรือหาปลากับพรานทะเล.. ค่อยๆพรากตาลอยลำลาฝ่าเกรียวคลื่น..ลับลาไป..ในโค้งอ่าว.. มีระเบียงชมวิว.. คือผาหินโค้งโล่งละลิบแทบสัมผัวทิวทิพย์เมฆ ภายในกระท่อมทับ..ทาสีขาว ทิ้งผนังตะปุ่มตะป่ำ ใช้ไม้ท่อนอันใหญ่เป็นคานและหลังคา ประตูทาสีเขียว.. มีซุ้มกอช่อดอกสายน้ำผึ้งและลัดดาวัลย์เลื้อยพันชูช่อ ดูละออนวลลดความแข็งกระด้าง..งามไสว.. เฟอร์นิเจอร์..ตู้..ม้านั่งไม้ ใช้ฝีมือช่างพื้นเมืองภูมิปัญญาไทยท้องถิ่น สถาปัตยกรรมติดดิน ที่งามละเมียดละไม..คงคุณค่าชั่วฟ้าดินเดิม มีเซรามิกดินเผาดิบดิบ รังนก ตะกร้าสาน เลือกหามาจากวัสดุพื้นถิ่นถวิลไพรธรรมชาติ สร้างความอบอุ่นละมุนกรุ่นรัก รัดร้อยใจ ทั้งผู้อาศัย และผู้มาเยือน.. ห้องนอน.. มีเตียงโบราณ เสาไม้คล้ายใช้ในโรงนา มีม่านมุ้งสีขาว และสิ่งที่แสนพราวตาพร่างใจคือ แท่นวางเทียนที่ถูกจุดไสวในยามค่ำ ที่ก่อขึ้นตามแง่งหินงาม สะท้อนเงาวะวามวะวาววับจับดวงใจ.. ในวูบไหวระบัดแสงสวยพร่าง ยามทอดร่างลงนิทรา สุขารมย์.. และ.. มุมแสนดีที่แสนสุขสงบ.. พบได้ในทุกยามคือมุมรจนา.. ที่ใช้โต๊ะทำจากหิน ก้อนใหญ่ และ ในทุกยามที่ดวงใจและดวงตา มองออกไปตรงหน้า.. ก็จะพลันพาเห็น ยอดหลังคาโบสถ์โผล่กลางดงไม้ บนเนินเขาอีกลูกรำไรๆ มิไกลตา..พามองเพลินและเห็นทิวทัศน์กว้างไกล ราวกับว่าโลกนี้ไซร้แสนกว้างใหญ่ และเรานี้ช่างเล็กราวธุลี.. ****** และ คนดี..ที่รัก ชั่วชีวาชั่วชีวี.. ที่รู้ใช้ชีวิตพอเพียงเพียงพอที่ติดดิน ที่ถวิลรักพงไพร ที่ใหลหลงรักธรรมชาติงามเงียบเรียบง่าย ก็พลันได้สัมผัสสุขสมบูรณ์แบบ.. และยามยิ่ง..ได้แนบร่างเอนอิงพิงไหล่ เหนือเนินผาแห่งดวงใจ... ได้ยืนพ้อคลอเคลียให้ลมพร่างพัดร่างรักเราสอง ให้หนาวคลายได้อุ่นไอ สุขใดไหนเล่าจะเทียบเทียมทัน ได้ฝันหวานหวานดูเรียวคลื่น ฟังเสียงระรื่นระรินร่ำของทรายซัดชายฝั่งชายชล เห็นนกนางนวลโผผิน บินโฉบเหยื่อ เห็นท่าเรือรอรับพรานทะเล เห็นว้าเหว่ของอาทิตย์ยามร่ำลาผืนน้ำทะเลงามระยิบ **** และนี่กระมัง.. ดุจสวรรค์กลางหล้าโลก ลบโศก..พบสุขในนิ่งงัน ให้ดวงใจมีแต่พลังฝันหวานหวานแสนดีแสนงาม ในทุกโมงยามแห่งชีวีที่แสนสั้น ก่อนวันตะวันแห่งชีวินจะสิ้นแสงอำลา โอ้..สวรรค์ในใจ..ในชีวิตหนึ่งนี้ ที่ขอขอบคุณฟ้าแลดิน..มิรู้สิ้นมิอาจเปรียบประมาณ..
9 มกราคม 2549 11:39 น. - comment id 552081
รอบขุนเขาเรียงรายด้วยไพรพฤกษ์ สิ่งอึกทึกปราศสิ้นถิ่นเขาเขิน สลับสูงต่ำหมอกขาวราวยวงเงิน ตามแนวเนินเพาะปลูกพันธุ์ลูกไม้ ทั้งลิ้นจี่ลำไยเรียงรายรอบ ตามแนวขอบกรอบชั้นนั้นกล้วยไม้ อีกบุปผานานาพันธุ์นั้นมากมาย แสนสุขสบายคล้ายสวรรค์ในแดนดิน แก้วประเสริฐ.
9 มกราคม 2549 12:42 น. - comment id 552103
..มาด้วยความคิดถึง.. บทเพลงซึ้งที่เคยได้ฟัง และหวังว่าคงสบายดีนะคร้าบ.. ด้วยความห่วงใย...
10 มกราคม 2549 01:08 น. - comment id 552209
สวัสดีค่ะ...พี่พุดแวะมาอ่านตอนดึกๆๆค่ะ อ่านเพลินเลย..ขอให้พี่พุดมีความสุขมากๆๆน่ะค่ะ
10 มกราคม 2549 12:16 น. - comment id 552247
มาเยี่ยมช้าไปหน่อยครับ