.... ....ใจเคว้ง..คว้างกลางท้องฟ้า ....ใจคว้าง..นภาพลันมืดหม่น ....ใจน้อย...เหงาหงอยพิกล ....ใจค้น.....หานัยใยอาวรณ์ .........ตัดใจจากแล้ว......ไม่แคล้วเจ็บ .........ตัดใจคืนเก็บ.......พลันทอดถอน .........ตัดใจลืมแล้ว.......แก้วบังอร .........ตัดใจจากจร........กลอนอาลัย ....คิดว่าลืม...กันได้ใยคิดถึง ....คิดรำพึง...ถึงครั้งเก่าเราสดใส ....คิดรำพัน..สุขครั้งนั้นยังฝังใจ ....คิดทำไม...ให้ใจแปลบแสบอีกคราว .........สายลมอุ่น......พัดมาแล้วแก้วตาเอ๋ย .........สายลมเอย.....พัดความหลังครั้งเหน็บหนาว .........สายลมแรง.....พัดไกลไปลับกับดวงดาว .........สายลมกราว...พัดใจโบกให้โยกคลอน ....สะท้านกาย....อิงต้นไม้คล้ายหวาดหวั่น ....สะท้านใจ.......สะดุ้งพลันจิตสังหรณ์ ....สะท้านทรวง...ห่วงโหยหาคราอาวรณ์ ....สะท้านกลอน..บาดลึกถึงก้นบึ้งใจ... ....
21 สิงหาคม 2548 23:36 น. - comment id 506853
แวะมาอ่านบทกลอน เพื่อสัมผัสใจคนเขียนครับ
21 สิงหาคม 2548 23:45 น. - comment id 506860
เล่นคำได้ดี..จ๊ะ
21 สิงหาคม 2548 23:48 น. - comment id 506863
เล่นคำได้ดี..จ้า
22 สิงหาคม 2548 16:13 น. - comment id 507138
...เมื่อวันเวลาผ่านไป ความเจ็บปวดในอดีตจะค่อยๆ จางหาย เป็นเพียงความทรงจำที่ไม่มีทั้งความสุขหรือความทุกข์ ..แต่บางครั้งบางคราความทรงจำ..ที่ไม่เจ็บปวด..กลับแทรกผ่านกาลเวลามาให้ระลึกถึง.. ..และอีกสักพัก ความเจ็บปวดก็จะหมดไป..
22 สิงหาคม 2548 20:19 น. - comment id 507322
สะท้อนหนาวคราวลมฝนนั้นหล่นมา สะท้อนพาใจร้อนรุมให้กลุ้มเหมือน สะท้อนจิตคิดถึงใครที่ใจเลือน สะท้อนเตือนให้ใจกลุ้มเหมือนสุ่มไฟ ชอบผลงานคุณเสมอ ชื่นชมมากเลยค่ะ
22 สิงหาคม 2548 20:58 น. - comment id 507334
สวัสดีค่ะ คุณพลทหาร \" แวะมาอ่านบทกลอน เพื่อสัมผัสใจคนเขียนครับ \"........ อ่าน ตรงนี้แล้วใจสะดุ้งเยือก มิวาย อ่าน ความหมายในอักษรใยเข้าถึง สัมผัส ใจเพียงเพ็ญได้..ทึ่ง..อึ้ง..ตะลึง... สัมผัส หนึ่งเพียงนิดคิด......วุ่นวาย ....อึ้ง..อึ้งค่ะ...คนส่วนมากอ่านกลอน ....เพื่อเสพความสวยงามในภาษา ....หรือไม่ก็ดื่มด่ำ.กับนัยที่ซ่อนอยู่ในกลกลอน ....ครั้งแรกค่ะ..ที่มีคนบอกว่า... ....อ่านเพื่อสัมผัสใจคนเขียน... ....อืมม..อ่านแล้ว..วาบ..ในอก...แฮะ ....ใจแปลบๆ..พิกลค่ะ ....ขอบคุณนะคะ...ที่เข้าแล้วเข้าถึง.. ....ขอบคุณจริงๆ...ค่ะ...คุณพลทหาร... ....
22 สิงหาคม 2548 21:10 น. - comment id 507338
สวัสดีค่ะ คุณภูตะวัน ตะวันรอน ขอบคุณมากค่ะ.. ความจริงชอบแต่งกลอนมาก จากที่แต่งไม่เป็นเลยค่ะ สะเปะสะปะ..หัดฝึกฝนจนแต่งได้ แล้วก็มาตกหลุมรัก กลอนเล่นคำ..ค่ะ ชอบที่จะเล่นกับตัวอักษร ตามแต่อารมณ์ตัวเองจะพาไป อาจไม่ถูกฉันทลักษณ์ บ้าง..น่ะค่ะ.. หากมีเวลาจะแวะไปทักทายกลับนะคะ ขอบคุณอีกครา ที่แวะมา ทำให้มีกำลังใจ สละเวลามาแต่งกลอนต่อไป...เลยนะคะเนี่ย. ......เล่นคำ........เพียงหนึ่งดึงมาเล่น ......เล่นเป็น.....กลบทให้สดสวย ......เล่นอักษร...กลอนนี้อย่า งงงวย ......เล่นด้วย.....ภาษาคมกลมกล่อมดี ด้วยยินดีที่เข้ามาทักทายกันค่ะ
22 สิงหาคม 2548 21:16 น. - comment id 507344
เจ้ยยยยยยยยยยย...... คุณพลทหาร.....คะ...ทานโทษค่ะ.. พิมพ์ตกไป...มือไปเร็วกว่าสมองสั่งค่ะ ต้องตีมือตัวเอง...แรงๆ นะคะเนี่ย ...ขอแก้เป็น... ....อืมม..อ่านแล้ว..วาบ..ในอก...แฮะ ....ใจแปลบๆ..พิกลค่ะ ....ขอบคุณนะคะ...ที่..อ่าน..แล้วเข้าถึง..ความรู้สึกกัน ....ขอบคุณจริงๆ...ค่ะ...คุณพลทหาร.. % 36%
22 สิงหาคม 2548 21:36 น. - comment id 507350
สวัสดี คุณนัททียม..ค่ะ ชื่อแปลกนะคะ... คุณพูดถูก.. ....เมือ่กาลเวลาผ่านไป ....หัวใจเริ่มชินและชา ....แม้ความทรงจำผ่านเข้ามา ....มีค่าเพียงอดีตที่กวนใจ .......ความเจ็บปวดเริ่มจางหาย .......ความแกร่งกรายเข้ามาไกล้ .......ความทุกข์ลบเลือนไป .......ความสดใสเริ่มก่อตัว ขอบคุณค่ะ สำหรับข้อคิด ที่นำมาลง... .... ....
