ฟากฟ้ากว้างยังเห็นเป็นสีฟ้า แสงทาบทาทอทองคล้องใจฝัน บันไดเมฆ ... เสกไว้ให้ใครกัน ฤๅอาจดั้นสู่แดนสรวงแห่งห้วงใจ [บทแรกนี้ได้จาก คุณฟ้า สหายของแดดเช้า] ใครจับเมฆเสกหลั่นเป็นชั้นฟ้า ราวลาดทางสู่ดาราดวงจันทร์ใส ทองแห่งแสดแดดอุ่นทอถักไว้ คมสะท้อนฟ้าไกลเมฆเลื่อมทอง บันไดเมฆ เสกไว้ให้ใครกัน สู่ตะวัน สู่จันทร์งาม สู่ดาวส่อง สู่ฟ้ากว้างอย่างใจคิดจิตมุ่งปอง วาดแดนคล้องลมเสกเอกภพ ทางสู่ฝัน สู่จันทร์เจ้า สู่ดาวสวย ใครจะช่วยเป็นแรงใจให้บรรจบ ทอดแสงแห่งสายตะวันอันทาบทบ หากใจหลบไม่เดินไปไยถึงนั้น ฟากฟ้ากว้างยังเห็นเป็นสีฟ้า แสงทาบทาทอทองคล้องใจฝัน บันไดเมฆ ... เช้านี้ที่ผูกพัน ทอดสู่ห้วงใจฉันทั้งวันคืน.
21 กันยายน 2548 17:26 น. - comment id 517476
อ้า..เลิกงานแล้วมาอ่านกลอนสดใสๆแบบนี้ก็ดีไม่น้อยเลยค่า วันนี้อยากออนคุยด้วยอะ แต่เนตที่เครื่องแอนมีปัญหา ไม่สามารถเข้าได้เลยอ่า ต้องมาแอบใช้เนตออฟฟิส คิดถึงนะคะพี่สาวคนเก่ง
21 กันยายน 2548 21:04 น. - comment id 517533
บันดาลใจในอักษรกลอนกล่าว ที่เล่าความนัยของใจฝัน สุขทุกข์คละเคล้าชีวิตแต่ละวัน เสกสรรค์ปั้นเขียนเป็นงานนัย บันไดเมฆเสกจากบันไดฝัน สายตะวันเป็นแรงแสนละไม ทาบทาทดทองคล้องใจ สายใยบันไดเมฆจากแรงบันดาลใจ
21 กันยายน 2548 21:25 น. - comment id 517543
อยากพักร้อนนอนหนาวบนราวฟ้า ขี่เมฆาเกี่ยวรุ้งบนคุ้งสรวง เอื้อมเด็ดดอกดาริการะย้ายวง วางในห้วงแห่งใจที่ไหวเอน ซบจันทราต่างหมอนหนุนนอนฝัน แก้มแนบจันทร์นวลเจ้าหยอกเย้าเล่น ปล่อยโลกลอยละล่องไปไร้กฎเกณฑ์ ปลดหลักการหลีกเร้นเรื่องหลอกลวง มหรรณพจบสายสมุทรสิ้น จะเริงรินรื่นระลอกให้ใหญ่หลวง แล้วหยอกเอินแก่งเกาะออเซาะทรวง สดับท่วงทีท่าชลาลัย เพียงดื่มด่ำอมฤตสฤษฏ์รุ่ง ประดับปรุงปรัศนาอัชฌาสัย พักโลกร้อนนอนหนาวผะผ่าวไป มิวาดหวังสิ่งใดในชีวี
21 กันยายน 2548 22:34 น. - comment id 517596
งานสวยและหวาน..
แวะมาเยี่ยมและบอกว่า ..ไม่อยู่หลายวันนะคะ ขอฝากความคิดถึงไว้ตรงนี้ด้วย
22 กันยายน 2548 09:03 น. - comment id 517728
บทกลอนอ่อนหวานจังนะคะ ชอบบทนี้จังค่ะ บันไดเมฆ เสกไว้ให้ใครกัน สู่ตะวัน สู่จันทร์งาม สู่ดาวส่อง สู่ฟ้ากว้างอย่างใจคิดจิตมุ่งปอง วาดแดนคล้องลมเสกเอกภพ
24 กันยายน 2548 14:40 น. - comment id 518572
ทำให้เห็นเมฆเป็นบันไดจริงๆด้วยนะคะ แล้วก็อยากร้องเพลง \"เก็บตะวัน\" อิอิ