http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song206.html http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song198.html (อันเป็นดวงใจ...ปรารถนา) ....... อุษาสางแล้ว เดือนดวงแจ่ม..ยังค้างฟ้า แม่ดวงดอกพุดไพร.... ลุกขึ้นมาเปิดเพลง..ครูทูล..ทองใจ และตั้งใจจะไปวัด... ลุกขึ้นมาจัดเตรียมสำรับ มาหุงข้าวใหม่มะลิหอม และ.... จัดเตรียมอาหารทั้งคาวหวานผลไม้ ไปน้อมนำใจ...ไปถวายพระบวชใหม่... ที่.. งามผ่องพราวไปทั้งลานธรรม จน..มลังเมลืองกลายเป็นลานทองผ่องพรายใต้ร่มไม้ ณ..ลานหินโค้ง.. ที่มิโล่งแล้ง กลับงามพราว...ระยิบพร่าง ด้วยใบไม้ไม้ใบนานาพรรณ ที่.... กำลังฟายฟ้อนอ้อนออดรับอ้อมอวลอุ่น จาก..พรายแสงแรกละมุนของดวงอาทิตย์อ่อนอุทัย ในยามอุษาฟ้าสาง... ที่ทั่วทั้งท้องนภางค์กระจ่างแจ้ง..จากนวลนภาเบื้องบน และ.. จากระยับจับจิตจากจีวรสงฆ์แจ่มจ้า ที่สะท้อนเงาแดดวะวูบไหวในท่ามเงาไม้ คล้ายดั่งดวงชีวี ได้ย้อนรอยถอยหลังกลับไปในสมัยพุทธกาล ยาม.. ที่พระพุทธองค์ทรงเสด็จเทศนา..ในวันสำคัญๆ และ.. แทบทุกครั้งครา.. ในท่ามแมกไม้ไพรพฤกษ์ในแทบทุกถิ่นที่ แห่งแดนดินพุทธชมพูทวีปนี้.... ที่แสนเงียบงามสงบสุข.. ที่.. พระพุทธองค์ มิทรงหยุดท้อแท้ เพื่อจะเผยแผ่พระบรมศาสนา.. จนตราบล่วงลาถึงพระชนมพรรษาครบแปดสิบปี ... จน.. ตราบถึงวันที่.. *พระพุทธองค์ทรงบรรทมในท่าสิริไสยาสน์ ใต้ร่มเงาไม้สาละ...บนศิลาอาสน์ เพื่อทรงดับขันธ์ปรินิพพาน ใต้ม่านไม้ใบบัง...อันแสนหอมเศร้า..เคล้าความโศกสงบ แห่งหัวใจพระอรหันต์และชาวพุทธศาสนิกชน คนในชมพูทวีปมาอย่างยาวนานตราบจนกาลวันนี้.... และ... ตั้งแต่ยาม.. ที่ดวง พระประทีปแก้วแววประภัสสร ได้ประสูติ ตรัสรู้ และปรินิพพาน ได้... ทรงค้นพบอริยสัจจ์สี่ *ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค* อันคือสัจจะธรรมจริงแท้ และ.. พร้อมพลี.. เยื้องย่างอย่างแสนลำบากตรากตรำพระวรกาย เพื่อไปเผยแผ่...ในทุกธุลีหล้าใต้ฟ้าธรรม...ธรรมชาติ ให้.. ทุกผองชนในสมัยพุทธกาล..และนานเท่านาน มาถึงทุกผู้คนในทุกวันนี้ ได้พบเส้นทางอันแสนสะอาดสว่างสงบ ที่ณ..บัดนี้เรียกว่า.... สังเวชนียสถานทั้งสี่.... สถานที่ประสูติ ณ ป่าลุมพินี เมืองกบิลพัสดุ์ เนปาล สถานที่ตรัสรู้ ณ ตำบลอุรุเวลาเสนานิคม พุทธคยา อินเดีย สถานที่แสดงปฐมเทศนา ณ ป่าอิสิปตนมฤคทายวัน สารนาถ อินเดีย สถานที่ปรินิพพาน ณ ป่าสาลวัน กุสินารา อินเดีย... ที่..น่าอัศจรรย์ใจนัก ที่พระสงฆ์จำนวนนับพัน จะ...