ลมพยักทักช่อล้อดอกไม้ แล้วทักทายกิ่งใบไหวพฤกษา ฉับพลันนั้นสวนขวัญฟื้นชีวา ด้วยกระแสลมพาให้เปลี่ยนแปลง ลมเย้าหยอกบอกน้ำตามธารสาย อย่าเหือดหายแห้งไปโลกระแหง สัมผัสผิวปลิวคลื่นระรื่นแรง ลมแทรกแซงผิวน้ำหลามไหลไป ลมล่องลอยคอยดูหมู่เมฆา เข้าโอบพาหมอกเลือนให้เคลื่อนไหว ท้องฟ้าพลันเปลี่ยนภาพอย่างฉับไว เพราะสายลมเปลี่ยนไปเมฆเปลี่ยนตาม ลมหายใจไม่นิ่งวิ่งเข้าออก คือสัญญาบ่งบอกถึงสนาม ว่าชีวิตมีอยู่คู่โลกงาม ยังไม่ถึงแก่ความมรณา หากผู้ใดปล่อยใจให้ท้อแท้ ทิ้งชีวิตชุ่มแช่กับปัญหา เหมือนก้อนหินจมลงใต้คงคา หาได้เป็นลมพาให้ฟื้นชนม์ อย่าเฉยชาหลั่งน้ำตาอยู่อย่างนั้น เคลื่อนไหวพลันเปลี่ยนฤดีหนีสับสน สั่งความหวังขับเคลื่อนเลื่อนกมล ดั่งลมบนพัดพาเมฆาลอย หากชีวิตสิ้นไร้การไหวเคลื่อน ก็แม้นเหมือนมรณาเพราะความหงอย มีลมอยู่ไม่รู้ใช้เหมือนไก่ได้พลอย ชีวิตที่นิดน้อยไร้ค่าพลัน
25 พฤศจิกายน 2548 09:34 น. - comment id 541060
ลมหายใจชีวิต ลมหายใจโลก ปราณ แห่งการดำรงคงคู่โลก ลมไหวโบกเบิกบานสานสร้างสรรค์ ขับเคลื่อนโลกหมุนวนบนวารวัน โลกเหวี่ยงผันลมประคองครองโลกยัง ใต้ดินมีลมอุ่นคอยหมุนเวียน ใต้น้ำเปลี่ยนแปรปรวนลมหวนหลั่ง เหนือฟ้าคลุมคุ้มลมพรมประทัง เหนือน้ำคลื่นประดังลมยังโชย ภายในสัตว์ลมจัดเจนให้เด่นชัด เพื่อคุ้มสัตว์คุ้มเผ่าพันธุ์เปียกแห้งโหย ลมหายใจโลก ... โบกสะบัดพัดใจโรย คือแส้โบยเฆี่ยนสั่งสอนคือพรคำ จึงรวบจิตตรองสติคิดตริตาม ลมพัดท่ามความเป็นไปในเช้าค่ำ ครั้นรู้ลม เห็นลม เป็นสื่อนำ ให้รู้ตนย้อนย้ำเข้าใจตน รู้สรรพสิ่งอิงซ่อนรับพรโลก รู้ทุกข์โศกลักษณ์สามตามเหตุผล หลุดห่วงใยใจบ่วงห่วงกังวล หลุดสับสนโลกธรรมกระหน่ำใจ สวัสดีค่ะ ... พี่ดอกแก้ว วันนี้ ดีจังเลย พี่ดอกแก้วพูดถึงเรื่อง \"ลม\" เพราะลมเป็นบ่อเกิดแห่งสติจริงๆ ค่ะ ถ้าเราเห็นลมทั่วกายแล้ว เราก็จะรู้กายตัวเอง รู้ทุกอิริยาบถของตัวเอง สติก็ตั้งมั่นที่กายได้ตลอดเวลา ถ้าเราสามารถเห็นลมทั่วกายได้ตลอดเวลา ถ้าเราเห็นลมทั่วโลกด้วยแล้ว สติของเราก็จะแผ่ออกไปทั่วโลกแล้วปัญญาของเราก็จะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว เห็นความเป็น \"ไตรลักษณ์\" ได้ชัดเจนตามความเป็นจริง ที่ไม่ได้เกิดจากการคิดเอา อนุโมทนาบุญค่ะ พี่ดอกแก้ว .... ขอให้พี่ดอกแก้วพบความสุข ความสว่างทั้งทางโลกและทางธรรม ตลอดไป สาธุค่ะ : )
25 พฤศจิกายน 2548 10:08 น. - comment id 541074
ผมรู้สึกว่าเวลามีค่ามาก ไม่อยากเสียไปกับอะไรนาน ๆ แต่ก็พยายามอ่านจนจบ ภาพในบทกลอนสวยครับ มีคติ..
