1. ฟ้าหลัวจริงหนาราตรีเหงา เดือนพอแลเงาในคืนหงาย ดาวหรุบราวเร้นเคยเห็นราย คืนนี้เปลี่ยวร้ายอารมณ์เรียม 2. หยิบขลุ่ยมาค่อยขึ้นเพลงคุ้น กลิ่นควันกรุ่นกรุ่นฟืนไม้เลี่ยม หอมตะไคร้ไล่ยุงยามไหม้เกรียม ฟังสิทุยข้าเตรียมเพลงของเรา ... โอ้..คืนเดือนฉาย ฟ้าพรายไม่พราวราวเก่า ปลายฝนทนอยู่ ไร้คู่กี่ปีฤาเฮา หนาวมาข้าเศร้า เงาเหงามันเร้ารุมใจ ... 3. ฟ้าหลัวจริงหนาคราสิ้นฝน มัวมนหม่นหมองแม้มองไหน แมลงแห่งค่ำคืนสะอื้นไกล เสียงตัดพ้อของเรไรเรียมได้ยิน 4. ขับขลุ่ยด้นเดาเอาเพลงใด จึงจะพอปลอบใจอันใครหมิ่น เถิดทุยแม้นว่าน้ำตาริน คงจะชินสักหนาวคลายร้าวล้า 5. ลาขลุ่ยลงคำลำนำหงอย คืนนี้ใครคอยใครคืนหา ก่อนดึกก่อนน้ำค้างพร่างหญ้าคา เพลงขลุ่ยของคนล้า ก็ลาลง ฯ
9 ตุลาคม 2548 21:56 น. - comment id 525399
สวัสดีครับมิตร บทนี้ผมเขียนหลังไปอ่านงานคุณพุดนะครับ ขอบคุณครับผม
10 ตุลาคม 2548 07:56 น. - comment id 525460
10 ตุลาคม 2548 08:07 น. - comment id 525466
ผมอยากเขียนงานเบาๆแบบนี้บ้างเหมือนกันครับ ร้อยกรองการเมืองบางทีผมเองก็ร้อนรุ่มใจเอง
10 ตุลาคม 2548 08:27 น. - comment id 525469
สวัสดีค่ะคุณก่อพงษ์ ลาขลุ่ยลงคำลำนำหงอย คืนนี้ใครคอยใครคืนหา ก่อนดึกก่อนน้ำค้างพร่างหญ้าคา เพลงขลุ่ยของคนล้า ก็ลาลง ชอบบทนี้จังค่ะ
10 ตุลาคม 2548 09:13 น. - comment id 525497
ปิดเทอมพี่พงษ์คงพอมีเวลาว่าง เห็นลงกลอนบ่อย ๆ ค่ะ มัทอ่านทุกบทที่พี่ลงนะคะ แต่เครื่องคอมที่บ้านไม่ค่อยดี บางครั้งลงกลอนยังไม่ได้เลยค่ะ เลยไม่ค่อยได้คอมเมนท์บทกลอนของเพื่อน ๆ คิดถึงพี่พงษ์เหมือนเดิมค่ะ
10 ตุลาคม 2548 09:50 น. - comment id 525503
คนเขียนกลอนการเมือง แล้วเขียนกลอนอารมณ์ได้ดีแบบนี้มีไม่มากนักอะครับ
10 ตุลาคม 2548 10:40 น. - comment id 525509
มาทักทายวันจันทร์ วันนี้ผมได้พักแต่ภรรยายังไปโรงเรียน ผมกะจะอ่านเขียนสักหน่อยก่อนจะออกไปทำงานขุดดิน ทักทายคุณเพียงพลิ้วก่อนนะครับ ผมมีภาพชนบท ความงามง่ายของวิถีชีวิตบ้านนอก เป็นต้นทุนทางอารมณ์อยู่เยอะครับ อาจจะเขียนไปได้อีกไม่น้อย รากเหง้าของคนเราควรเป็นสิ่งที่เราพูดถึงด้วยความเอมใจ หรืออย่างน้อยก็ไม่คับข้องขมขื่น ผมคิดอย่างนั้น ถ้าคุณเพียงพลิ้วชอบ ผมเขียนให้อ่านอีกครับ ----------------- ทักทายคุณมัท ผมคิดถึงคุณมัทเช่นกัน ผมได้พักตั้งแต่วันศุกร์นะครับ จะเปิดเรียนอีกทีก็ปลายตุลา ปีนี้ผมเขียนคำร้องขอย้ายกลับมาใกล้บ้าน ถ้าโชคดีเป็นไปได้ผมคงได้ทำอะไรที่ดีๆอีกเยอะแยะ รวมทั้งคุณภาพชีวิตและครอบครัวก็คงดีขึ้นมากด้วย ผมเขียนกลอนอยู่เรื่อยๆ แบบมักปลีกเวลามาเขียนเสมอ มันเป็นความสุขที่ประหยัดดีล่ะครับ ด้วยมิตรภาพครับคุณมัท --------------------- ทักทายคุณร้อยแปดพันเก้าด้วย อีกแนวหนึ่งที่ผมเคยทำ เป็นกลอนตลกนะครับ เขียนให้ลูกอ่าน เคยเอามาโพสต์ก็ได้รับการตอบรับอยู่บ้าง ขอบคุณครับผม
10 ตุลาคม 2548 11:09 น. - comment id 525520
