http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song18.html(แสนแสบ) http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song203.html(แสบทรวง) เช้าใหม่อีกคราแล้ว สาวนายังนอนหนาวกับสายฝนพร่างลำพัง ในกระท่อมไพร ที่ได้ยินเสียงฝนครางฟ้าครวญทีไร ใจสาวนาก็แสนเงียบงามสงบสุขเสียเหลือเกิน และ....ระยะนี้ สาวนาฝันซ้ำๆ ถึงทะเลสาบสีเงินอันแสนเงียบเรียบเย็นบ่อยครั้ง ราวกับพลังจิตสาวนา รอท่าจะไปสัมผัสสายน้ำใส แล้วแหวกว่ายอย่างสบายอกสบายใจ ในท่ามกลางความร้างไร้ ที่สาวนาโหยหามาตลอดชีวิต และ... หากเนรมิตรได้ดั่งฝัน สาวนาอยากให้ผู้คนบนผืนโลกนี้นั้น อยู่กันแบบพึ่งพาพึ่งพิงอิงธรรมชาติสวย อยู่แบบไม่เดียดฉันท์กันและกัน และ.. ยังคงใช้วิถีชีวิตเรียบง่ายสงบงามแบบโบราณๆ ที่รู้สึกไม่เหน็ดเหนื่อยมากมาย กับการวิ่งตามกระแสโลกย์ ที่ดิ้นรนเติมโศกมากกว่าสุขจากทุกทุกข์วัตถุ จนใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างมิบันยะบันยัง จนโลกใกล้จะพังใกล้จะล่มสลายแล้ว ทั้งป่าหมด น้ำท่วม แผ่นดินไหว ภัยจากคลื่นยักษ์ ทั้งน้ำจืด น้ำมัน ที่ณ..วันนี้ใกล้จะถึงเวลาหมดบ่อ รอเวลาแห้งเหือดแล้ว ชีวิตสาวนา ผู้เกิดมากับแสงตะเกียงกับแสงเทียน วัวควายไร่นา คงไม่ทุกข์ท้อเพราะพอปรับตัวได้ แต่.. น่าห่วงใยหนุ่มสาวไทยรุ่นใหม่ ที่จักทำใจ...ละความสบายได้ละหรือ เมื่อชีวิตเกิดมาแล้วหลงยึดถือความสะดวกสบาย ไม่เคยได้สัมผัสกับความยากลำบาก ในวิถีนาไร่ ใช้ชีวิตติดดินแบบพอเพียงเพียงพอ ที่เงินทองแทบไม่จำเป็นต้องมี ขอมีเพียงแผ่นดิน...ที่ทำกินจากทรัพย์แสนอุดม ที่จะพลิกฟื้นให้มิตรอมตรมเลี้ยงชีวินได้ตราบวันตาย หากตราบใดยังมีแรงกายแรงใจที่จะไม่ยอมแพ้... และ... ที่แสนดีคือได้ชิดใกล้ใช้ชีวีกับธรรมชาติอันแสนสะอาดสงบ ได้พบกับอากาศบริสุทธิ์ใส ฟ้าที่ไร้เมฆหมอกมลพิษใดใด มิปลิดชีวิตให้ตายแบบผ่อนส่ง ยังคงมีอาหาร..พืชผักสวนครัว ผักริมรั้วไม้ไผ่ ที่ปลูกเอง ไร้สารเคมีตกค้าง มีไม้สล้างใช้เป็นค้าง ให้ผักได้เลื้อยพันไต่ตามทอดยอดแห่งความฝันชูไสว ใบเขียวอวบงาม อย่างตำลึงริมรั้ว ฤาค้างถั่วฟักยาว เถาน้ำเต้าแตงไทย มีสระใหญ่กว้างไว้เลี้ยงปลา พร้อมปลูกบัวสะพรั่งไว้กรายกลิ่นเกสรอันแสนจรุงใจ มีเรือนไทยหลังเล็กในพุ่มไผ่ ไหวรับระบัดแดดลมพรมพร่างให้เสียงซู่ซ่า ซัดส่าย คล้ายเสียงดนตรีธรรมชาติ มีสายน้ำลำคลองเล็กๆใสสะอาดไหลพาดผ่าน มีเรือมาดไว้รอพายพาไปตามคุ้งโค้งแลโล่งละลิบ เพื่อไปเก็บสายบัว ไปนอนดูฟ้าสลัวยามย่ำค่ำ ที่แสนงามล้ำมลังเมลือง ด้วยแสงสีจรัสแจรงราวรุ้งแรงแฉกพราย ไปฟังสายน้ำไหลระรินๆมิสิ้นสาย ดูมวลหมู่ภมรร่ายระบำเริงร่า ดูฟ้ายามโพล้เพล้ ฟังเสียงเห่กล่อมจากเรไรร่ำจิ้งหรีดร้อง จั๊กจั่นประลองเสียงกันระงม รอน้ำค้างพรายพรม ให้หนาวใจ...