พลันมาประชุมพร้อมกัน โดยมิได้นัดหมาย.. คล้ายปาฎิหารย์ จากบุญญาบารมีกฤดาภินิหาร จากพลังศรัทธาแห่งความเชื่อ ที่เหลือจะกล่าวอธิบาย...ผ่านคำว่า เหนือโลกย์ เหนือโศก สุขสิ้นแล้ว... ........................... และ.... วันนี้แม่ดวงดอกพุดไพรจึงตั้งใจ จะไปวัดเพียรปฎิบัติธรรม และ.. ตั้งใจจะทัดช่อละออเข็มขาว.. ให้หอมหวานบานพราวริมเรียวแก้ม และ.. แถมจะคลี่คลุมไหล่ด้วยผ้าสไบผืนนุ่มสีไพล ที่แสนจะบรรเจิดใจ บรรเจิดจิตแจ่มกระจ่างมาก ใน... ท่ามมวลอวลอากาศหนาว แล้ว.. เดินฝ่าม่านหมอกหยอกรวงเรียวดวงดอกข้าว ที่กำลังผลิพราวในทุ่งนา ใกล้...เมืองธานีแดนทอง ที่.. ยังคงเหลือผืนนาผืนน้อย คอยรอท่าท่านนายทุนมาหมุนหว่านเงินงาม กวาดล้างสร้างเป็นบ้านจัดสรร.. หาใช่..สวรรค์บ้านนาอีกต่อไปไม่แล้ว...! และ.. ราวดวงใจแม่ดวงดอกพุดไพร คิดขอให้.. เข็มขาวและข้าวนา จักพราวพาพร...ให้นำมาเพียรสอนสัจจะใจ ให้.. ไหวงามตามทันทุกผัสสะ มีสติปัญญา..บานเบิกตระการ แตกช่อดอกจิตกระจ่างสว่างไสว ไปในท่ามกลางความวายวุ่นแห่งวิถีผู้คน อันอลหม่านอลวนปากกัดตีนถีบ รีบร้อนทุรนทุราย คล้ายเต็มไปทั้งม่านมนต์เมืองมายา...เมืองฟ้าอมร.. แม่ดวงดอกพุดไพร จะ.. พาร่างใจที่แสนรักความเดียวดายดายเดียว และ...หัวใจดวงใสดวงดี..ไปถวายวัด ให้.. จิตภายใน.. รู้สึกสงบสงัด ชัดแจ่มด้วยพลังบุญ... ที่จักละมุน.. หมุนนวลเนื้อใจ ให้หอมกุศลเกษมไปตราบชั่วนิจนิรันดร์... แม่ดวงดอกพุดไพร จึงมานั่ง.บนหินใหญ่ใต้ร่มไทรใบหนา ที่แผ่กิ่งก้านสาขาให้นกกาอาศัย ในม่านไพรไหวย้อยห้อยรากราย ลงมาพรายปรายปกคลุม ในท่ามกลางสายลมหนาวที่พัดกรูกราว พร่างพราว... ให้.. ใบไม้ใบนิดๆน้อยๆ ค่อยๆพร่างพลิกพลิ้วปลิดปลิว..ละลิ่วลอยลงมา ใน.. ท่ามสายแสงแดดสีทอง ละอองอ่อนอุ่นอาบทอทาบทามาในยามอุษา และราวกับว่า... นั่งอยู่ในท่ามป่าใหญ่ไพรกว้าง อย่างแสนสวยงามอ้างว้าง ให้ ดวงจิตดวงว่างยิ่งงามแสนงาม ในครรลองทองผ่องผุด ราว... *โลกตรงหน้ากำลังหยุดหมุน* ให้ น้อมรำลึกนึกย้อน *ตามรอยพระบาทองค์พระบรมศาสดา* องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าไปในยามสมัยพุทธกาล... และ... ในท่ามทิพย์นิรมิตใจนั้น..แม่ดวงดอกพุดไพร เห็นแสงจรัสจ้า... ประดุจดั่ง.. สายแสงเพชรพราวพรายฉายฉาน โชติช่วงจับฟากฟ้า จาก.. ปวงพลังแห่ง*พุทธธรรมทายาทรังสี* ที่.. พลีพร้อมใจกันมาบวชรวดเดียวกันถึงหกสิบสองรูป พลังจิตนั้น จึง.. พลัน...สว่างไสว..ดั่งมณีดวง ช่วงโชติ โรจน์รุ่งรัศมี ประดุจรัตนมณีแห่งนาคร ... ให้... ดวงใจอรชร..ในนาทีนั้น เกิดปิติบุญและอุ่นเอิบไปด้วยความงามจิตงามใจ เกินหาค่าคำใดมาบอกกล่าว ในพราวพราย.. จากอัญมณีชีวิต..