เมื่อเช้า บนโซฟากว้าง มือถือรีโมท กำลังจะปิดทีวีอยู่เชียว เจอโฆษณาชิ้นหนึ่ง เล่นเอา ฮา.. อารมณ์ดีมาจนบัดนี้ เด็กชายคนหนึ่งไม่สวมเสื้อขี่หลังควายเข้าเมือง การจราจรติดขัด แต่พ่อหนูน้อยคนนี้ไม่สนใจ หนำซ้ำ ร้องเพลง .. . ฉันขี่ไอ้ทุยวิ่งลุยท้องนา ฉันคนบ้านป่าหน้าตาเหมือนโจร แต่งตัวก็เชยหนักหนา ดูหน้าดูตาก็มีแต่โคลน ต่อให้ตะโกน เธอก็ไม่มา ในฉาก คนที่อยู่ในเส้นทางนั้น ต่างออกมาร้องรำทำเพลงกันสนุกนาน ปรี๊ดดดดดดดดด เสียนกหวีดจราจรดัง ตำรวจจราจรเดินดิ่งมาหาพ่อหนูคนนั้น .. สลด ครับ สลด ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น ญ ช ที่กำลังเถิดเทิง หน้าสลดแท้ ตำรวจคนนั้น มาหยุดตรงหน้าหนูน้อย แล้วบอกว่า \" ท่อนต่อไป พี่ขอร้องเอง ...\" ฮาจังค่ะ เธอขี่รถเก๋ง ร้องเพลงฝรั่ง .. ชะ ชะ ช้า ชะ
10 ตุลาคม 2548 11:20 น. - comment id 525525
ผมไม่ได้ดูทีวีเลย แต่ภาพที่คุณอัลมิตราเล่าก็ชัดมาก ได้ขำด้วย และคงพอทำให้งานขุดดินอีกหลายชั่วโมงข้างหน้าเพลิดเพลินดี สวัสดีครับ
10 ตุลาคม 2548 12:39 น. - comment id 525563
เขียนพรรณนาได้เห็นภาพชัดเจน จนประทับใจบทนี้มากค่ะ .
10 ตุลาคม 2548 13:08 น. - comment id 525581
หวัดดีตอนบ่ายครับผม..พึ่งกลับจากเชียงรายเมื่อวานก็เลยไม่ได้ทักทายหลายวัน...อากาศเริ่มเย็นแล้วรักษาสุขภาพนะครับผม...
10 ตุลาคม 2548 14:07 น. - comment id 525606
เห็นบรรยากาศบ้านทุ่งจริงๆเลย ได้ทั้งภาพและอารมณ์ในบทกลอน ชื่นชมค่ะ
10 ตุลาคม 2548 20:48 น. - comment id 525660
เป่าขลุ่ยคืนค่ำนี้ ............... เหงาใจ ครวญคร่ำวังเวงไพร ........ แผ่วสะท้อน คิดถึงแต่นางใน ............... กลางจิต แสนห่างไกลเยียบย้อน ..... อกข้าเย็นหนาว สวัสดีครับ
10 ตุลาคม 2548 21:16 น. - comment id 525673
เป่าขลุ่ยคืนค่ำนี้ ............... เหงาใจ ครวญคร่ำวังเวงไพร ........ แผ่วสะท้อน คิดถึงแต่นางใน ............... กลางจิต แสนห่างไกลเยียบย้อน ..... อกข้าเย็นหนาว ห้วงหาวดาวบ่แจ้ง................ใจหาย คืนก่อนดาวแจ่มฉาย.........ก่องฟ้า แพรวดาวดั่งนัยน์หมาย...พิศอิ่ม ทรวงนอ เพลงขลุ่ยเรียมอ่อนล้า..ยิ่งคว้างทรวงขม สวัสดีครับ
10 ตุลาคม 2548 16:30 น. - comment id 525704
มาขอบคุณคุณเพรง.พเยีย คุณบินเดี่ยวหมื่นลี้ และคุณชลกานต์ครับ ส่งความปรารถนาดีมาถึงคุณด้วยเช่นกันนะครับ
11 ตุลาคม 2548 14:34 น. - comment id 525958
อ่านแล้วก็จินตนการตามไปด้วย ได้บรรยากาศท้องทุ่งและถิ่นไกล.. บทดสุดท้านขอบมากค่ะ...
11 ตุลาคม 2548 19:54 น. - comment id 526094
สวัสดีพี่ดอกแก้วครับ ขอบคุณอย่างยิ่งครับผม
12 ตุลาคม 2548 22:56 น. - comment id 526238
ชอบเปล่าขลุ่ยครับสมัยเป็นนักเรียน เป่าเพลงเดือนเพ็ญได้บรรยากาศดีมากครับ สมัยนี้ถ้าเอาขลุ่ยมาให้เป่าอีก ไม่ทราบว่าจะเป่าดังหรือไม่ก็ไม่รู้
12 ตุลาคม 2548 23:29 น. - comment id 526576
เสียงขลุ่ยให้ความรู้สึกจริงใจและลูกทุ่งดีครับ หวูด ให้ความรู้สึกโหยเศร้า แต่ผมชอบแคนมากกว่า เล่นได้หลายลีลา เศร้า ก็ได้ สนุกก็ได้ ถ้าให้เลือก ผมอยากเล่นเปียโน แต่แหมมันแพงจัง งั้นเอาคีย์บอร์ดก็คงพอได้ ตัวละพันเองครับ ดนตรีทำให้จิตของผมอยู่ในอารมณ์เดียวได้ สวัสดีคุณชัยชนะครับผม