25 พฤศจิกายน 2548 10:13 น. - comment id 541077
สวัสดีค่ะพี่ดอกแก้ว.... แวะมาบทกลอนที่มีความหมายดีดี และมึคติสอนใจค่ะ............ ตอนนี้ก็ไม่ได้อยู่เฉย ทั้งทานข้าว ทั้งอ่าน ทั้งพิมพ์..อิอิอิ ไปล่ะค่ะ แวะมาทักทายค่ะ
25 พฤศจิกายน 2548 11:07 น. - comment id 541102
สวัสดีค่ะ พี่ดอกแก้ว เป็นอย่างไรบ้าง สบายดีนะคะ อากาศหนาวแล้วรักษาสุขภาพนะคะ ด้วยรัก และระลึกถึงเสมอ... รีบ ๆ ไปทำธุระในเมืองมาทักทาย ก่อน บ่ายๆ หากมีโอกาสจะกลับมา ฝากกลอนไว้ถ้ามีเวลา
25 พฤศจิกายน 2548 11:59 น. - comment id 541112
ลมพาพัด...ระบัดใบ ร่วงหล่น...ปลิวหาย ลมอุ่น...หนาวคลาย ผลิใบใหม่...อีกครา ...สายลมที่พัดผ่าน... นำบางอย่างจากไป.. หาก....ก็นำบางสิ่ง ...มาสู่...เช่นกัน สวัสดีค่ะ..พี่ดอกแก้ว...
25 พฤศจิกายน 2548 12:18 น. - comment id 541126
ลมพัดเฉียงเรียงช่อล้อไม้ดอก ดุจสัพหยอกหลอกล่อล้อสู่ฝัน กลิ่นพัดเวียนวนเว้าเคล้าสู่กัน วิญญาณนั้นพลันพบจบนิทรา.แก้วประเสริฐ.
25 พฤศจิกายน 2548 12:31 น. - comment id 541135
ตอนนี้ เวลานี้เอมกำลังร้องไห้อยู่ในใจค่ะพี่ดอกแก้ว เอมไม่อยากเสียเวลากับความรู้สึกเดิม ๆ แต่พอรับรู้ว่าเค้าไม่ใยดีเราสักนิด ความรู้สึกเสียใจก็ตีตื้นกลับมาอีกครั้ง ..
25 พฤศจิกายน 2548 12:43 น. - comment id 541153
ลม หายใจเข้าออกบอกชีวิต ลม หยุดหายเท่ากับปลิดชีวาย ลม พัดเย็นตามกาลที่เวียนว่าย ลม หายใจสุดท้ายก่อนตายวาชีวี มาชื่นชมผลงานดีๆๆจากพี่ดอกแก้วอีกครั้งจ๊ะ พี่สาวคนดี.....
25 พฤศจิกายน 2548 13:24 น. - comment id 541184
ลมหายใจไม่หยุดอย่าหยุดนิ่ง ไล่ท้อทิ้งจากตนให้พ้นพ่าย แล้วสิ่งฝันที่เรานั้นเฝ้ามุ่งหมาย ก็จะได้ตามใจที่ใฝ่ปอง จะไม่ท้อ จะไม่ถอยค่ะ เพราะใกล้แล้วค่ะพี่ เหลืออีกนิดเดียว น้องก็ใกล้จะสำเร็จแล้วค่ะ คิดถึงพี่ดอกแก้วนะค่ะ
25 พฤศจิกายน 2548 13:31 น. - comment id 541196
ตราบที่ลมหายใจยังมีอยู่ จะบินสู้ล่องล่วงกลางห้วงหาว คว้าตะวันชมเดือนและดวงดาว ร้อยเรื่องราวการเดินทางยังนกไพร... ***รักษาสุขภาพครับพี่ดอกแก้ว..