อันแสนนิดหนึ่งน้อยนี้ ที่ได้สัมผัสพบเห็น... และ.. หวังเพียรพลี ทุกลมหายใจนี้ให้เพียงคิดใฝ่ดี พูดดี ทำดี และ.. พร้อมพลีให้...ผองเพื่อนมนุษย์อย่างมิสิ้นสุด...รัก มิ...สิ้นสุดหยุดศรัทธา..ในคำสอน อันคือ*อมตะนิรันดร์*... ในสัจจะธรรมแห่งพระบวรศาสนา เพื่อ.. ให้ชีพชนม์ทุกผู้คนบนผืนหล้า... ยังคงดำรงคงความดีประดับฟ้าไทยไปตราบชั่วกาล... และ.. ให้สมกับการ ที่ได้เกิดมาในร่มฉัตรร่มพระรัตนตรัย ได้มีโชค รู้ดับโศกพ้นทุกข์ จากทุกคำสอนของพระบรมศาสดา..พระพุทธศาสนา ดั่งบัวขาวพราวหล้า... ให้.. หลุดพ้นจากพันธนาทุกข์โคลนตม เป็นบัวพ้นน้ำบัวบูชาชูช่อไสว รับทานธรรมนำมาส่องนำทางใจ ไปตราบชั่วชีวีนี้...ตราบเท่าที่ยังมีลมหายใจ...!!! .......................... http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song206.html อันเป็นดวงใจ ครูทูล ทองใจ ฉันมีเธอนั้นอันเป็นดวงใจ โอ้เป็นความรักยิ่งใหญ่ เหมือนดาวรักใคร่ฟากฟ้า เหมือน ดังแสงสุริยา สาดแสงส่องพื้นภพหล้า ลงมาจูบทานตะวัน เห็นใจเถิดฉันนั้นยังดำรง เทิดทูนความรักสูงส่ง ซื่อตรงไม่เปลี่ยนแปรผัน หวัง ใจได้คู่เคียงกัน ตราบนิรันดร์มั่นหมายสวาท เป็นทาสความรักเสมอ อันเป็นดวงใจมานานแรมปี เป็นราชินี แห่งใจฉันนี้คือเธอ ทุกๆ ค่ำเช้าเฝ้าละเมอ จิตใจพร่ำแต่เพ้อว่า รัก รักเธอรักจริง ฉันรักเธอเหมือนดังดวงชีวา ไม่เคยจะคิดเลยว่า สัญญาแล้วจะทอดทิ้ง เห็น ใจฉันบ้างยอดหญิง มอบหัวใจให้แล้วทุกสิ่ง ด้วยความสัตย์จริงเสมอ แด่เธอ ผู้เป็น ดวงใจ...
26 ธันวาคม 2548 12:11 น. - comment id 549237
http://www.worldbuddhism.net/buddhaplace/veruwan.htm http://www.sarakadee.net/feature/2003/08/buddhist_sites.htm .............. เจ้าชายสิทธัตถะเริ่มการเดินทางในวัยหนุ่ม ๒๙ ปี จากนั้นได้ทุ่มเทชีวิตส่วนที่เหลือ ทดลอง ค้นพบ และประกาศตนเป็นศาสดาแห่งพุทธศาสนา ออกเผยแผ่ \"ความรู้ใหม่\" ในดินแดนที่ผู้คนส่วนใหญ่ แสวงหาความหลุดพ้นด้วยการสวดหรือร่ายพระเวท พึ่งพาเทพเจ้าและการบวงสรวง มีวรรณะเป็นสิ่งติดตัวมาแต่กำเนิด อันเป็นศรัทธาในแบบฮินดู-พราหมณ์ ที่ฝังรากแน่นมานานก่อนหน้าพุทธศาสนา ตั้งแต่ครั้งอารยันเข้ามาตั้งถิ่นฐานในชมพูทวีปเมื่อ ๓,๕๐๐ ปีก่อน และได้สร้างอารยธรรมที่เป็นรากฐาน รวมทั้งวิถีชีวิตให้หลายประเทศ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้รับช่วงไป ไม่ว่าจะเป็นการปกครองแบบเทวราชา หรือวรรณคดีอย่างมหากาพย์มหาภารตะและรามายณะ ศาสดาผู้มาใหม่ต้องใช้ความพยายามอย่างยิ่งที่จะบอกว่า