::ก่อนรุ่ง::

ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์


   อากาศเริ่มหนาวนะ
   หน้าหนาวนี้จะ  หนาวมากไหม
   ปีนี้ไม่ได้ทำนา
   มีบ่อเลี้ยงปลา  ปลาก็ไป
   ปลาไปกับดอมเรย
   พายุใหม่แม่เอ๋ย  ยังมีไหม
   ก่อตัวยั่วให้แหยง
   มาซิมาฆ่าแกง  กันรอบใหม่
   นาล่มเหลือโคลนเหลว
   มองเห็นราวกับเหว  กลางห้วงใจ
   ไก่ขันแต่ตีสาม
   ไก่หยันด้วยความ   ชวนร้องไห้
   ปีก่อนมีอันกิน
    ปีนี้ท้องถิ่น   แทบสิ้นใจ
    เฮ้อ...
        				
comments powered by Disqus
  • สีหมอก

    2 ตุลาคม 2548 06:40 น. - comment id 492574

    41.gif
    
    ยังมีกลอนเพราะๆ เหมือนเดิมมาให้ชื่นชมเสมอเลยค่ะ  คิดว่าปีนี้อากาศน่าจะหนาวนะคะ 1.gif
  • ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์

    2 ตุลาคม 2548 06:50 น. - comment id 492576

    สวัสดีครับคุณสีหมอก
    อากาศหนาวก็ดีเหมือนกันจะได้นั่งล้อมวงผิงไฟ เผาปลากินกะข้าวเหนียว  
    
    ปี2543 เป็นปีที่ผมรู้สึกหนาวจับจิตจับใจ
    ปีนั้นผมเดินทางไปสอนนักเรียนที่อำเภอวานรนิวาส  บ้านพักครูหลังเล็กๆ  ความจริงเป็นบ้านพักภารโรงที่เขาอนุญาตให้ผมใช้แทน  กันลมหนาวไม่ได้เลย   ผมต้องลงมาก่อไฟผิงข้างล่าง ข้างสวนกล้วย   ช่วงนั้นจะกลับบ้านทีก็ต้องขี่รถเครื่องฝ่าความเงียบเยียบหนาวมา 300 กว่ากิโล  ไก้กลับบ้านเฉพาะวันศุกร์
    
       ตอนนี้ผมมาอยู่ใกล้บ้านหน่อยแต่ก็เทียวไปสอนนักเรียนไปกลับวันละ 114 กิโลทุกวัน
    
       ถ้าผมได้ทำงานใกล้บ้านคงได้ทำอะไรหลายๆอย่างที่ทำแล้วมีความสุข
    
       หลายหนผมอิจฉาครูใหญ่โรงเรียนเล็ก(คนเขียนกลอนเพราะมากคนหนึ่ง)ที่ได้ทำในสิ่งที่ผมเรียกว่าเป็นอุดมคติของผม
    
      คุณสีหมอกสบายดีนะครับ
  • ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์

    2 ตุลาคม 2548 06:25 น. - comment id 492597

    ผมติดลีลากลอนหัวเดียว   หรือกลอนที่ลงเสียงเดียวตลอดในวรรคคู่มาตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้
    
    อาจเป็นเพราะว่าตอนเป็นเฟรชชี่ใน มข.
    รุ่นพี่ในชมรมศิลปะการแสดงเล่นเพลงฉ่อยให้ดูแล้วเกิดความประทับใจ
    
    ก็ประทับใจขนาดทำให้ผมเองได้ขึ้นเวทีสโมสรนักศึกษาเล่นดนตรีกับพรรคพวกต่างคณะอยู่หลายหน
    
    หนหนึ่งที่จำได้ดีคือตอนที่
    คุณจรัล มโนเพ็ชร ไปเป็นกรรมการตัดสินประกวดโฟล์คซอง
    ตอนนั้นพรรคพวกของผมจับดนตรีพื้นบ้านหลายชิ้นขึ้นมาเล่นเพลงพระราชนิพนธ์ชะตาชีวิต   คนฟังเงียบกริบเลยครับ
    เครื่องดนตรีที่เล่นคราวนั้นมี แคน  พิณ  สะล้อ  เม้าท์ออร์แกน  กีตาร์  คุณจรัลยัง(ชม)ว่าทำได้ยังไง
    
        ชมรมศิลปะการแสดงใน มข. ตอนที่ผมเป็นเฟรชชี่นั้นก็อยู่ใกล้ๆเวทีสโมสรนักศึกษานั่นเอง   ด้วยเหตุนั้นผมจึงได้เห็นพี่เขาซ้อมและเล่นบ่อยๆ  
    