25 พฤศจิกายน 2548 13:33 น. - comment id 541202
พอดีลอยตามสายลมมาครับ อิอิ ปักษามาเยี่ยมเยือน
25 พฤศจิกายน 2548 13:38 น. - comment id 541214
ลมจ๋าอย่าลวงใจ กานต์กำลังเขียนเรื่องนี้ค่ะพี่ดอกแก้ว อยากรู้วิธีใช้ลมจังค่ะ
25 พฤศจิกายน 2548 14:08 น. - comment id 541238
ลม หายใจเข้าก็รู้ หายใจออกก็รู้ กำหนดลม...ให้รู้ทุกขณะ พอลมหายใจฟืดฟาด..ไม่ค่อยจะรู้ อิอิ
25 พฤศจิกายน 2548 15:31 น. - comment id 541284
พี่ดอกแก้วคะ .. อัลมิตราเคยคิดว่า ลม คือ ชีวิต ค่ะ ไม่ได้แปลว่า ลมมีชีวิตนะคะ
25 พฤศจิกายน 2548 15:45 น. - comment id 541293
แวะมาอ่าน กลอน สวยๆ มีค่ามีความหมายมากมายต่อ ชีวิต ขอบคุณค่ะพี่ดอกแก้วจ๋า คิดถึงจังเลยค่ะ
25 พฤศจิกายน 2548 16:21 น. - comment id 541311
ยามลมพัดโชยมาพาร่มเย็น มิว่างเว้นในกระแสแม้แปรเปลี่ยน จะหนักเบาแผ่วพลิ้วปลิวหมุนเวียน เพื่อให้เรียนรู้ชีวิตอย่าปิดตน มาสวัสดี...พี่ดอกแก้วค่ะ........
25 พฤศจิกายน 2548 20:46 น. - comment id 541384
@...น้องรุ่ง... ลมลิ่วผ่านก้านกิ่งทิ้งเคลื่อนไหว ลมแผ่วจากภายในละเอียดแสน แน่วนิ่งอยู่ดูไปไม่คลอนแคลน เกิดแล้วดับทดแทนใช่สิ่งเดียว สวัสดีค่ะน้องรุ่ง... เรื่องของลม..สืบเนื่องจากคราวก่อนในแง่มุมที่ต่างไป และเรื่องของลมทั้งสองคราว..น้องรุ่งได้เขียนไว้อย่างน่าอ่านมาก โดยเฉพาะครั้งนี้ ...สองบทสุดท้าย..พี่ดอกแก้วชอบมากเลยค่ะ ลม..เป็นกรรมฐานที่ใกล้ตัวมาก ทั้งยังบ่งถึงสภาพของความเป็นชีวิตได้ชัด ระหว่างคนเป็นกับคนตาย และลมก็เป็นธาตุที่มีอยู่ทั่วร่างกายและทั่วไป ..หากเรารู้จักใช้สิ่งที่อยู่ใกล้ตัวนี้แล้วละก็ จะเป็นประโยชน์ทั้งต่อสุขภาพกาย และสุขภาพจิต และถ้าหากเห็นลมในสภาพที่ประณีต ก็จะเป็นการเห็นที่ปราศจากการเจือปนของสัญญาที่วิปลาส ซึ่งนักปฏิบัติมากมายต้องการที่จะพบสภาพอารมณ์เช่นนั้นในการเจริญสติปัฏฐาน ความเห็นและคำแนะแนวทางในการดูลม..ขอบคุณมากค่ะน้องรุ่ง และหวังว่าผู้อ่านปลายๆท่านจะพลอยได้รับประโยชน์ในการฝึกสติไปด้วย อนุโมทนาในจิตใจที่งดงามและการมุ่งเผยแผ่ธรรมเป็นทานด้วยนะคะ สิ่งใดที่น้องรุ่งมุ่งหวัง..ขอให้ได้พบสิ่งนั้นโดยไร้อุปสรรคนะคะ ขอบคุณในคำพรจากน้องรุ่งมากค่ะ
25 พฤศจิกายน 2548 20:46 น. - comment id 541385
@...โอ คาลิฟโซ... บางคนใช้เวลาไร้ค่ายิ่ง เพราะปล่อยทิ้งด้วยคร้านงานสนอง บางคนใช้เวลาค่าดั่งทอง ทุกสิ่งต้องฉับไวไม่ลังเล สวัสดีค่ะโอ คาลิฟโซ เป็นความคิดเห็นที่ตรงไปตรงมามากๆ ...เวลามีค่ามากจริงๆค่ะ.โอ คาลิฟโซ และพี่ดอกแก้วก็เลือกที่จะใช้มันไปในทางที่ไม่เป็นโทษกับใคร และหากว่าถ้าก่อประโยชน์ให้แก่ผู้อื่นได้ด้วยก็จะดีมาก ขอบคุณมากนะคะที่เข้ามาอ่านงานยาวๆอย่างนี้ ดีใจค่ะที่ชอบภาพในบทกลอน...และแวะมาทักทายกันอยู่เรื่อยๆ มีความสุขมากๆนะคะ