มนุษย์หลุดพ้นด้วยการไม่มีอวิชชา สามารถพึ่งพาตนเอง และมีกาลามสูตรเป็นหลักยึด คืออย่าเชื่อโดยไม่ได้พิจารณาด้วยเหตุผลของตนเอง พระองค์ทรงทราบดีว่า สิ่งที่ค้นพบนั้นลึกซึ้งยากที่ใครจะเข้าใจ หากต้องลงมือปฏิบัติและใช้ความคิดเชิงเหตุผล ประกอบกับปัญญาที่มนุษย์ทุกผู้มีติดตัวมาแต่กำเนิดในระดับแตกต่างกัน พระพุทธเจ้า ศาสดาแห่งศาสนาพุทธ ผู้มีกำเนิดในวรรณะกษัตริย์ ทรงแสดงธรรมที่ได้ค้นพบตั้งแต่พระชนมายุได้ ๓๕ จนเสด็จปรินิพพานเมื่อ ๘๐ พรรษา ทิ้งสิ่งแทนพระองค์ไว้คือพระธรรม ที่ทรงเปิดช่องไว้ว่า อาจปรับเปลี่ยนตามยุคสมัย และคำบอกเล่าผ่านพระอานนท์สาวกว่า หากนึกถึงพระองค์ สังเวชนียสถานทั้งสี่อาจเป็นสิ่งแทนความรำลึกถึงนั้นได้ สังเวชนียสถาน มีส่วนคล้ายกับจุดกำเนิดศาสนสถานทั้งหลาย ที่ดำรงอยู่อย่างเรียบง่ายแม้เวลาจะผ่านไปนับพัน ๆ ปี หากสามารถดึงดูดผู้มีศรัทธาทั่วโลกได้ปีละนับล้าน ๆ นักแสวงบุญมุสลิมมุ่งสู่นคร เมกกะ-ซาอุดีอาระเบีย เพื่อจุมพิตกาบาห์-ก้อนหินศักดิ์สิทธิ์สีดำสักครั้งในชีวิต ชาวคริสต์ ยิว และมุสลิมบางกลุ่ม หวังว่าจะได้ไปเยือนนครเก่าแก่นับพันปี เยรูซาเล็ม-อิสราเอล ส่วนชาวพุทธ สังเวชนียสถานทั้งสี่ สถานที่ประสูติ ณ ป่าลุมพินี เมืองกบิลพัสดุ์ เนปาล สถานที่ตรัสรู้ ณ ตำบลอุรุเวลาเสนานิคม พุทธคยา อินเดีย สถานที่แสดงปฐมเทศนา ณ ป่าอิสิปตนมฤคทายวัน สารนาถ อินเดีย สถานที่ปรินิพพาน ณ ป่าสาลวัน กุสินารา อินเดีย คือจุดหมายของผู้มีศรัทธาปสาทะแรงกล้าในพุทธศาสนาจากทุกทวีปทั่วโลก
26 ธันวาคม 2548 12:28 น. - comment id 549243
... แวะมาทักทายด้วยความคิดถึงพี่พุดกั๊บป๋ม
26 ธันวาคม 2548 13:52 น. - comment id 549267
หอมไอบุญหนุนสร้างกระจ่างแล้ว ย่อมเพริศแพร้วแนวทางที่สร้างสรรค์ ย้อมใจจิตคิดสว่างของทางมัน เมื่อธรรมนั้นพล่านฟุ้งย่อมจรุงใจ.แก้วประเสริฐ.
26 ธันวาคม 2548 14:06 น. - comment id 549286
มาเยี่ยมพี่พุด ด้วยรักค้าบ ไม่ได้มาเยี่ยมตั้งนาน ด้วยเพราะมัวแต่ขะมักเขม้นกับการบ้าน และงานสนุก ๆ ที่พี่อิมตั้งโจทย์ไว้ สนุกดีคับเลยเพลิน คิดถึง และด้วยรักคับ
26 ธันวาคม 2548 18:02 น. - comment id 549314
แวะมาเติมกำลังใจและรับบุญด้วยคน อิอิ
27 ธันวาคม 2548 09:19 น. - comment id 549352