หากทำไมแสนสุขล้ำดำดื่ม ดูหิ่งห้อยนับร้อยพันพริบพราว ราวดาวดวงดาระดาด ที่นัดกันมาประดับหล้าจากฟากฟ้าแสนไกล ฟังเสียงสายธาราทองไหลล่องปองรักริมฝั่ง ฝัน กระซิบพร่ำรำพันรัก ดูฝูงปลากระโดดโผงทั้งลำประโดงฮับเหยื่อ เหนือโพงพางกลางท้องน้ำทุ่งลานเท ดูเหว่ว้าของดอกผักบุ้งม่วงละมุนริมคลอง ที่แสนหวานละไมนะภายในจิตวิญญาณ ดูพระพายเรือช้าช้ามารอรับบิณฑบาตร จากท่าน้ำในยามอรุณรุ่ง ที่ทั้งโค้งคุ้งน้ำยังเคลียไคล้ ด้วยสายหมอกหยอกสายน้ำปลุกให้ตื่น มาฉ่ำชื่นระรื่นระริน ดูควันไฟลอยอ้อยอิ่งอวลเหนือยอดไม้ ใกล้ชายคากระท่อม ดูละอองหยาดน้ำค้างกลางใบบัว ที่ราวเพชรกลมกลิ้งกรายกลับวะวับแวม ดูวะวาววับของสายแสงพระอาทิตย์ ยามทอดจับเรียวรวงสีทองผ่องพราย คล้ายดั่งรวงเพชรเกล็ดแก้ว...ผ่องพรรณ ดูใบตองในร่องสวนราวสไบนางฟ้า น่าฝัน แล้ว ตัดมารองข้าวในขันขาวหอม..โรยด้วยดวงดอกมะลิพราวนวล ชวนกันไปใส่บาตร... หวังอธิษฐานจิตให้มีชีวาชีวิตสว่างสงบพบทางแห่งพระนิพพาน อันคือความว่าง ความงาม ความดีที่พลีพอดั่งรอสุขนิรันดร์... ........................ และ ทั้งหมดทั้งสิ้นนั้น คือ...ทุกสิ่งอัน ที่สาวนา..กำลังวาดวงให้ทุกดวงชีวี หันมามีชีวีรักความเรียบง่าย รู้ใช้ชีวิตติดดิน ที่สาวนานี้กำลังถวิลจะทำ..*เรือนสเตย์* ให้... ผู้คนที่รักความดายเดียวเหว่ว้า รักความงามง่าย ได้มาชิดใกล้ในวิถี ในไม่ช้านานนี้ ที่ฝันคงเป็นจริง เรือน...ที่จะมีกลิ่นควันไฟจากฟืนใหม่ปะทุ มีกลิ่น..ข้าวหอมๆมาปลุกในยามเช้า มีสายลมหนาวพัดพร่างนวลละอองเกสรดอกไม้ไทยรายรอบ มาพร่างพรม ให้อวลอารมณ์เอิบงามในทุกอรุณแจ่ม เรือนที่จะมีลีลาวดีมาแต้มลีลา มาโอบกอดปรารถนาปลอบประโลมริมหมอน ให้ดวงใจทุกดวงอรชรอันแสนอ่อนไหว ได้รับอ่อนหวาน ปานประหนึ่งมีเรียวรุ้งมาประดับรับงามในทุกยามลืมตาตื่น อย่างชื่นฉ่ำใจ..อย่างหาใดจะเทียมทาน มีบัวผันบัวเผื่อนบัวหลากสีตระการ...มาชูช่อพ้อในคลอคลองตา ยามค่อยๆลืมตาผ่านม่านหน้าต่างลายลูกไม้ลายนกยูงรำแพน มีเสียงเพลงมนต์รักลูกทุ่ง ให้สะเทือนมุ้งสะท้อนใจมิให้สิ้นไร้ไฟฝัน... ที่จะปันพลี...สิ่งแสนดีแสนงาม... ฝากประดับหล้าพสุธาทองพสุธาธรรม มีมาลัยมะลิลา มาวางไว้ในพานทอง ทุกเช้าค่ำหน้าพระพักตร์พุทธ ให้จุดเทียนทองไสวพลีบูชาสวดมนต์ทำวัตรเช้าเย็น มีหมอนขวานให้นอนนิ่งราวหญิงโบราณ หวานด้วยดวงใจอิ่มงามเอิบงามในท่ามดงลำดวน ริมชานเรือนไว้ทอดทัศนาดูฟ้าพริบพราว ด้วยดาวเดือนในราตรีนับพันสุกพร่างสว่างไสว...