25 พฤศจิกายน 2548 20:47 น. - comment id 541386
@...แสงไร้เงา... เวลามีไม่มากและหลากเรื่อง ไม่อาจเปลืองทำไปทีละสิ่ง หลายอย่างล้วนสำคัญอย่างแท้จริง แต่เวลานั้นวิ่งไม่รอเลย สวัสดีค่ะแสงไร้เงา ความสามารถเหลือเฟือเลยนะคะ ทั้งทานข้าว ทั้งอ่าน ทั้งคิด และก็พิมพ์ด้วย เรียกว่าบริหารเวลาได้อย่างคุ้มค่าเลยทีเดียว..สำหรับทางโลก อย่างไรก็ระวังจะสำลักข้าวด้วยนะคะ..ถ้าเกิดไปเจอกลอนตลกๆของใครเข้าแล้วยังการหัวเราะไว้ไม่อยู่น่ะ ด้วยความห่วงใยยิ่ง..๕๕๕ ขอบคุณมากนะคะที่แวะมาทักทาย .. ขอให้มีความสุขกับลม และลมหนาวค่ะ
25 พฤศจิกายน 2548 20:48 น. - comment id 541388
@...น้องมะกรูด... ลมยังคงพัดพาคราโลกหมุน ลมหายใจยังอุ่นไม่ขาดหาย ลมคิดถึงยังโถมถาหาคืนคลาย ลมทักทายจากน้องยังล่องมา สวัสดีค่ะน้องมะกรูด.. การงานเป็นอย่างไรบ้าง.. หายวุ่นวายหรือยังคะ อากาศที่บ้านพี่ดอกแก้วเย็นสบายดีกำลังดีค่ะ ความเจ็บป่วยที่มีก็พลอยดีขึ้นมากด้วย ขอบคุณมากนะคะในความคิดถึงและห่วงใย น้องมะกรูดเองก็ต้องดูแลสุขภาพด้วยนะคะ เพราะความเจ็บป่วยจะทำให้ความสามารถในการทำงานลดลงมากเลยค่ะ
25 พฤศจิกายน 2548 20:48 น. - comment id 541389
@...นางสาวใบไม้... ลมไม่อาจหยุดนิ่งกับสิ่งใด พบแล้วพลันจากไปไร้แก่นสาร สิ่งกระทบกับลมอาจร้าวราน และบางสิ่งเบิกบานเมื่อลมจร สวัสดีค่ะ นางสาวใบไม้ ชอบบทสุดท้ายที่สรุปว่า ลมนำบางอย่างจากไปและนำบางสิ่งมาสู่.. ขอบคุณมากนะคะ
25 พฤศจิกายน 2548 20:49 น. - comment id 541390
@...คุณแก้วประเสริฐ... หากลมไม่ไหวเคลื่อนเหมือนโลกนิ่ง และบางสิ่งจดจ่อรอเคลื่อนไหว หากลมไหวรุนแรงมากเกินไป บางสิ่งกลับอ่อนไหวยิ่งกว่าลม สวัสดีค่ะคุณแก้วประเสริฐ ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะคะ .. และขอบคุณงานทุกชิ้นที่กรุณาไปวางไว้ให้อ่านด้วยค่ะ
25 พฤศจิกายน 2548 20:49 น. - comment id 541391
@...น้องเอม... หายใจรับลมใหม่เข้าใส่ตน ระบายความสับสนออกไปเสีย ร้องไห้นานดวงมานอาจอ่อนเพลีย จงนิ่งเสียคนดีแล้วหนีภัย ถึงจะหวนครวญคร่ำพร่ำกี่ครา ก็ใช่ว่าเรื่องเก่าจะย้อนใหม่ ปล่อยอดีตให้เหมือนลมพัดไป กั้นเก็บใจอย่าช้ำซ้ำเรื่องเดิม สวัสดีค่ะน้องเอม ลมแต่ละสายที่เข้ามาปะทะชีวิต..มีทั้งลมเย็น และลมที่ร้อนระอุ บางคราวเราอาจพบลมหนาวบ้าง แต่ใช่ว่าจะไม่มีลมอุ่นพัดผ่านมา รักษาสุขภาพให้ดีและตั้งใจรอรับสายลมที่สดชื่นดีกว่านะคะน้องเอม ใครไม่สนใจเรา ก็ช่างเขาปะไร..แต่เราต้องสนใจตนเองไม่ปล่อยให้ระทมทุกข์อยู่กับเรื่องร้ายๆ เพราะเป็นการทำให้ตนเองไม่มีความสุขด้วยมือของตนเองโดยตรงเลยค่ะ ขอให้มีกำลังใจเอาชนะเรื่องเศร้าได้โดยเร็วนะคะน้องเอม..สู้ๆ