พลีฝากให้ฤกษ์มิ่งมิตรมานานวัน ฝันร่วมในร่มเงาร่มรักเรือนไทยเรือนทอง มานานปี ในงาน*หลวงพ่อช่วยด้วยค่ะ* พร้อมแก้คำให้นิ๊ดนึงค่ะคนด ................. พระพุทธชินราชมลังเมลือง ทองสุกเหลืองฉัพพรรณรังสี ประภัสสรเลื่อมพรายประกายมณี อัญชลีเบญจางคประดิษฐ์ ระลึกถึงพระวิสุทธิคุณ สัมพุทธะใบบุญโปรดสถิต มาคุ้มภัยศัตรูหมู่อมิตร ได้สัมฤทธิ์หน้าที่มีโชคชัย กำหนดจิตตั้งสัตย์อธิษฐาน เรื่องพ้นผ่านเคี้ยวคดหมดสงสัย ชีวิตเราต้องก้าวเดินเจริญวัย เก็บความนัยรับรู้เพียงผู้เดียว องค์หลวงพ่อพอรู้บ้างหรือไม่ ลูกวิ่งหนีหัวใจเข้าไพรเขียว เคยผึ่งผายงามสง่าท่าปราดเปรียว กลับซีดเซียวระหกระเหินเกินบรรยาย ขอพี่งบุญหลวงพ่อพุทธชินราช ให้เปรื่องปราชญ์ชนะใจได้โดยง่าย อยากหยุดรักเหมือนหัวใจใกล้จะวาย คงต้องตายก่อนเป็นไทใจจองจำ ช่วยผมด้วยหลวงพ่อพอให้รอด เหมือนเช่นคนตาบอดก้าวถลำ เป็นเวรกรรมนำมาพบคนใจดำ ต้องเจ็บช้ำแทบอาสัญขวัญกระเจิง. บทนี้คารวะเลยค่ะฤกษ์ และ จะตอบหน่อยนะคะ พรใดหลวงพ่อจะช่วยได้ หากงามให้เจ้าจักได้พรดั่งประสงค์ ทำความดีพลีรักให้ธำรง พรดำรงเพราะดี..หากมีใจดวงธรรมดวงทอง ทำดีดีนั้นเป็นพร ไม่ต้องอ้อนวอนขอพระกับใครค่ะคนดี หลวงพ่อท่านพุทธทาสกล่าวไว้ค่ะ ท่องไว้นะคะ http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song4603.htmlหลวงพ่อ เจ้าขา ช่วยแผ่เมตตาลูกหน่อยได้ไหม ลูกนี้อาภัพอับโชคหรือไร มีรักครั้งใด หัวใจเหมือนไฟร้อนรน หลายคน ที่พบ พอเขาได้ซบต้องหนีหลบล่องหน ขว้างทิ้งดังเศษดินข้างถนน น้ำตาร่วงหล่น หาคนรักแท้ไม่มี เข้าวัด ทุกวัน ใส่บาตรทำทานบนบานขอให้โชค ดี แต่ผียังตามหลอนหลอกย่ำยี วันหยุดพักไม่มี บวชชีดีไหม หลวงพ่อ เจ้าขา ลูกหมดปัญญาเหนื่อยจังหัวใจ สิ้นหวังรักทุกข์ครั้งสุดวุ่นวาย จึงพร้อมมอบกาย หัวใจถวาย วัดเลย หลวงพ่อ เจ้าขา ลูกหมดปัญญาเหนื่อยจังหัวใจ สิ้นหวังรักทุกข์ครั้งสุดวุ่นวาย จึงพร้อมมอบกาย หัวใจถวาย วัดเลย. รักล้นใจค่ะ ใกล้ปีใหม่แล้ว ให้พรดีที่ฤกษ์เพียรพลีทำแด่ทุกดวงใจ ได้ย้อนกลับมาเป็นดั้งพรขวัญพรใจ ให้ฤกษ์คนดีสมดั่งที่เจตนาค่ะ รักมานานวันค่ะ
27 ธันวาคม 2548 09:01 น. - comment id 549354
พลีฝากไว้ประโลมใจคุณแก้ว ยามแรกรักฝากน้ำคำระรินร่ำ ทุกเช้าค่ำพร่ำหวานปานสวรรค์ มาวันนี้ฤดุกลายตามคืนวัน อย่าโศกศัลย์สักวันนึงเขาก็จักซึ้งถึงคำว่าดายเดียว..แสนเดียวดายคล้ายกับเรา ............ คนเราเมื่อถึงวัยวันหนึ่ง เขาก็จะหนีสัจจะธรรมนี้ไม่พ้นค่ะ ความเดียวดายไร้..ใคร..ไร้ใจ..ไร้นำใจ และเมือ่หันกลับมาก็..