       กลอนหัวเดียวก็อาจจะติดมาตั้งแต่ตอนนั้น
    
    ผมชอบจังหวะโยกและโยนของกลอนหัวเดียวเอามากๆเลยครับ
  • ธรรมาภิวัฏ

    2 ตุลาคม 2548 08:18 น. - comment id 521983

    ดอมเรยมันคือ..
    หรือเป็นคำเขมร แล้วแปลว่า..
    คือไม่ทราบจริงครับ59.gif
  • ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์

    2 ตุลาคม 2548 08:45 น. - comment id 521987

    ผมจำมาจากที่คุณม้าก้านกล้วยโพสต์ไว้
    ว่า
    ดอมเรย=ช้างพัง
    เป็นภาษาเขมร
    
    ขอบคุณครับคุณธรรมาภิวัฏ
  • ครูใหญ่

    2 ตุลาคม 2548 09:50 น. - comment id 522002

    แหะ แหะ  อาจอิจฉามากยิ่งขึ้นเพราะว่าปีนี้ข้าวงามน้ำดี (ทางบ้านครูใหญ่) เอาปลาแดกมาแลกข้าวเด้อ พรุ่งนี้ถิ่นทางนี้จะมีบุญข้าวสากใหญ่ (สารท) คือเขาทำบุญสารทสองหน
    ครั้งแรกเพ็งเดือนสิบ  ครั้งหลังดับเดือนสิบ
    ครั้งหลังจะเป็นบุญใหญ่  เซ่นสรวงบรรพบุรุษแสดงถึงความอุดมสมบูรณ์ของพืชพรรณธัญญา  ตอนเด็ก ๆ ถ้าถึงวันนี้ กินข้าวต้ม ขนม ข้าวเม่า  ปิ้งไก่  ปิ้งปลา ปิ้งกบ จนพุงกาง  
    
    รำพันไป ก่อนหันหน้าไปคว้างานเอกสาร (ขยะทางราชการ) มาทำแบบฝืน ๆ 
    
    สบายดีมีสุข  ปิดเทอมคงได้พัก
  • -ร้อยแปดพันเก้า-

    2 ตุลาคม 2548 10:36 น. - comment id 522013

    สวัสดีครับ คุณก่อพงษ์
    
    วันนี้มาสายไปหน่อย เพิ่งจะว่างเดี๋ยวนี้เอง
    กลอนของคุณ อ่านแล้ว รู้สึกดีน่ะครับ คิดแบบนั้นจริงๆ
    เพิ่งทราบว่าเป็นศิษย์เก่ามอขอ มอดินแดง อาจจะเป็นรุ่นพี่ของ กุ๊ดจี่ พรชัย แสนยะมูลนะครับ 
    ไม่ทราบว่า คุณก่อพงษ์เคยมาที่มอชอหรือเปล่า เวลามีงานประเพณี มอชอ-มอขอ กิจกรรมก็หลากหลาย แต่สมัยนั้นถ้าคุณได้ฟังเพลง \'\'กำเมือง\"โดยคุณ สุนทรีย์ เวชานนท์ กับ เพชรน้ำดีแห่งล้านนาอย่างคุณจรัล มโนเพ็ชร เป็นวงสะล้อ ซอ ซึง และมีการขับลื้อ คิดว่าคุณก่อพงษ์น่าจะชอบ เพราะผมเองก็ประทับใจจนกระทั่งวันนี้
    
     ดีใจครับที่รู้จักคุณขึ้นมาอีกระดับหนึ่ง1.gif
  • ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์

    2 ตุลาคม 2548 11:23 น. - comment id 522024

    สวัสดีครับครูใหญ่
    
    หลังน้ำลดจากดอมเรย ผมวางข่ายดักปลา
    ได้ทำปลาร้าแล้วหลายไห
    เย็นๆลูกๆช่วยแกะปลาออกจากข่าย ก็เพลินไปอีกแบบ  ก็ดีกว่าไม่ได้อะไรซะเลย
    ถ้ามีโอกาสจะเอาปลาแดกมาแลกข้าวครับ
    