25 พฤศจิกายน 2548 20:50 น. - comment id 541392
@...น้องแก้วนีดา... ลมที่เคลื่อนเลื่อนไปอย่างไร้ทิศ เหมือนชีวิตล่องลอยอย่างสับสน มีภพภูมิกำเนิดเกิดเป็นคน ต้องใช้ตนใช้ลมให้สมควร สวัสดีค่ะน้องแก้วนีดาผู้ที่มีความสุขเสมอ ขอบคุณมากนะคะน้องสาวคนดี ที่แวะมาทักทายอยู่ประจำ มีความสุขมากๆค่ะ
25 พฤศจิกายน 2548 20:50 น. - comment id 541393
@...น้องตูน ผู้หญิงไร้เงา... ลมยังพัดเรื่อยไปใจอย่าท้อ ความสำเร็จยังรอที่เป้าหมาย อึดลมสู้กู้ฝันอันเพริศพราย เพื่อสำเร็จสมหมายใน ป.โท สวัสดีค่ะน้องตูน.. เห็นครุยมหาบัณฑิตอยู่รำไรแล้ว อึดเอาไว้นะคะ ..ขอให้ไปถึงเส้นชัยได้อย่างงดางามค่อน้องตูน
25 พฤศจิกายน 2548 20:51 น. - comment id 541394
@...บินเดี่ยวหมื่นลี้... ลมหายใจยังมีที่เข้าออก ลมภายนอกยังหนุนปีกไม่หลีกหนี จงเริงร่าท้าฝันอันเสรี เพื่อพรุ่งนี้มีตำนานให้ขานไกล สวัสดีค่ะบินเดี่ยว.. ขอให้ลม..นำพาบินเดี่ยวไปจนถึงเป้าหมายนะคะ ขอบคุณที่แวะมาค่ะ
25 พฤศจิกายน 2548 20:51 น. - comment id 541395
@...ปักษาวายุ... สายลมอุ่นหนุนมิตรติดปีกมา แม้นลมหนาวพัดพาก็หายหนาว สิ่งรอบกายไล้ลมที่พรมพราว บอกเรื่องราวมากมายให้รู้ความ สวัสดีค่ะนกน้อยในสายลม.. แวะมาเยี่ยมหลายครากลางลมหนาว ขอบคุณมากนะคะ
25 พฤศจิกายน 2548 20:52 น. - comment id 541396
@...น้องกานต์ หมูน้อย... จะใช้ลมทำอะไร สื่อสิ่งใดในถ้อยสาร หรือใช้ลมเป็นสะพาน เพื่อทอดผ่านทางแสนไกล สวัสดีค่ะหมูน้อย วิธีการใช้ลมแบบไหนล่ะค่ะที่อยากรู้ บางคนใช้ลมพัดกังหัน ก็ได้ประโยชน์มิน้อย บางคนใช้ลมทำสมาธิ ก็ได้ประโยชน์มากมาย บางคนใช้ลมพัดไฟ ก็ยิ่งทำให้การหุงต้มรวดเร็วยิ่งขึ้น ๕๕๕ ขอบคุณมากนะคะที่แวะมาอ่าน ..แล้วพี่ดอกแก้วจะคอยอ่านเรื่องลมจ๋าฯของน้องกานต์ค่ะ
25 พฤศจิกายน 2548 20:53 น. - comment id 541397
@...ฤกษ์... ลมหายใจเป็นอย่างไรก็ต้องรู้ เข้าและออกเฝ้าดูอย่าให้หาย สติต้องคอยดูไม่เว้นวาย มองลวดลายของลมให้เต็มตา มามุขไหนล่ะเนี่ย..ลมหายใจฟืดฟาดน่ะ ฟังแปลกๆพิกล ระวังเถอะ ..อาจารย์กรรมฐานเรื่องลมเขาจะไล่ตีหัวแบะเอาหรอก ..โทษฐานล้อเลียน ขอบคุณที่แวะมากวนค่ะ...ฤกษ์
25 พฤศจิกายน 2548 20:53 น. - comment id 541398