สายเกินค่ะ คุณแก้วคะ เพลงนี้พุดรักมากค่ะ รักที่สุด ส่วนมากคนที่รักพุดมักครวญให้ฟังค่ะ http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song718.html ขวัญ เอ๋ย เคยภิรมย์ชิดชื่น สุขสันต์ หลง เพ้อฝัน รักมั่น มิทันจะเนิ่น เธอ เมินหมาง โอ้ อ้างว้างอารมณ์ ฤดี เหมือนโนรี จากคอน หลงรังนอน ลืม พี่ เหมือนชีวี เดียวดาย เอกา โอ้ ดึกเดือนคล้อย เดือนเจ้าจะลอย จากตา มอง นภายังเห็นดารา เรียง ราย เหลียวหา จนทิวาโฉมเจ้า แล หาย หรือ รักแล้วแหนงหน่าย รักเอ๋ย ลืมง่าย ใย เมินเฉย โอ้ ใจเอ๋ยใจเลย แรมรอน ฉันยังจำ ติดตา ทุกทิวาคืนก่อน เหลืออาวรณ์ใจเอย ค่ำลง โอ้ ใจสะท้อน จะหลับจะนอนพะวง ลืมไม่ลง มันเหมือนมีมนต์ ดล ใจ. ด้วยรักเข้าใจคารวะและอยากปอลบประโลมใจค่ะ ปีใหม่ทานข้าวด้วยกันมั้ยคะอิอิ พุดมีที่ทานข้าวนั้งเงียบงาม ทอดตาทอดใจ ดูสายน้ำเจ้าพระยา ยามตะวันลับฟ้าแสนงามริมน้ำ และ.. จะให้คนร้องเพลงนี้กำนัล รับขวัญคุณแก้วค่ะ.. ด้วยซึ้งใจมานานวันค่ะ
27 ธันวาคม 2548 08:57 น. - comment id 549360
พลีให้น้องไร้ตัวตน ในงาน*ยากข่มตาเพราะคิดถึง* ซึ้งน้ำคำซึ้งน้ำใจลูกผู้ชายคนนี้พลีให้รัก หมายเพียงภักดิ์รักเพียงให้ใช่หวังขวัญ ทิวาผ่านราตรีหวานเพียงคืนวัน ปลอบโศกศัลย์ให้ที่รักได้พักใจ..ได้อุ่นไอ.. ด้วยรักและซึ้งในน้ำคำน้ำใจค่ะคนดี
27 ธันวาคม 2548 09:30 น. - comment id 549400
พลีปลอบประโลมใจรับขวัญ น้อง*แมงกุ๊ดจี่* ในงาน เหตุผล*ค่ะ .......... เหตุคือรัก ผลคือทุกข์หนักใช่ไหมเล่าน้องน้อย ให้ทำใจใสใสไม่หลงฝันอันลาลอย แล้วก็ถอยมาทบทวนอย่าหวนไห้ให้นานวัน.. ด้วยรักและรักค่ะ มาค่ะมาให้พี่พุดกอดแน่นๆรับขวัญ ปลอบประโลมใจค่ะคนดี แหงนมองฟ้าสิคะ เมื่อฤดูกาลเมฆหมองฝนมัวผ่านลา แสงแดดกระจ่างจ้าจะหมุนวนมาใหม่ค่ะ คนดี นะน้องน้อยที่พี่พุดแสนรัก ที่แสนมีหัวใจผ่องพิสุทธิ์ใสเกินใดปาน ให้ทุกข์เรื่องราวผันผ่าน ให้*กาลเวลา*รักษาใจ ตัดสินใจค่ะ http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song413.html ฉันปล่อย ให้กาล เวลา ตัดสิน ชะตา ปัญหา หัวใจ แม้ จะรักเธอ รักเธอ เท่าใด แต่ หัวใจ ดวงนี้ มีสิ่ง ผูกพัน ขอให้ เป็นเพียง การคอย อย่างน้อย เรายัง เรียนรู้ ใจกัน เพราะว่า หัวใจ ของเรา ผูกพัน วันหนึ่ง วันนั้น ความฝัน อาจ เป็นความจริง เรารู้ การคอย คือการ เจ็บปวด เป็นความ เจ็บปวด รวดร้าว ใจทุกสิ่ง ทุกหยด ของกาล เว-ลา ที่ ปรารถนา และ ความจริง คอยสิ่ง ที่เรา มั่นใจ ฉันปล่อย ให้กาล เวลา ช่วยชี้ ชะตา ไม่รู้ วันใด แม้ จะต้องคอย และคอย ต่อไป นาน สักเพียง ไหน ปล่อยให้ กับกาล เวลา เรารู้ การคอย คือการ เจ็บปวด เป็นความ เจ็บปวด รวดร้าว ใจทุกสิ่ง ทุกหยด ของกาล เว-ลา ที่ ปรารถนา และ ความจริง คอยสิ่ง ที่เรา มั่นใจ ฉันปล่อย ให้กาล เวลา ช่วยชี้ ชะตา ไม่รู้ วันใด แม้ จะต้องคอย และคอย ต่อไป นาน สักเพียง ไหน ปล่อยให้ กับกาล เวลา...