ใกล้แสนใกล้ มีเถาไม้เลื้อยรสสุคนธ์ คละปนสายน้ำผึ้ง ตรึงตรา มาพาพร่างกลิ่นให้มิสิ้นรสสิ้นรัก ได้ทายทักได้พักพิงใจ..ไปตราบนาน.... และ... ทั้งหมดนี่... คือความงามงด ที่เราเนรมิตร..มารินรดหยาดหวาน ให้ตระการใจในแวดวงฝันให้เป็นดั่งสวรรค์จริงได้..สวรรค์บนดินได้ หากทุกดวงใจยังถวิลมิวาย..อยากชิดใกล้ ได้อาศัยฝากกายใจ...ไว้ภายใต้เงื้อมเงาแห่งอดีต ที่ มีเพียงเราคนรุ่นใหม่....จักสืบทอดไป หากยังมีหัวใจ...ยังรัก...ยังเข้าใจ...ในวิถีไพร..วิถีไทย..วิถีธรรม...วิถีทอง อันคือครรลองแห่งความงามเย็นเป็นนิรันดร์... ในหอมห้วงแห่งดวงใจ มิสิ้นฝัน ฝันฝัน..ตราบใดที่ยังมีอุทัยโลกหมุน..!!! ****************** http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song18.html แสนแสบ ...ชรินทร์ นันทนาคร อกพี่กลัดหนอง พี่หมองดั่งคลองแสนแสบ เจ็บจำดังหนามยอกแปลบ แปลบ แสบแสนจะทน โอ้ว่ากังหัน ทุกวันมันพัดสะบัดวน อยากจะรู้จิตคน จะหมุนกี่หนต่อวัน ย่างเดือนสิบสอง ฟากคลองเจิ่งนองน้ำหลั่ง อยู่ไกลกันคนละฝั่ง ฝั่ง ยังร้องสั่งกัน สิ้นเดือนสิบสอง น้ำนองแห้งคลองขอดพลัน สิ้นความรักจากกัน เหมือนกังหันเปลี่ยนทางลม แสนแสบ แสบแสนเปรียบแม้นชื่อคลอง นี่คือโลงทองของเรียม ขวัญ เขาฝากชีพจม แต่คลองยังช้ำ เหลือไว้แต่น้ำขุ่นตม พี่จึงช้ำจึงช้ำขื่นขม ขม ตรมเสียกว่าคลอง เจ้าจากพี่มา เจ้าลืมทุ่งนาฟ้ากว้าง เจ้าลืมฟากคลองสองฝั่ง ฝั่ง ลืมทั้งทุ่งทอง จวบจนบัดนี้ มิเห็นมีน้ำเจิ่งนอง ชื่อว่าแสนแสบคลอง เหมือนคนหมองต้องแสบแสน เจ้าจากพี่มา เจ้าลืมทุ่งนาฟ้ากว้าง เจ้าลืมฟากคลองสองฝั่ง ฝั่ง ลืมทั้งทุ่งทอง จวบจนบัดนี้ มิเห็นมีน้ำเจิ่งนอง ชื่อว่าแสนแสบคลอง เหมือนคนหมองต้องแสบแสน http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song203.html แสบทรวง ทูล ทองใจ น้ำตาผู้ชายที่ไหล ริน หมายถึงความสูญสิ้น เอนกอนันต์ นา นา ภายในดวงใจ ไม่มีใครรู้ ว่า ผู้ชายที่หลั่งน้ำตายิ่งกว่าฟ้า ร้องไห้ รักเธอทุ่มใจให้ทุกทาง แขนฉันพลี สองข้าง ยอมเหนื่อยเพื่อนาง กลาง ใจ อุตส่าห์บากบั่น ฟาดฟันฝ่าความหมองไหม้ เพื่อเธอมิใช่หรือไร ไม่เห็นใจฉันเลยขวัญตา ได้ ยินเสียงเพลงแสนแสบ ก้องหู ยิ่งกว่าตะปู ตอกย้ำให้ช้ำอุรา เสียง ครวญ แสนแสบแปลบทรวงหนักหนา โอ้อนิจจา ฉันต้องมาช้ำทรวงเพราะเธอ รักคนที่เขาไม่รักเรา เห็นน้ำใจแล้วเจ้า มันแสบทรวงเศร้า ละ เมอ วิมานทลาย เสียดายที่ความรักเก้อ ฉันทำทุกอย่างเพื่อเธอ ชื่นเพราะเธอ ช้ำเพราะเธอคนเดียว...
