เราต่างคนแตกต่างในบางสิ่ง ต้องพึ่งพิงสังคมปมพื้นฐาน เคารพกฎกติกาพอประมาณ พร้อมเจือจานน้ำใจแลกไมตรี เราจึงไม่แตกแยกแม้แตกต่าง ไม่แบ่งข้าง,เชื้อชาติ,ศาสน์,ศักดิ์,สี แม้คนชั่วยังปะปนกับคนดี แผ่นดินนี้ก็เคยเห็นความเป็นธรรม ใต้ร่มโพธิสมภารศานติสุข ได้เปลื้องทุกข์ทุกรอยบาททรงยาตรย่ำ เศรษฐกิจพอเพียงแยบเยี่ยงนำ กสิกรรมสืบสานวิญญาณไทย น้ำมีปลานามีข้าวเลี้ยงชาวบ้าน เติมรากฐานความรู้พออยู่ได้ มิกลาดเกลื่อนเงื่อนงำโกยกำไร อัชฌาสัยทำนองพี่น้องกัน ทุนนิยมเข้าย่ำยีทีละน้อย สอนให้คอยแก่งแย่งอ้างแข่งขัน เงินซื้อได้ทุกอย่างสร้างโทษทัณฑ์ พาคืนวันหวาดผวามาคลี่คลุม จนพร้อมจะแตกแยกถ้าแตกต่าง แฝงเล่ห์สร้างเงื่อนไขเชื้อไฟสุม จากแผ่นดินสงบสุขกลับทุกข์รุม น้ำตาชุ่มเลือดโชกเพลงโศกครวญ
24 กันยายน 2548 00:46 น. - comment id 517917
หนึ่งความรู้แบ่งปันช่วยสรรค์สร้าง เป็นแนวทางนักกลอนหน้าอ่อนใหม่ เขาเหล่านั้นเห็นคุณค่าภาษาไทย รักษาไว้เพื่อลูกหลานสืบสานกัน เดี๋ยวนี้ยังมีคนคิดอย่างนี้หรืออีกเปล่า? สวัสดีครับ คุณ เวทย์
24 กันยายน 2548 00:55 น. - comment id 517920
มอมแมมกลับบ้านค่ะ วันนี้ .. โดนเพื่อนแกล้ง .. ฟ้องๆๆๆ
23 กันยายน 2548 19:30 น. - comment id 518384
นั่นนะสิครับลุง ถ้าวิถีไทยเป็นเยี่ยงอดีต ความวุ่นวายในปัจจุบันอาจจะไม่เกิดขึ้น
23 กันยายน 2548 19:40 น. - comment id 518387
โห้ย! .. แบบกี้เรนมัวคิดกลอน เรนก็เลยไม่ทันคอมเม้นต์ก่อนพี่ดอย.... ก็แบบเรนตั้งใจคอมเม้นต์เป็นคนแรกด้วยดิคะ .. เรนกราบสวยๆ คุณลุงเวทย์นะคะ เรนจะมาอีกครั้งนะคะ..พร้อมบทกลอนที่เป็นของเรน .. ..
23 กันยายน 2548 22:28 น. - comment id 518432
เราต่างคนต่างจิตคิดสำนึก บ้างรู้สึกบ้างรู้สาน่าฉงน บ้างชั่วช้าบ้างดีมีปะปน แล้วแต่คนเลือกเดินดำเนินไป ทุกอย่างล้วนมีตัวแปร สุดแท้แต่ว่าจะแปรไปทางใดใช่ไหมคะ สวัสดีค่ะลุงเวทย์
24 กันยายน 2548 08:41 น. - comment id 518463
24 กันยายน 2548 09:08 น. - comment id 518469
พี่น่ะ บอกจะมาแล้วไม่มา แอบมาแต่งกลอนเสียดสีสังคมอยู่นี่เอง เครียดค่ะพี่ อ่านแล้วเครียด อยากอ่านอะไรเบา ๆ แบบนุ่น หรือสำลีน่ะค่ะ
24 กันยายน 2548 09:53 น. - comment id 518480
ลุง...บินมาอ่าน..ผ่านมาดูความผันแปรนะครับผม...