27 ธันวาคม 2548 10:00 น. - comment id 549412
พลีใจรักสัจจะธรรมงานงามล้ำสอนใจ ของคุณกุ้งหนามแดงค่ะ ........................ ยอดงามจิตสอนใจค่ะคุณกุ้งคะ คิดถึงมากค่ะ สบายดีนะคะ ใกล้ปีใหม่แล้ว พรใดแห่งกุศลจิตที่คิดดีทำดี มาตลอดปีของคุณกุ้ง จงยิ่งทำให้จิตคุรกุ้ง ยิ่งรุ่งพราว ราวเพชรพราว..ฉายฉานโชติช่วง ในรวงใจแสนไสวสว่างกระจ่างงาม ตลอดไปนะคะคนดี พุดรักค่ะ
27 ธันวาคม 2548 10:11 น. - comment id 549417
พลีบทเพลงนี้ แสนสะท้อนจิตงามใจ ให้น้องแดดเช้าในงาน *ตำนานรักดวงตะวันค่ะ ที่พี่พุดชอบไพรค่ะ http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song3816.html ดวงตะวัน ที่เคยส่องแสงให้ความ สว่าง กำลังจะจาง กำลังจะเลือนหายไป คนที่ดี ที่มีแก่ใจให้กัน มาก่อน กำลังจะลืม กำลังจะเดินหนีไป ท้องฟ้าก็คงมืดมน และคงมีคนเสียใจ อา!! แค่เพียง อยากรู้ว่าทำไม ตอบได้ไหมเล่าดวงตะวัน แม้แต่ดาว ที่พราวบนฟ้าก็ดู เลือนลาง และมันก็จาง ไม่พอจะแทนที่ใคร คนใด มีแต่เธอ เป็นเพียงตะวันไม่มี คนอื่น และเธอเท่านั้น คือดวงตะวันที่หายไป ท้องฟ้าก็คงมืดมน และคงมีคนเสียใจ อา!! แค่เพียง อยากรู้ว่าทำไม ตอบได้ไหมเล่าดวงตะวัน ท้องฟ้าก็คงมืดมน และคงมีคนเสียใจ อา!! แค่เพียง อยากรู้ว่าทำไม ตอบได้ไหมเล่าดวงตะวัน ตอบได้ไหมเล่าดวงตะวัน... ด้วยรัก
27 ธันวาคม 2548 10:32 น. - comment id 549423
พลีฝากให้น้องหมอกจาง ในงานธุระปะปัง จนลืมหวังสิ้นหวาน ไร้ข่าวสารสื่อรักภักดีกันและกันแล้ว และ.. แด่ ทุกดวงใจ ในวันใกล้ปีใหม่ จากใจ แม่ดวงดอกพุดไพรใจสาวบ้านนานะคะ คนดี เมื่อเช้าวาน พีพุดไปวิ่งออกกำลังกาย จนไปสุดทางที่ นาข้าวพราวขจี ที่คงเหลือผืนสุดท้ายแล้ว ที่ชิดใกล้เคียงเมืองทองเมืองฟ้าอมร ที่คนไม่อาวรณ์ทุ่งนา และต้นไม้สักเท่าไรแล้วค่ะ แล้วเห็นภาพหมอกจางให้หอมใจ พี่พุดไพรใจสาวนารักเยวรวง ในยามทั่วนภาอุษาสางค่ะ แสนงามจิตมาก พี่พุด..คิดถึงเราค่ะ หมอกจางๆๆๆๆๆ หวานๆๆๆ ในทุกงานงามเงาในร่มรักเงาใจ แห่งพี่พุดไพรและทุกดวงใจ ณ..ที่แห่งนี้ พี่พุดตั้งใจจะนำกล้งไปอีกครา เพื่อบันทึกภาพไว้ค่ะ ก่อนจะสายเกิน กับภาพงามล้ำค่านี้นะคะมาพลีฝากค่ะ พี่พุด... เดินๆไปจนได้ต้นไม้มาหลายพันธุ์ค่ะ มี.. มาลัยทองห้อยเป็นพวงระย้างามมากค่ะ มีกอกกที่ใสไว้ในกระถางดินเผา มาวางไว้ ให้หัวใจสาวนา ราวได้ชิดใกล้รึมบึงฝัน ได้ปันใจในยามเช้า ยามมายืนมองดูค่ะ มี.. *อมรเบิกฟ้า*ที่ กำลังคลี่ดอกดวงสีชมพูสดสะล้าง หวานแฉล้มมาสองกระถางค่ะ และ ยังมีอีกหลายค่ะ และ ลองทายสิคะว่า ขากลับต้องมากับรถอะไร..อิอิ นี่..