@...น้องอัลมิตรา... ลมเป็นสิ่งที่ไม่มีชีวิตอย่างแน่นอนค่ะน้องอัลมิตรา เพราะเป็นเพียงธาตุหนึ่งที่มีอยู่เป็นส่วนประกอบของสิ่งที่มีชีวิตและไม่มีชีวิต และลมทำให้ชีวิตทรงอยู่ได้...เพราะเป็นอัสสาสะ-ปัสสาสะ หนึ่งในวาโยธาตุที่มีอยู่ในร่างกาย แต่เงื่อนไขของชีวิตตามหลักธรรมที่ตรงที่สุดนั้นจะต้องประกอบไปด้วย..อายุ ไออุ่น และจิต.. หากขาดประการใดประการหนึ่งไปแล้ว ..ชีวิตก็จะดำรงอยู่มิได้ พี่ดอกแก้วทราบว่า ทุกสรรพสิ่งล้วนเปลี่ยนแปลง ไม่ว่าจะเป็นสิ่งมีชีวิตหรือไม่มีชีวิต ซึ่งบางสิ่งนั้นเราเห็นการเปลี่ยนแปลงยาก แม้กระทั่งตัวเราเองที่ค่อยๆแก่ชราขึ้นเรื่อยๆ แต่ลมเป็นธรรมชาติใกล้ตัวอันหนึ่งที่ทำให้เราเห็นหรือรู้ถึงการเปลี่ยนแปลงได้ชัดและง่าย รวมทั้งสามารถนำมาใช้ทำกรรมฐานได้โดยไม่ต้องค้นหาหรือตระเตรียมพิธีการใดๆเลย ขอบคุณที่แวะมาอ่านค่ะ
25 พฤศจิกายน 2548 20:53 น. - comment id 541399
@...น้องนิ่ม... ลมยังคลอช่อดอกบอกรักอยู่ ลมคิดถึงยังคู่มิตรเสมอ ลมพัดพรากผ่านไปได้มาเจอ ลมหายใจไม่เก้อที่คอยรอ สวัสดีค่ะหนูนิ่ม.. ฝันร้ายขอให้กลายเป็นฝันดี สิ่งใดที่ไม่พึงปรารถนาก็ขอให้อย่าได้พานพบ และขอให้มีความสุขกับการใช้ชีวิตสวยงามที่เลือกแล้วนะคะ
25 พฤศจิกายน 2548 20:54 น. - comment id 541400
@...สลักเสลา... ทั้งหนักเบาเข้ามาในคราไหน อาจเจ็บผิวบาดใจในลมผลาญ แต่สายลมใช่อยู่อย่างยาวนาน เพียงชั่วกาลก็ผ่านพ้นไม่วนติง ลมที่เปลี่ยนเวียนไปไม่รู้จบ หากสงบสยบเคลื่อนเหมือนรู้ยิ่ง อยู่กับที่มีการดูที่รู้จริง ใจหยุดนิ่ง..แต่ไม่นิ่งในสิ่งดี สวัสดีค่ะสลกัเสลา.. หากเรียนรู้ลมได้เข้าใจ..ทุกข์คงน้อยลง และการเริ่มต้นใหม่ที่ดีก็คงมีมากขึ้นนะคะ ขอบคุณมากค่ะบทกลอนสั้นๆ ที่ให้ความหมายงดงามมาก
26 พฤศจิกายน 2548 00:24 น. - comment id 541443
.....ลมเอย เจ้าหอบรักมาให้ใคร จงพัดกลับไป เพราะดวงฤทัย ข้าไม่ต้องการ ข้าตรม.. เอ ร้องต่อไงหว่า ลืมๆๆๆ ฮี่ ฮี่ พี่ดอกแก้วค่ะ ช่วยร้องต่อด้วยซิคะ
26 พฤศจิกายน 2548 10:52 น. - comment id 541525
สวัสดีค่ะ...พี่ดอกแก้ว ความหมายกับสายลมที่พัดผ่านเข้ามาในชีวิต บางเรื่อง...ก็เพียงพัดผ่านไป บางเรื่อง...ก็ประทับอยู่ในความทรงจำ ทุกกรีดรอยลม...ที่กรีดลงรอยใจ ล้วนแล้วแต่เป็นประสบการณ์...เพื่อเก็บนำไว้สอนใจ อ่านบทนี้ของพี่แล้ว ก็เหมือนมีลมอ่อนๆ พัดมาให้เย็นใจเชียวค่ะ รักษาสุขภาพนะคะ
26 พฤศจิกายน 2548 12:02 น. - comment id 541548
สายลมเป็นปรัชญา... พัดผ่านมาแล้วผ่านไป ดั่งชีวิตและจิตใจ พัดผ่านไปแล้วผ่านมา... จิตมนุษย์มิเคยหยุดนิ่ง
26 พฤศจิกายน 2548 14:54 น. - comment id 541598