    --------------
    
        ทักทายคุณร้อยแปดพันเก้าครับ
    คุณกุ๊ดจี่ เรียนมนุษยศาสตร์ฯ มข. มั้งครับ
    ผมเคยลงทะเบียนบางวิชาของคณะมนุษยศาสตร์ เช่น วรรณกรรมปัจจุบัน  วัฒนธรรมอีสาน , การเขียนภาษาไทย , ภาษาอังกฤษ , ปัญหาสังคม , เศรษฐศาตร์ , กฎหมายเบื้องต้น เป็นต้น  อาจเคยเรียนกับคุณกุ๊ดจี่ด้วย ก็ไม่แน่ใจ   แต่ไม่เป็นไรครับ 
        ผมอ่านงานของคุณกุ๊ดจี่บ่อยครับ  ชอบอารมณ์ขันของเขามากเอาการอยู่  
    
        ผมเคยไปร่วมงานประเพณี มข.-มช. อยู่หนหนึ่งด้วยแหละครับ  ได้ขึ้นเวทีแสดงดนตรีพื้นบ้านอีสานด้วย   แต่จำพ.ศ.ไม่ได้  ช่วงนั้นผมไปคลุกคลีอยู่กับพรรคพวกชมรมศิลปวัฒนธรรมอีสาน  ได้ช่วยเขาตีกลองทอมมั้งครับบนเวทีการแสดง
        ผมประทับใจ มช. ตรงภูมิทัศน์นะครับ น่าอยู่มาก
        
        แต่ว่าช่วงวัยเด็ก ครูของผมก็เคยพาเข้าไปใน มช. ครับ   แฟนของท่านเรียนอยู่ที่นั่น ญาติพี่น้องทางภาคอีสานของผมมาอยู่เชียงใหม่ก็เยอะครับ  แต่ไม่ได้ไปมาหาสู่กันแล้วเพราะต่างคนต่างก็ลำบาก
    
        ช่วงที่อยู่ชมรมศิลปวัฒนธรรมอีสาน มข. ซึ่งก็อยู่ติดกับชมรมชาวเหนือ  ผมได้ยินพรรคพวกต่างชมรมขับเพลงทางเหนือ  เล่นกลองสบัดชัย  รำดาบ เล่นสะล้อซอซึง  พิณเพี๊ยะ บ่อยเหมือนกันครับ  ทั้งเพื่อนในชมรมชาวเหนือบางคนก็ได้คบหาเล่นดนตรีด้วยกันก็หลายครั้ง  ยังจำภาพเหล่านี้ได้ดีอยู่ครับ
    
       ผมเคยพูดกับลูกๆว่า  เอาไว้ลูกๆโต มีหน้าที่การงานทำ  เราจะอพยพมาอยู่เชียงใหม่  ทำไร่สตรอเบอรี่กัน  เป็นความฝันของผมกับลูกๆ  เพื่อให้ชีวิตเพลิดเพลินน่ะครับ
    
       ยินดีมากครับที่ได้รู้จักและพูดคุยกัน
  • ชลกานต์

    2 ตุลาคม 2548 11:46 น. - comment id 522028

    11.gif  
    แวะมาอ่าน (แบบร้องๆ) กลอนของคุณก่อพงษ์ค่ะ  เดี๋ยวนี้ดินฟ้าอากาศมันก็ปรวนแปรมากเหลือเกิน แล้งก็แล้งจัด น้ำก็น้ำล้นทะลัก ต้องทำใจหน่อยนะคะ ห้ามดินฟ้าอากาศมันห้ามไม่ได้จริงๆค่ะ 
    
    55.gif
  • ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์

    2 ตุลาคม 2548 12:02 น. - comment id 522029

    ขอบคุณครับคุณชลกานต์
  • อาภาภัส

    2 ตุลาคม 2548 12:19 น. - comment id 522032

    งานงามเสมอและจริงใจ
    ชื่นชมมากค่ะ
  • ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์

    2 ตุลาคม 2548 12:31 น. - comment id 522034

    ทักทายคุณอาภาภัสครับ
    
    ไม่ได้คุยกันนานแต่ยังรำลึกถึงอยู่เสมอครับผม
  • ธรรม ทัพบูรพา

    2 ตุลาคม 2548 13:06 น. - comment id 522059

    "มีบ่อเลี้ยงปลา  ปลาก็ไป
    
       ปลาไปกับดอมเรย\"
    
    ตรงนี้ทั้งน่าสงสาร ทั้งน่าเห็นใจเลยพี่เพีย..ฮา
    เขียนได้ยังไงครับอารมณ์นี้ ผมชอบมากเลย
    36.gif
  • นางสาวใบไม้