22 สิงหาคม 2548 22:35 น. - comment id 507374
สวัสดี ผู้หญิงไร้เงา ค่ะ จำชื่อนี้ได้เสมอค่ะ ได้เจอะเจอมาทายทัก ยินดียิ่งเพียงเพ็ญได้รู้จัก เกิดนึกรักประทับใจ ขอบคุณค่ะ.....สำหรับไมตรีที่ให้มา ขอบคุณค่ะ.....สำหรับวาจาที่ชื่นชม มอบยิ้มให้.....ด้วยใจแสนรื่นรมย์ มอบใจนิยม...ย้อนคืนกลับไป..ค่ะ ..................................... สะท้อนใจ.....กายสะท้านสั่นใหวใหว สะท้านใจ.....สะท้อนจิตคิดหวาดหวั่น สะเทือนใจ...ใคร่ลืม (ความ) หลังครั้งสัมพันธ์ สะดุ้งพลัน.....วันเก่าเก่าเฝ้ารบกวน.. .............................................. หากมีเวลา จะแวะไปทายทัก กลับบ้างนะคะ ยินดียิ่งที่ได้รู้จักค่ะ
23 สิงหาคม 2548 01:49 น. - comment id 507452
คือใครที่คว้างกลางฟ้า คือใครให้นภามืดหม่น คือใครใจหงอยพิกล คือใครค้นไม่พบใจใคร ........................... ตัดใจใยฟ้าจึงเจ็บ ตัดใจหนาวเหน็บทอดถอน ตัดใจแล้วหรือบังอร ตัดใจร้าวรอนจรไกล ลืมเถิดถ้าไม่คิดถึง รำพึงครั้งเคยหลงใหล รำพันพลันจากอาลัย ทำไมจึงคิดถึงเธอ สายลมโชยพัดไกวอ่อน สายลมทอดถอนใจเสมอ สายลมพัดไกล..ละเมอ สายลมพร่ำเพ้อ..เธอจากไกล ให้สะทกสะท้านใจไหวหวั่น ให้สะท้านสะท้อนกายหวั่นไหว ให้สะท้อนสะเทือนทรวงดวงใจ ให้อาลัย..ใจบาดลึก..ลึกสุดใจ....
23 สิงหาคม 2548 02:27 น. - comment id 507460
ตอบ...คุณท่องเมฆาค่ะ... คือ...ใครคนหนึ่งซึ่งสับสน คือ...คนค้นคนจนใจหงอย คือ...นภาพาหม่นคนสำออย คือ...ใจน้อยน้อยจิตคิดเคว้งไป .....ตัดใจ...ใช่ตัดฟ้าใยมาเจ็บ .....ตัดใจ...ใยหนาวเหน็บครุ่นสงสัย .....ตัดใจ...ให้ร้าวรอนกลอนอาลัย .....ตัดใจ...ใยเส้นบางสานสัมพันธ์ ลืมแล้ว...น้องแก้วยังคิดถึง ลืมแล้ว...ครุ่นคนึงครั้งสุขสันต์ ลืมแล้ว...ภาพครั้งเก่าเฝ้าพัวพัน ลืมแล้ว...แค่ลืมกันทำไม่ลง .....สายลมอ่อน...อ้อนอิงอาบไออุ่น .....สายลมอุ่น.....ผ่านใจให้ใจหลง .....สายลมลา......จากไกลใฝ่พะวง .....สายลมร้อน...ยังคงแผดเผาใจ สะท้านจิต.....คิดถึงจึงหวั่นหวาด สะท้อนจิต.....พิษสวาทวาดฝันใฝ่ สะเทือนจิต...คิดจากลาจรจากไกล สะท้านจิต.....คิดอาลัยใจมีรอย.... สวัสดี และขอบคุณ..ค่ะ ที่มาตอบต่อกลอน ด้วยยินดียิ่งเลยค่ะ...
27 สิงหาคม 2548 15:34 น. - comment id 509085
โดนใจมาก ๆ
26 กรกฎาคม 2551 18:03 น. - comment id 879119
แวะมาดูความหลัง แวะมาย้ำความคิดถึง แวะมาฝากถ้อยรำพึง แวะมาซึ้งในน้ำใจและไมตรี