คือคำรักคำฝากจากใจ ที่มิใช่เมล์ใจดอกนะคะ หากคือความงามจิต จากชีวิตนักอยากจะเขียน ในร่มรัก ที่จักพลีฝากมาให้ ด้วยความรักและรำลึกถึงเสมอมาค่ะ มิว่าวันเวลาจะผันผ่านไป นานสักแค่ไหน ปีเดือน ในคำนึงแค่ค่านับ จักเคลื่อนคล้อยลอยลับลา ไปกี่นาทีกี่วันปี ก็ยังคงความรู้สึกแสนดีแสนงาม ในท่ามโลกแล้งไร้ ยามได้พบมิ่งมิตรน้องพี่ ในถนนสายฝันนี้ที่เพียรพลีรักรจนา ฝากฝันปันปลอบมาด้วยกัน ความรู้สึกงดงามนั้น ก็ยังถาโถมโหมให้ไฟฝัน มิมีวันมอดดับค่ะ ด้วยรักฝากผ่านไปถึงทุกดวงใจ ในวันใกล้สิ้นปี หากมิมีวัน สิ้นไฟฝันแรงบันดาลใจ ที่จัก.. เพียรทำความดี พลีให้รักค่ะ แด่ ทุกคนดีในร่มรัก ในเรือนใจเรือนทองเรือนไทย ณ..แห่งนี้ไปตราบนานเนาค่ะ จากใจ
27 ธันวาคม 2548 10:33 น. - comment id 549424
คุณ พุด สาวงามแห่งพงไพร เพียงแค่น้ำใจของคุณทำให้ผมซาบซึ้งใจเป็น อย่างยิ่ง จะหาน้ำใจที่แสนดีงามนี้อีกมิได้แล้วครับ คิดว่าคงจะมีโอกาสได้ร่วมรัปทานอาหาร เพลงที่ส่งมาให้ผมนี้เป็นของชรินทร์ นันทนาครร้อง หรือสุเทพ วงศ์คำแหง หากจำไม่ผิดเป็นของชรินทร์ มากกว่าครับ เพราะผมเคยร้องมา แต่บัดนี้จำเนื้อร้องไม่ได้แล้ว ผมเก็บเนื้อร้องไว้แล้วครับ ขอบคุณมากครับ ขวัญเอ๋ยแม่ยอดงามยามใฝ่ถึง เฝ้าคำนึงรำพึงถึงซึ่งความหลัง ซึ่งดึกดื่นคืนนี้พี่ใจพะว้าพะวัง ดุจมนต์ขลังฝังสู่ไว้ไม่กลับมา อนิจจาโฉมฉายมาหายลับ นับวันกลับคืนมาใจฉันผวา โอ้หัวใจให้อาวรณ์ตอนลับตา ที่รักจ๋าให้เวลามาเคล้าเดือน คงเหลือไว้ให้อาวรณ์ตอนเปล่าเปลี่ยว จันทร์ลดเลี้ยวแลลับหายคล้ายถูกเฉือน เหลือเพียงเสี้ยวแต่เกี่ยวใจยากแชเชือน เปรียบเสมือนหัวใจพี่ที่คอยนาง.แก้วประเสริฐ.
27 ธันวาคม 2548 15:09 น. - comment id 549431
หอมบุญอุ่นอุษา.. แห่งพระธรรมพุทธบรมศาสดา.. merry christmas & happy new yea
27 ธันวาคม 2548 10:36 น. - comment id 549445
http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song2247.html ขอมอบ ดอกไม้ ในสวน นี้เพื่อมวล ประชา จะอยู่ แห่งไหน จะใกล้ จะไกล จนสุดขอบฟ้า ขอมอบ ความหวัง ดั่งดอกไม้ ผลิ สด ไสว งาม ตา เป็นกำลังใจ ให้ คุณ เป็นกำลังใจ ให้ เธอ เป็นสิ่งเสนอ ให้ มา ดวงตะวัน ทอ แสง มิถอยแรง อัปรา เป็น เปลวไฟที่ไหม้ นาน เป็น สายธารที่ชุ่ม ป่า เป็น แผ่นฟ้า ทาน ทน ดวงตะวัน ทอแสง มิถอย แรง อัปรา เป็น เปลวไฟที่ไหม้ นาน เป็น สายธารที่ชุ่ม ป่า เป็น แผ่นฟ้า ทาน ทน ขอมอบ ดอกไม้ ในสวน ให้หอมอบอวล สู่ ชน จงสบ สิ่ง หวัง ให้สม ตั้งใจ ให้คลาย หมอง หม่น ก้าว ต่อไป ตราบชีวิต สุด ดุจ กระแส ชล เป็นกำลังใจ ให้ คุณ เป็นกำลังใจ ให้ เธอ เป็นสิ่งเสนอ ให้ คุณ เป็นกำลังใจ ให้ คุณ เป็นกำลังใจ ให้ เธอ เป็นสิ่งเสนอ ให้ คุณ เป็นกำลังใจ ให้ คุณ เป็นกำลังใจ ให้ เธอ เป็นสิ่งเสนอ ให้ คุณ เป็นกำลังใจ ให้ คุณ เป็นกำลังใจ ให้ เธอ เป็นสิ่งเสนอ ให้ คุณ...
27 ธันวาคม 2548 20:53 น. - comment id 549497
พี่พุดสุขสันต์ปีใหม่ล่วงหน้านะพี่พุด สวัสดีปีใหม่สิ่งร้ายๆให้ผ่านพ้นไปสิ่งดีๆใหม่ๆเข้ามาสู่พี่พุดครับ