@...ฉางน้อย... เขาบอกให้อย่าเศร้าจนเฉานิ่ง ต้องไหวติงเหมือนลมพรมไม้ไหว เมื่อทุกข์ผ่านเข้ามาจนล้าใจ ค่อยให้ลมพัดไปไม่รับรัก มาร้องเพลงแล้วก้ร้องฮี่ๆๆด้วย..ทำนองอะไรนี่ฉางน้อย ขอบคุณน้องอารมณ์ดีที่แวะมาทักทายนะคะ
26 พฤศจิกายน 2548 15:09 น. - comment id 541599
@...น้องนาง เพรง.พเยีย... หลายสิ่งนั้นผันไปให้โทษคุณ อยู่ที่ทุนปัญญามาจัดสรร หากรู้ใช้มักได้คุณนันต์ หากไม่รู้เท่าทันโทษมากมาย สวัสดีค่ะน้องนาง.. เรื่องของคุณและโทษนั้น มักมีคู่อยู่ในหลายสิ่ง อยู่ที่ว่า เราจะเลือกหยิบสิ่งใดมาใช้..โดยเฉพาะการนำมาเป็นเครื่องปลอบใจในยามที่ประสบทุกข์ บางคนปล่อยให้ชีวิตที่มีค่านั้นหมดเวลาไปกับความฟุ้งซ่านและความท้อแท้ที่ไร้ค่า ..ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่น่าทำเลย ทั้งๆที่สามารถลุกขึ้นยืนได้ด้วยขาของตนเอง หากนำอดีตอันเป็นประสบการณ์นั้นกลับมาสอนตนเองได้ ..ก็นับว่าเป็นการระลึกถึงอดีตที่สร้างสรรค์ไม่น้อยเลยค่ะ ขอบคุณในความเห็นและการทักทายนะคะน้องนาง ขอให้มีความสุขมากๆค่ะ
26 พฤศจิกายน 2548 15:17 น. - comment id 541600
@...Maimao... สายลมนั้นผันสายให้เห็นชัด ไม้ระบัดเพราะลมพรมไม้ไหว ใจก็แกว่งเพราะอารมณ์กระทบใจ มิเคยไร้นิ่งรับกับเรื่องราว แต่เมื่อใดใฝ่ใจรับสิ่งบุญ จนเคยคุ้นกับจิตที่สืบสาว ก็จักนิ่งต่ออกุศลอันเหยียดยาว พ้นจากร้าวเพราะใจไม่รับมา สวัสดีค่ะMaimao .. กาพย์เพียงบทเดียว แต่อธิบายความหมายของวัฏฏะได้น่าสนใจมากเลยค่ะ ขอบคุณในการทักทายและบทกวีนะคะ
26 พฤศจิกายน 2548 16:30 น. - comment id 541605
ลมคำเดียว ทำให้พี่ดอกแก้ว เปลี๋ยนไป๋.. อิอิ แวะรับลม และชมกลอนครับ
27 พฤศจิกายน 2548 08:23 น. - comment id 541709
เย็นลมขายชื่นซึ้ง .............. เบิกบาน โอนอ่อนหวานใดปาน ........ เปรียบได้ พัดมาแค่มินาน ................. แล้วผ่าน คล้อยเอย อยากโอบกอดลมไว้ ........... ก็ไร้รูปรอย สวัสดีครับ พี่ดอกแก้ว
27 พฤศจิกายน 2548 10:07 น. - comment id 541726
แต่งกลอนเพราะจริงๆค่ะ ขอนับถือ มิทราบว่ามีหนังสือกลอนเป็นของตัวเองยังค่ะ อยากจะมีเก็บไว้อ่ะค่ะ
27 พฤศจิกายน 2548 20:46 น. - comment id 541900
@...ช.อร่าม... ถึงไม่มีลมพัดระบัดไหว พี่ก็ต้องเปลี่ยนไปแน่แท้หนอ ถึงไม่มีลมหนาวมาเคล้าคลอ พี่นี้ก็เปลี่ยนแปลงทุกเวลา ก็ชีวิต..จิต และรูปร่างกาย เปลี่ยนไปตลอดเวลาอยู่แล้ว จะให้พี่ดอกแก้วแน่นิ่งเที่ยงแท้อยู่เหนือกฎของพระไตรลักษณ์ได้อย่างไรล่ะคะ ขอบคุณมากนะคะ ช.อร่าม ที่แวะมาอ่านมาเขียน
27 พฤศจิกายน 2548 21:02 น. - comment id 541907