24 กันยายน 2548 10:32 น. - comment id 518487
...สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม... ว้า....มาช้าไปอ่ะ... แฮปปี้เบิร์ธเดย์ย้อนหลังนะคะ
24 กันยายน 2548 10:40 น. - comment id 518491
24 กันยายน 2548 13:19 น. - comment id 518539
24 กันยายน 2548 14:56 น. - comment id 518580
ความผันแปร ความแตกต่าง ความเปลี่ยนแปลง เกิดขึ้นในสังคมเสมอ ถ้ารู้จักให้กันบ้าง ก็คงไม่เกิดปัญหาคาใจกันอย่างนี้
24 กันยายน 2548 16:03 น. - comment id 518612
มาเยี่ยมลุงเวทย์ค่ะ..สบายดีมั้ยคะ...
24 กันยายน 2548 23:07 น. - comment id 518726
25 กันยายน 2548 08:30 น. - comment id 518819
"ชาวประชาชาตินี้มีที่น่าสังเกตตรงอัธยาศัยอันอ่อนโยนและมีมนุษยธรรม ในพระนครซึ่งมีพลเมืองค่อนข้างคับคั่ง ไม่ค่อยปรากฏว่ามีการทะเลาะวิวาทกันอย่างรุนแรง ส่วนฆาตกรรมนั้นเห็นกันว่าเป็นกรณีพิเศษมากทีเดียว บางทีตลอดทั้งปีไม่มีการฆ่ากันตายเลย\" นี้คือลักษณะนิสัยของคนไทยในสายตาของสังฆราชปาลเลกัวซ์เมื่อ 150 ปีที่แล้ว สังฆราชหรือบิชอปท่านนี้ยังตั้งข้อสังเกตอีกด้วยว่า คนไทยไม่ได้มีเมตตากรุณาต่อมนุษย์ด้วยกันเท่านั้น หากยังเผื่อแผ่ไปยังสัตว์เดรัจฉานด้วยไม่เว้นแม้แต่มดหรือยุง มีคราวหนึ่งท่านสั่งให้คนสวนฆ่าแมงป่องหรืองูที่พบขณะขุดดิน แต่เขากลับปฏิเสธ และพร้อมจะลาออกจากงาน โดยให้เหตุผลว่า \"ผมไม่อยากได้ชื่อว่าปาณาติบาตเพราะค่าจ้างขี้ปะติ๋วเท่านั้นหรอกครับ\" เมื่อคาร์ล ซิมเมอร์แมน มาสำรวจสภาพเศรษฐกิจไทยในสมัยรัชกาลที่ 7 ลักษณะนิสัยของคนไทยที่เขาพบปะแทบไม่ต่างจากที่สังฆราชปาลเลกัวซ์พรรณนาเลย กล่าวคือ \"พลเมืองของประเทศสยามมีนิสัยใจคอดี...และความประพฤติชั่วร้ายต่างๆ ซึ่งอนารยชนชอบประพฤติกัน ไม่ปรากฏในหมู่คนไทยเลย\" ความประพฤติชั่วร้ายที่เขากล่าวถึงนั้นรวมถึงการขายเด็กและการทิ้งเด็กด้วย คำพรรณนาดังกล่าวนับว่าขัดแย้งอย่างมากกับภาพของคนไทยในวันนี้ โดยเฉพาะตามเมืองใหญ่ การฆาตกรรมมิใช่เป็นแค่เรื่องธรรมดา หากยังเป็นของโอชะที่ผู้คนสนใจใฝ่รู้กันทั้งบ้านทั้งเมือง จนสื่อมวลชนต้องแย่งกันนำมาเสนออย่างพิสดาร ในขณะที่การข่มขืน การข่มเหงคะเนงร้าย