31 สิงหาคม 2548 08:34 น. - comment id 510137
พลีใจให้ฟังบทเพลง *แสนแสบ*ประกอบนะคะ บทเพลงที่ สาวนาชอบหลั่งน้ำตาคราได้ยินค่ะ ด้วยอยากให้พบวิถีสุขสงบ ในยามเช้า..นะคะ ด้วยทับทรวงห่วงใยด้วยรักมากล้นค่ะ ทุกคนดีในดวงใจ
31 สิงหาคม 2548 09:15 น. - comment id 510143
http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song203.html แสบทรวง ทูล ทองใจ น้ำตาผู้ชายที่ไหล ริน หมายถึงความสูญสิ้น เอนกอนันต์ นา นา ภายในดวงใจ ไม่มีใครรู้ ว่า ผู้ชายที่หลั่งน้ำตายิ่งกว่าฟ้า ร้องไห้ รักเธอทุ่มใจให้ทุกทาง แขนฉันพลี สองข้าง ยอมเหนื่อยเพื่อนาง กลาง ใจ อุตส่าห์บากบั่น ฟาดฟันฝ่าความหมองไหม้ เพื่อเธอมิใช่หรือไร ไม่เห็นใจฉันเลยขวัญตา ได้ ยินเสียงเพลงแสนแสบ ก้องหู ยิ่งกว่าตะปู ตอกย้ำให้ช้ำอุรา เสียง ครวญ แสนแสบแปลบทรวงหนักหนา โอ้อนิจจา ฉันต้องมาช้ำทรวงเพราะเธอ รักคนที่เขาไม่รักเรา เห็นน้ำใจแล้วเจ้า มันแสบทรวงเศร้า ละ เมอ วิมานทลาย เสียดายที่ความรักเก้อ ฉันทำทุกอย่างเพื่อเธอ ชื่นเพราะเธอ ช้ำเพราะเธอคนเดียว...
31 สิงหาคม 2548 11:47 น. - comment id 510174
สรรพสิ่งล้วนเปลี่ยนไปตามการเวลา ไม่เป็นเช่นนั้น ป่านนี้ผมและคุณ ๆ คงกำลังถือไม่กระบองวิ่งไล่สัตว์ป่าเพื่อมาเป็นอาหารกัน แทนที่จะมานั่งหน้าจอคอมอย่างวันนี้..
31 สิงหาคม 2548 12:10 น. - comment id 510196
ทับทรวงหนึ่งทรวง.... เคยมีเพลงนี้หรือป่าวคะ แวะมาอ่านสำนวนชวนพาฝัน ความสงบเงียบแห่งพนาวัลย์ สุขสันต์กายใจไร้ความอลวนวุ่นวาย
31 สิงหาคม 2548 15:04 น. - comment id 510234
มาอ่านกลอนงาม และเพลงไพเราะจากสาวงามแห่งพงไพรครับ เฉพาะเพลงแสบทรวงนั้น หรือว่าผมจำผิดไปก็ได้ ผมเรียกเพลงนี้ว่า เพลง น้ำตาผู้ชาย หรือเพี้ยนก็ไม่รู้ ผมชอบเพลงนี้มาก หากยามเหงาๆคิดถึงความหลัง จะมักชอบร้องเพลงนี้เสมอครับ เดี๋ยวนี้ร้องไม่ได้ไม่จบ หาไม่ได้ เลยรีบเก็บไว้ครับ ขอบคุณมากครับ แก้วประเสริฐ.
31 สิงหาคม 2548 17:49 น. - comment id 510299
☻ บ้านน้อยหลังเล็กๆน่ารัก
31 สิงหาคม 2548 19:27 น. - comment id 510353
สวัสดีค่ะ พี่พุด... บ้านน่ารักดีค่ะ... มายิ้มให้พี่พุดนะคะ.....