กาลครั้งหนึ่งไม่นานนัก ตำนานรักแห่งฟ้าฝัน หมายโยงสายสัมพันธ์ เชื่อมใจมั่นกับจันทรา เคลิ้มพิศทะนุถนอม คุ้มโอบอ้อมเฝ้ารักษา หวังให้จันทร์พร่างตา เห็นคุณค่ารักฟ้าคืน หม่นมัวสลัวลาง ฟ้ายังพร่างมั่นหยัดยืน รักจันทร์แทบกินกลืน แม้หมองขื่นยังชื่นใจ จันทรจรลาลับ ฟ้าสดับเสียงอ่อนไหว กลั่นน้ำค้างพร่างไพร เป็นน้ำตาลาจันทร์งาม ตะวันทาบแนวส่อง ฟ้ายังหมองคล้องคำถาม ใช่ไหมแสงจันทร์วาม คอยติดตามฟากฟ้านี้ แดดส่องสาดสว่าง ฟ้าเวิ้งว้างด้วยแสดสี ใช่ไหมจันทร์ทอพลี แสงนวลจันทร์ ณ ขอบฟ้า ฟ้าหวังจันทร์กลับคืน หวังใจชื่นล้างผวา แดดทองส่องสาดมา ฟ้าหมายตาเป็นดวงจันทร์ รำพันถึงจันทร์ดวง แดดโชติช่วงยังสาดฝัน หลงรักปักชีวัน ลืมเบิกตามองความจริง ตะวันผันผ่านยิ้ม ส่องแสงพริ้มเพื่อพักผิง ฟ้าซาบซ่านอาบอิง แน่ตะวันใช่จันทรา ลืมตากล้ารับโลก คลายหม่นโศกทุกข์โถมถลา ผ่อนเบาเศร้าจางตา เริ่มก้าวกล้าสู่ฟ้าทอง ไม่จมจ่อมกับจันทร์ โลกยังผันพลิกหม่นหมอง กระจ่างพร่างครรลอง อย่าร่ำร้องอดีตคืน มอบแรงใจให้ฟ้า ขอให้กล้าลุกแข็งขืน อย่าช้ำอย่ากล้ำกลืน สิ่งอื่นอื่นยังมากมี อย่าจมปลักรักเพียงจันทร์ โลกสร้างสรรค์สดสวยสี ดอกไม้ใสกรุ่นมี ระบายใจให้ฟากฟ้า บางวาร ... ผ่านฝนหล่น โปรยน้ำมนต์มากล้นค่า รุ้งทอทาบตรึงตรา เย็นชื่นใจด้วยสายลม ฟากฟ้าแจ่มแสงโลก อย่าติดโศกขลุกขื่นขม สลัวหม่นพ้นตรอมตรม ฟ้าใหม่สางสว่างใจ กาลครั้งหนึ่งไม่นานนัก ฟ้ายังรักดวงจันทร์ใส แม้จันทร์ผันจากไป ตะวันฉายส่องสิ่งจริง คลายหลงวงเวียนทุกข์ แดดแจ่มปลุกเชิญอาบผิง ลมหายใจได้พักพิง เพียงฟ้าแกร่งอย่างเคยมา.