การค้ามนุษย์ และการวิวาทบาดหมางเกิดขึ้นไปทั่ว ความรุนแรงกำลังกลายเป็นวิถีชีวิตของคนไทยไปแล้ว มันไม่เพียงปรากฏออกมาเป็นพฤติกรรมที่กระทำต่อกันเท่านั้น หากยังซึมลึกลงไปถึงทัศนคติและวิธีคิดของผู้คน ก่อให้เกิดความรู้สึกโกรธเกลียดหรือเป็นปฏิปักษ์ต่อกัน คนไทยทุกวันนี้โกรธเกลียดกันง่าย เราไม่ได้โกรธเกลียดกันเพียงเพราะผลประโยชน์ขัดกันเท่านั้น หากยังเกลียดชังกันเพียงเพราะคิดต่างกัน ที่น่าสังเกตก็คือ บ่อยครั้งเราใช้ \"ความเป็นไทย\" ในการทำร้ายกัน
25 กันยายน 2548 11:12 น. - comment id 518849
หนีมาแต่งกลอนอยู่นี่เองเหรอคะ
25 กันยายน 2548 13:31 น. - comment id 518879
ความขัดแย้งของระบบคุณค่าอันนั้น.. เรนว่านั้นคือตัวปัญหา.. และเรนคิดว่าพบได้ในทุกสังคมด้วยดิคะ.. ก็ เพราะ..เหตุที่มนุษย์ต้องตกอยู่ในวงล้อม ของวัฒนธรรม.. บริโภคนิยม .. มนุษย์แข่งขันกัน เพื่อให้ได้ตำแหน่งสูงๆ และได้เงินทองมากๆ เพียงเพื่อการสะสมและเป็นการสะสม..ที่ไร้จุดยืนที่ไม่ถูกต้อง ..ด้วยดิคะ.. ก็สิ่งที่บริโภคนั้น มิได้เป็นประโยชน์.. แต่หากยังเป็นโทษต่อตัวเอง สังคม .. และก็มิใช่สิ่งที่จำเป็น ต่อการ ..มีชีวิตอยู่ในโลกที่สุขสงบ.. ของการอยู่ร่วม .. และเรนคิดว่า ..เด็กๆที่เต็บโตในสังคมที่รุนแรง.. ก็คงไม่พ้นวังวน ที่ได้รับ.. เรนว่า..การปฎิบัติต่อกันระหว่างผู้ใหญ่.. ก็จะส่งผลถึงความคิดของเด็กๆด้วยแน่นอน .. และเรนก็เชื่อแบบนั้นด้วยดิคะ .. ก็แค่เรนอยากให้โรงเรียน ..เห็นความสำคัญต่อการร่วมมือกัน..มากกว่าการแข่งขันกัน.. นะดิคะ.. สร้างความรู้สึกช่วยเหลือ และเกื้อกูล ร่วมมือกัน .. มากกว่าการแข่งขันที่ถูกเพาะบ่มด้วยความเห็นแก่ตัว ..มุ่งเอาชนะแค่เพียงความคิดที่แตกต่าง.. จากเด็กสู่ความเป็นผู้ใหญ่ที่ดี .. แบบเป็นเพียงข้อเขียนที่เรนแค่อยากหัดเขียนเอง.. แป๊ปเดี๋ยว .. เรนจะเขียนกลอนแบบนั้นให้ได้ นะคะ .. เรนขอบคุณ ..ลุงเวทย์นะคะที่จุดประกายให้เรนอยากเขียนบทกวีที่สื่อถึงชีวิต.. และความเป็นปรัชญาที่เรนจะต้องเรียนรู้.. .. ... เรนแอบเข้าไปอ่านทุกงานที่มีคุณค่าของลุงเวทย์..และเรนก็แอบปริ้นเก็บไว้ตั้งเยอะ.. ในกระเป๋าของเรน .. มีบทกวีที่เรนชอบ..