@...หนอนดุ๊กดิ๊ก... ลมไร้รูปร่างให้ รู้ลม จักบอบบางหนากลม เหลี่ยมตั้ง หรือเรียวเกี่ยวกริบคม ลมผ่าน แม้นมิรู้รูปรั้ง แต่รู้ลมมี สวัสดีค่ะหนอนดุ๊กดิ๊ก ... โดยส่วนตัวแล้ว ..ลมเป็นธรรมชาติที่ช่วยในการเหนี่ยวรั้งใจมิให้ด่วนปฏิเสธให่เหตุผลบางอย่าง ..ได้เป็นอย่างดีเลยค่ะ เช่น อย่าคิดว่า สิ่งที่เราไม่ได้เห็นด้วยตาของตนเอง จะไม่มีจริง ..เพราะลม เราก็ไม่เห็นได้ด้วยตา แต่สัมผัสได้ด้วยผิวกาย และเห็นความเปลี่ยนแปลงของธรรมชาติที่กระทบกับลมในความไหวเอน... ขอบคุณมากนะคะในหนึ่งบทที่มีค่ามากๆค่ะ
27 พฤศจิกายน 2548 21:07 น. - comment id 541911
@... ดวงดาวแห่งรัก ... สวัสดีค่ะ ดวงดาวแห่งรัก .. ขอบคุณมากนะคะที่แวะเข้ามาทักทายกัน และขอบคุณที่ให้กำลังใจด้วยค่ะ สำหรับวมบทกลอนของตัวเอง..ไม่มีหรอกค่ะ แต่มีหนังสือที่น้องๆทำให้เนื่องในโอกาสวันเกิด ที่รวมมาเป็นบางส่วนเฉพาะที่เกี่ยวกับธรรมะเท่านั้น.. หากต้องการจริงๆแล้ว กรุณาส่งชื่อและทีอยู่ไปที่ arpaka@hotmail.com นะคะ ขอบคุณที่ให้ความสนใจค่ะ
28 พฤศจิกายน 2548 09:32 น. - comment id 541994
พุดค่ะ บทนี้สุดยอดเยี่ยมสนอสัจจะธรรม สัจจะใจเฉกเช่นเดิมค่ะ พุดมาพลีใจบอกว่า คิดถึงและห่วงใยสุขภาพนะคะ รักษากายนะคะ ให้ได้เผยแพร่ธรรมทานไป ตราบนานนิรันดร์ค่ะ รักและรักค่ะ
28 พฤศจิกายน 2548 12:44 น. - comment id 542063
เป็นปรัชญา น่าคิดครับ
28 พฤศจิกายน 2548 16:05 น. - comment id 542125
@...น้องพุด... ลมยังมีเคลื่อนไหวในชีวิต อย่าปล่อยจิตให้ไร้การสร้างสรรค์ ชีวิตที่ล่วงไปทุกคืนวัน ใช้ชีพนั้นให้สมกับลมทรวง สวัสดีค่ะน้องพุด ขอบคุณมากค่ะน้องที่น่ารัก ทราบว่าที่ผ่านมาก็ไม่สบายเหมือนกัน ขอให้แข็งแรงขึ้นเร็วๆนะคะ ...
28 พฤศจิกายน 2548 16:07 น. - comment id 542127
@...ครูใหญ่โรงเรียนเล็ก... สวัสดีค่ะครูใหญ่ฯ.. ขอบคุณมากนะคะที่แวะเข้ามาอ่าน ขอให้มีความสุขกับการทำงานเพื่อเด็กๆนะคะ
28 พฤศจิกายน 2548 20:34 น. - comment id 542295
ขอโทษนะครับพี่ที่เมกมาช้า เพิ่งกลับจากต่างประเทศครับป๋ม มีของฝากด้วยนะ คิกๆๆ +-*-+-*-+ +-*-+-*-+ YoU dOn\'t knOw +-*-+-*-+ +-*-+-*-+
29 พฤศจิกายน 2548 09:22 น. - comment id 542416
@...น้องเมก... สวัสดีค่ะน้องเมก.. หายเหนื่อยจากการเดินทางหรือยังคะ จะรอรับของฝากจากน้องเมกนะคะ
10 ธันวาคม 2548 06:16 น. - comment id 545232
กราบ อ.พี่ดอกแก้ว...ผมแวะมาอ่านกลอนแล้วมักชักช่วนให้เพื่อนอ่านด้วยเสมอครับ ขออนุญาติแจมกลอนด้วยครับ มวลสายลม..ผสมพัด.. มวลเย็นจัด..กระจาย..แผ่ไอหนาว รู้สึกลม..ไหลเวียน..เพลิดเพลินสกาว บอกเรื่องราว..ชีวิต..ลิขิตด้วยลม