http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song503.html (ให้) ........... พลีลั่นทมรัดร้อยแทนสร้อยรัก ศรัทธาภักดิ์ยังคงอยู่ตราบคู่ฟ้า คืนและวันผันผ่านเนิ่นนานมา ใจเหว่ว้ายังดายเดียวเปลี่ยวระทม... เพียงซบหน้าในอ้อมกอดแล้วร้องไห้ ได้ชิดใกล้ได้กลิ่นแก้มไม้แซมผม ได้ดอมดมพรมจูบลืมตรอมตรม ได้กลิ่นผมกลิ่นเกศเกล้าเจ้าจอมใจ กี่ปีเดือนเลื่อนลอยหลงคอยขวัญ แสงตะวันส่องหล้าเยือนฟ้าใหม่ น้ำผึ้งหวานยังหยาดสายร่ายมนต์ใจ หากทำไมใจดวงร้าวยังหนาวนัก พลีเทียนหอมหลอมละลายหมายสร้างฝัน ท่ามคืนวันอย่าท้อพ้อที่รัก เศร้าล้ำลึกนึกเหนือโลกย์โศกประจักษ์ คือทุกข์รักให้หยุดรู้ดูมายา ท่ามแสงเทียนเสียงฝนภวังค์ฝัน ในเงียบงันนิ่งงามยามโหยหา ไม่มีเราไม่มีเขากาลเวลา แค่ผ่านมาผ่านไป..ไยระทม หลับตานิ่งทิ้งใจไปกับฝน วางกมลกระจ่างให้ว่างห่ม คือดวงใจใสงามวางทุกข์ตรม ไม่ระทมไม่สุขเศร้าดับหนาวใจ คือความจริงสิ่งไม่มีที่รายรอบ แค่ประกอบกรรมวิบากฝากหวั่นไหว ราวสายลมพัดแผ่วจางร่างหายไป ลมหายใจเพียงนิดน้อยชรอยบุญ ให้..หัวใจให้ความดีพลีแด่โลก การอยโศกใจเจ้าคลายหนาวอุ่น ให้น้ำใจใสพร่างน้ำค้างคุณ ฝากหอมกรุ่นดั่งดวงดอกไม้ดับไร้รอ... ................. ใกล้ค่ำ......... จุดตะเกียงเพียงแสงเดียว ล้อเรียวจำปีเขียวใสใบระบัด วิบวับ วูบไหว กลางกระท่อมใบไม้... กังหัน..เหนือชายคาหมุนวน ตามแรงลม... แต่..ใจคนที่นอนเฝ้าดูกลับนิ่งงันเงียบงาม.. โมบาย..กระทบกันกรุ๋งกริ๋ง..ๆ หรีดหริ่ง จิ้งหรีด พากันกรีดปีกร้องระงม.. เสี้ยวจันทร์แรม.. ราวเคียวสีทองส่องทอทอดลอดริ้วเรียวไผ่ โผล้พ้นกลีบเมฆ เหนือทิวไม้ตะคุ่ม.. ดาวดวงละออ ทอแสงแข่งกันพริบพรายฟ้า.. มนต์จันทรา..พาให้นวลใจ..นุ่มเนียนนึกลึกล้ำ..... ใช้กิ่งไม้แทนตะเกียบ..คีบก๋วยเตี๋ยวในชามกะลา อาหารค่ำง่ายๆ ใต้แสงตะเกียงเพียงลำพัง... ท้องอิ่ม.. หลับตานิ่งๆ ทิ้งหน้าที่ ทิ้งสรรพสิ่ง สรรพเสียงไว้ภายนอก..ร่าง...ใจ มิไหวรับรู้ จิตจับ กับความว่างเปล่า เบาสบาย คล้ายสายลมบางเบา พัดร่างให้ลอยละลิ่ว..ปลิวคว้าง.. เหนือโลกย์..เหนือโศกสุข ของทุกข์ผู้คน และ.. บางครั้งครา ราวกับว่า ได้ถอยจิต ทอดร่าง ไปวางไว้บนฟองคลื่น เหนือริ้วทะเลสีคราม น้ำใสใส.. ปลดปล่อยดวงใจ... ปล่อยผมสยาย แผ่พลิ้วพราย คล้ายสาหร่ายงามละเลื่อม กับร่างไร้น้ำหนัก ที่มีเพียงรักจากผืนฟ้า คลุมร่าง พร่างพรมด้วยลมรำเพย โลมไล้แผ่วเบาละเมียดละไม เหนือนับ..กับ นาน..นี้..ที่ใจ..เพียรพยายาม ...ใฝ่หางามภายในใส่ตัว แม้นานนับชั่วกับป์กัลป์ มิถึงไหน หวังเพียงขณะ ที่นวลใจพบนิ่งงันนั้น พลันพอเพียง ได้ปิติ ดื่มด่ำ กับความว่างเปล่า เบาสบาย ไม่ว่าใจดวงนี้ จะผ่านดี ผ่านร้าย ผ่านร่ำ ผ่านรวย ผ่านสวย ผ่านงาม ผ่านหวาน ผ่านสุข ผ่านทุกข์ ผ่านโศก ผ่านโลก..ที่โชคชะตาเลือกหยิบยื่นให้.. ก็ใช่จะนานนักหนอ กับชีวีนี้ที่..รอวันโบกมือลา ..มิช้านาน..มิยาวยืน แล้วอะไรกันเล่า จะช่วยเราได้ เท่าจิตวิญญาณ ที่จะตามติดให้งาม กับเนื้อนวลใจเราทุกผู้ ทุกภพ ทุกชาติไป..... ใช่ไหมเล่าทุกเจ้ายอดดวงใจ ในเรือนใจเรือนไทยในร่มรัก ผู้พร้อมเต็มไปด้วยน้ำใจ เนื้อใจงามละม่อม พร้อมพลี..ที่จักหวังได้ครองจิตวิญญาณแห่งงามนั้น ขอเพียงโอบเอื้อฝัน ปันอ้อมอุ่น กรุ่นกลิ่นรักสามัคคี ด้วยความงาม ด้วยความดี ที่ล้ำค่านี้แด่กันและกันทั้งฉันเธอ นะดวงใจ! ................ http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song503.html ให้ ...สวลี ผกาพันธ์ หญิงมีสิ่งที่หวงห่วงใย สิ่งนั้นก็คือหัวใจ เปี่ยมในรักมั่น หัวใจใช่จะมีไว้แบ่งปัน ถ้าใจไม่รักผูกพัน จะปันใจรักอย่างไร ฉันจึงไม่อาจขายสิ่งหวง ถ้ารักยอมพลีทั้งปวง มอบของหวงให้ ฉันจึงต้องยอม กระเทาะเปลือกใจ มอบสิ่งที่หวงให้ไป แต่ไม่ยอมขายแลกเงิน ให้ทองนั้นกองท่วมฟ้า อย่ามาล่วงล้ำกล้ำเกิน แม้ทองมากมาย ใจฉันเมิน แม้เงินท่วมโลก หรือจะโยกจิตคลอน หัวใจซื่อ ใครซื้อไม่ขาย ไม่รักจึงต้องหวงกาย เก็บใจไว้ก่อน แม้ปลงหทัย ในรักแน่นอน อาจให้โดยมิต้องวอน อย่าทำใจร้อนวู่วาม ดนตรี ให้ทองนั้นกองท่วมฟ้า อย่ามาล่วงล้ำกล้ำเกิน แม้ทองมากมาย ใจฉันเมิน แม้เงินท่วมโลก หรือจะโยกจิตคลอน หัวใจซื่อ ใครซื้อไม่ขาย ไม่รักจึงต้องหวงกาย เก็บใจไว้ก่อน แม้ปลงหทัย ในรักแน่นอน อาจให้โดยมิต้องวอน อย่าทำใจร้อนวู่วาม...
4 ตุลาคม 2548 16:53 น. - comment id 522846
ยามค่ำคืนยาวนานที่ผ่านพ้น มีสุขล้นไว้จดจำความฉ่ำหวาน แม้ไกลห่างสุดฟ้าลาชั่วกาล เป็นวันวานที่พานพบมิลบเลือน มาชื่นชมงานงามและฟังบทเพลงอันไพเราะค่ะ........
4 ตุลาคม 2548 17:10 น. - comment id 522851
อาจมีค่าเพียงหยดน้ำ สักวันจะกลายเป็นฝน พรมลงในใจของเธอ อยากขอให้เธอรักฉัน เพราะฉันให้เธอ ให้เธอหมดใจ เพิ่งจะรู้ความจริง รักเธอมันมีความหมายว่าไม่ให้ วันนี้อยากร้องไห้ เวลาพูดถึงคำว่าให้ นึกถึงเพลงนี้เสมอคะ มาร่วมซึบซับถ้ยคำดีดีของพี่พุดนะคะ คิดถึงเสมอคะ
4 ตุลาคม 2548 17:36 น. - comment id 522861
กี่ปีเดือนเลื่อนลอยหลงคอยขวัญ ผ่านคืนวันอย่างไรใจห่วงหา ไม่เคยลืมคนดีที่มีมา และยังคงหวังว่าจะพบเจอ กลอนแต่งได้ดีค่ะ
4 ตุลาคม 2548 20:11 น. - comment id 522917
งานนี้จะให้ หรือไห้ กันแน่ครับ แวะมาทักคนเขียนงานงาม ผู้มีอารมณ์อันสุนทรีย์
4 ตุลาคม 2548 20:40 น. - comment id 522936
หุหุ พร้อและยาวอย่างรุนแรงค่ะ แหะๆ นู๋ป่านกลับมาพร้อมความิดถึง หายไปนานแสนนาน ฝากเนื้อฝากตัวด้วยน้าค้า ปายเยี่ยมนู๋ป่านมั่งหละ อิอิ จุ๊บๆ
5 ตุลาคม 2548 08:26 น. - comment id 523125
^J^ ชนชาติที่ใจดีที่สุดในโลก...น่าจะเป็นคนญี่ปุ่น ...เอะอะอะไร...ก็ \"ให้\" ตลอด
5 ตุลาคม 2548 12:46 น. - comment id 523345
ผู้ที่มีคำว่า..ให้..ในจิตใจ..เป็นบุคคลที่น่ายกย่องค่ะ....ชื่นชมพี่พุดนะคะ...