20 กันยายน 2548 20:57 น. - comment id 517060
กาลครั้งหนึ่งซึ่งใจในความรัก จันทร์ประดับในใจให้ใหลหลง จันทร์ทอแสงวาบวามน่าชื่นชม ในกมลของจันทร์ใครครอบครอง ตัวฉันเพียงแค่กระต่ายที่หมายจันทร์ ในความฝันมีจันทร์เป็นเจ้าของ ในความจริงมิใช่ดั่งใฝ่ปอง ขอจองหมายจันทร์นั้นข้างเดียว
20 กันยายน 2548 21:54 น. - comment id 517110
ณ กาลครั้งหนึ่งซึ่งนานนัก ฟ้าอยากทักแดดทอรอแสงฉาย คิดว่าเป็นจันทราดาราราย แท้กลับกลายเป็นตะวันอันร้อนแรง ฟ้าที่เคยมืดมัวสลัวนัก แดดส่องทักเป็นสุริยันพลันฉายแสง อาบอบอุ่นกรุ่นกลิ่นใจได้ชี้แจง ฟ้าจึงแจ้งด้วยแสงทองของสุริยา ในบางคราแดดส่องเมฆเสกสายรุ้ง ใจจึงมุ่งปรุงดวงจิตคิดใฝ่หา คลายคลุ้มคลั่งฝังดวงใจในจันทรา ท่องเมฆา..จึงลอยล่อง..เลิกปองใจจันทร์ ไม่รู้ว่าเป็นนิทานเรื่องเดียวกันรึเปล่า...
21 กันยายน 2548 00:09 น. - comment id 517183
รักเอยเลยลับล่วง สิ้นแสงดวงตะวันฉาย เพ้อพร่ำน้ำตาฟาย จันทร์คืนใจให้ฉันที
21 กันยายน 2548 09:13 น. - comment id 517223
สวัสดีค่ะ คุณแดดเช้า อ่านแล้วทำไห้ มะกรูดคิดถึงตอนที่.... มะกรูดอายุ 15-16 จะชอบมองฟ้าตอนกลางคืน จะยืนอยู่ริมสนามบอลแล้วมองพระจันทร์... จะมีดาวดวงน้อยอยู่ดวงนึ่ง ซึ่งมะกรูดไม่รู้จักหรอกค่ะ แต่... มะกรูดจะชอบคิดว่าตัวเองเป็นดาวดวงนั้นและเขาคนนั้นก็เป็นพระจันทร์.... ซึ่งจะมาใกล้กันมากๆ ในช่วงหน้าหนาว...
21 กันยายน 2548 09:19 น. - comment id 517229
สวัสดียามเช้าค่ะพี่สาวคนเก่ง น้องเป็นคนที่ชอบความงามของราตรีมากๆเลยนะคะ กลอนนี้เพราะจังเลยค่ะ แม้ว่าในแง่มุมหนึ่งของราตรีนั้นจะมืดมน แต่ในความมืดมนนั้นแฝงความสวยงามไว้อย่างมากมายนะคะ
21 กันยายน 2548 12:45 น. - comment id 517340
แวะมาอ่านนิทานฟากฟ้าค่ะ
21 กันยายน 2548 14:22 น. - comment id 517405
จันทราเอ๋ยพี่เคยรักดั่งฟากฟ้า ถูกเมฆามาทำลายจากในฝัน ตวัดช่วงล้วงลึกเข้าผูกพัน ทิ้งตัวฉีนคลุกเคล้าเฝ้าโลมดิน. แก้วประเสริฐ.
21 กันยายน 2548 14:48 น. - comment id 517415
ขวานฟ้ามาเป็นเข่ง แจกแบบเร่งเพื่อค้นหา ดวงใจในจันทรา ตะวันมาตราแกร่งแดง คลอดแคลดแฝดญี่ปุ่น นักลงทุนเข้มสายแสง วกลงตรงแจกแจง ฟ้ามาแกล้งป่วนนิทาน แดดเช้าช่างอบร่ำ ด้วยน้ำคำสร้างสืบสาน เด็กเล็กฝันถึงกาล งานตำนานม่านเมืองสรวง
21 กันยายน 2548 15:40 น. - comment id 517443
มาให้กำลังใจ
24 กันยายน 2548 14:37 น. - comment id 518570
นั่นแน่ะ คุณจิตรนัยมาให้กำลังใจแล้วนะพี่แดด ป่านนี้เจ้าตัวคงหน้าบานแล้ว คิคิ ป.ล. ตาจาแฉะเพราะกลอนบทนี้นะเจ๊