    2 ตุลาคม 2548 13:30 น. - comment id 522074

    หลังฝนซาฟ้าย่อมใส
    
    เป็นกำลังใจให้คุณกับครอบครัว
    
    พบกับสิ่งดีๆต่อไปนะคะ36.gif
  • อัลมิตรา

    2 ตุลาคม 2548 14:38 น. - comment id 522082

    แค่อ่านคอมเม้นท์ก็คุ้มแล้วค่ะ หนำซ้ำได้กลอนจั่วหัวกระทู้เป็นกลอนหัวเดียว เอาน่า คุณก่อพงษ์ ถึงกลอนจะหัวเดียว แต่เราพวกเดียวกันหลายหัว หลายหัวใจ รับรู้ความรู้สึกได้นะ ..
    
    จุ๊ ๆ ๆ อพยพไปเชียงใหม่ล่ะ ขายที่สกลให้อัลมิตราละกัน ..
  • เพรง.พเยีย

    2 ตุลาคม 2548 19:36 น. - comment id 522139

    อ่านแล้วถอดใจตามเลยค่ะ  
    เป็นกฎกติกาอย่างหนึ่งที่ต้องยอมรับ
    สำหรับคนที่ต้องพึ่งพาธรรมชาติเป็นหลักในการทำกินหรือเปล่าคะ
    
    ท่าปีที่แล้วแล้งจัด  ปีนี้ธรรมชาติเลยให้ฝนมาเสียเต็มเขื่อนเลยค่ะ
    เมื่อครู่เห็นข่าวพายุหลงหวาพัดถล่มไต้หวัน
    กำลังลุ้นว่าทางไทยจะโดนมากน้อยแค่ไหน
    
    อีกไม่นาน  ก็จะเข้าหน้าหนาวแล้ว  
    เคยได้ยินผู้ใหญ่ว่าไว้ว่า  ปีไหนน้ำมาก  จะหนาวจัด
    ไม่รู้จริงหรือเปล่านะคะ  
    
    ติดตามอ่านงานคุณก่อพงษ์เสมอค่ะ
    .
  • ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์

    2 ตุลาคม 2548 21:31 น. - comment id 522170

    แวะมาตอนค่ำครับ
    
    กินข้าวเย็นกันหรือยังครับนี่
    ผมเพิ่งกินข้าวคนเดียวกะห่อหมกปลาช่อนใบยอ
    
    ที่ว่ากินคนเดียว นั่นเพราะมากินช้า  งานในคอกวัวของผมเพิ่งเสร็จครับ
     ลูกเมียจึงพากันกินข้าวเย็นล่วงหน้าไปก่อน
    
      
       .... ปีนี้ไม่ได้ทำนา
    
       มีบ่อเลี้ยงปลา  ปลาก็ไป
    
       ปลาไปกับดอมเรย
    
       พายุใหม่แม่เอ๋ย  ยังมีไหม
    
       ก่อตัวยั่วให้แหยง
    
       มาซิมาฆ่าแกง  กันรอบใหม่
    
       ....
    
        ตรงนี้ผมเอาความจริงมาล้อเล่นครับธรรม
        เอาความโศกมาทำให้สุข
        จะได้ไม่เศร้าเพราะมันอยู่ข้างเดียว
    
        ก็เหมือนที่เราเอาเรื่องราวเกี่ยวกับความรักที่ไม่สมหวังในวัยหนุ่มของเรามาเขียนนิยายในวัยกลางคน เพื่อแจกในวัยไม้ใกล้ฝั่ง(ฮา)  มันเป็นของมีค่าทั้งนั้น แม้มันจะทำให้เราเจ็บเจียนขาดใจ(อะไรจะปานนั้น)
    
        เขียนเรื่องความรักแล้วได้ฮาดีครับธรรม
    
    ---------------------
    
        ขอบคุณครับคุณนางสาวใบไม้
        คงได้พูดคุยกันอีกในวันต่อๆไปนะครับ
    
    ---------------------
    
        ขอบคุณครับคุณอัลมิตรา สำหรับแรงใจและความเห็นอกเห็นใจที่มีต่อกัน
    
        ผมเพิ่งขายที่ดินของตัวเองเพื่อออกรถมาขี่ไปทำงานครับ  ทีดินของผมไม่เหลือแล้ว  ตอนนี้ผมอาศัยอยู่บนที่ดินของภรรยาและลูก  วันหนึ่งข้างหน้าถ้าภรรยาบอกว่า คุณจงออกไปจากชีวิตของฉันเสียเถิด  ผมก็คงต้องไปแบบคนจร  แต่ถ้าเขาไม่พูดอะไรแบบนั้น ผมก็คงไม่ไป   จะไปได้ยังไงเล่าครับลูกก็น่ารัก  ภรรยาก็แสนดี  ผมรักเธอมาก 
     
        ดังนั้นผมจึงไม่มีที่ดินที่สกลนครจะขายให้คุณอัลมิตราแล้วครับ-ฮา
    
        แต่พูดก็พูดเถอะ  เชียงใหม่อาจไม่เหมาะกับผม  เอ๊ยผมอาจไม่เหมาะกับเชียงใหม่  เพราะผมเกลียดความหนาวเย็น  ผมชอบความอบอุ่นถึงร้อน   เวลาหนาวนี่ผมหนาวจนเนื้อตัวสั่น เหมือนเด็กขาดความอบอุ่น   แต่ถ้าร้อนผมยังโดดน้ำตูม ขึ้นมาทาแป้งเย็น มันสบายกว่ากันเยอะ    แต่ว่า  ถึงที่สุดแล้วถ้าผมไปอยู่เชียงใหม่จริง ก็คงต้องปรับตัว เช่นเปลี่ยนบุคลิกจากนุ่งเตี่ยวไปสวมสูทเพื่อให้อุ่นขึ้นอะไรแบบนั้น  -   ท่าทางจะตลกมากกว่าดูดีนะครับ-แฮ
    
         พูดคุยกันเล่นๆครับคุณอัลมิตรา  แล้วคุยกันอีกครับ
    
    -------------
    
       ทักทายคุณเพรง.พเยียด้วยครับ
    
        ผมเองก็เคยได้ยินแบบที่คุณว่านะครับ
        ผมเริ่มหาเสื้อกันหนาวมือสองมาซักตากเก็บไว้แล้วครับ   ถึงหนาวก็คงไม่ทารุณเกินไป
    
        ขอบคุณครับที่เข้ามาทักทายกัน
    
        ผมไม่ได้อ่านงานของคุณเพรง.พเยียนานแล้วใช่ไหมครับ
  • บินเดี่ยวหมื่นลี้

    3 ตุลาคม 2548 15:55 น. - comment id 522449

    ก่อนรุ่งหน้าหนาว..หมอกขาวจะพร่างคลุมเหนือบ่อปลา...อากาศดีมากเลยที่บ้านสวน..ช่วงดอมเรยเข้าโทรเช็คตลอดเพราะกลัวว่ามันจะหอบปลาออกบ่อไปเหมือนกัน..หน้าหนาวหากมีโอกาสก็มาเที่ยวบ้างก็ได้นะคุณก่อพงษ์...อาทิตย์นี้ก็จะกลับไปบ้านสวนแล้วจะได้สัมผัสบรรยากาศดีดีอีกครั้ง...
    
    ***แวะมาโม้นิดๆไม่ว่ากันนะครับผม
    31.gif
  • ม้าก้านกล้วย

    3 ตุลาคม 2548 16:44 น. - comment id 522478

    ผมก็ชอบ กลอนหัวเดียว เช่นกันครับ
  • ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์

    3 ตุลาคม 2548 17:05 น. - comment id 522486

    สวัสดีครับคุณบินเดี่ยวหมื่นลี้ วันข้างหน้าถ้ามีโอกาสคงได้มาเยี่ยมคุณบินเดี่ยวหมื่นลี้ครับ
    ขอบคุณล่วงหน้าไว้เลยนะครับ
    
    ----------------
    
    และทักทายคุณม้าก้านกล้วยครับ
    ผมเขียนกลอนหัวเดียวบ่อยมากๆเลย
    แต่งานแบบหัวเดียวนี่ดูเหมือนคนอื่นๆ
    โดยเฉพาะบรรณาธิการจะไม่นิยมเอาเลย
    เขาทิ้งของผมลงแม่น้ำไปก็เยอะ
    แต่ไม่เสียดายหรอกครับ
    เขาทิ้งก็เขียนเอาใหม่
    คงมีซักวันที่จะมีบรรณาธิการที่ชอบและคนอื่นๆก็ชอบ
    
    แต่ว่ายังไงก็ตามผมก็ไม่ได้นั่งรอคอยวันนั้น
    ผมมีความสุขกับการเขียนและอ่านอยู่ทุกวัน
    โดยเฉพาะเมื่อเข้ามาในนี้
    ไทยโพเอ็ม นี่แหละครับสนุกนัก
    
    มิตรเยอะ

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน