ปอนเปียกไป่หวั่นคร้าม......คราวฝน หนาวหน่วงยังอดทน.............บ่ท้อ หัวใจบ่อับจน-.......................ฝันแจ่ม ดอกนา เพียงแต่อย่าตัดพ้อ...............ต่อฟ้าราวแขยง มีแรงพร้อมต่อก้าว..........เติมสมัย หวังเพื่อนเอื้อใยใจ..............หนึ่งบ้าง ราตรีกล่อมใจใด..................สุขเปี่ยม เ ต็มเฮย วานกล่อมใจอ้างว้าง..............ผ่อนร้าวเรียมหมาย ฯ
15 สิงหาคม 2548 22:02 น. - comment id 504112
ฟังข่าวน้ำท่วมหนักที่ภาคเหนือ มิตรที่อยู่ทางเชียงใหม่เป็นอย่างไรกันบ้างก็ไม่รู้
16 สิงหาคม 2548 11:03 น. - comment id 504191
แวะมาเยี่ยมเจ้าค่ะ
16 สิงหาคม 2548 11:35 น. - comment id 504224
ตั้งใจมาอ่าน
16 สิงหาคม 2548 19:34 น. - comment id 504401
เอาร่มมาให้ค่ะ
17 สิงหาคม 2548 11:26 น. - comment id 504658
แวะมาอ่าน..เรียมฝันขอรับ...
17 สิงหาคม 2548 19:21 น. - comment id 504973
แรงกายเรียมอ่อนล้า ลืมฝัน ใจแกร่งเกินจำนรรจ์ กล่าวแจ้ง แรงกายบ่เทียบทัน เทียมเท่า จิตนา ใจบ่อาจเสแสร้ง สู่สู้เสกฝัน มาต่อให้...อยากต่อโคลงแต่ว่า 1) ยาก 2) ไม่ค่อยชอบ 3) ต้องเลือกหัวข้อให้เหมาะ สรุปว่าจะพยายาม ซั่นเถาะ
17 สิงหาคม 2548 20:30 น. - comment id 504989
ผมยังอยู่ในช่วงทดลองโคลงครับครูใหญ่ ถ้าผ่านได้ก็จะเขียนงานยาวแบบนิราศ ตอนนี้กำลังเก็บคำเอกโทจากพจนานุกรมราชบัณฑิตยสถาน 2525 ลงสมุดให้หมด แต่ก่อนผมยอมรับว่าไม่สนใจร้อยกรองประเภทนี้เอาเลย แต่ตอนนี้ มันเปลี่ยนไปแล้วพอควร ก็ยอมรับว่ายากครับ คือยังไม่ชำนาญ บางทีถ้ารู้สึกชำนาญแล้วความท้าทายในการเขียนอาจลดน้อยลงไปก็ได้-ไม่แน่ ช่วงนี้ผมจะเข็นโคลงออกมาบ่อย ประเด็นที่เขียนไม่เปลี่ยนไปมากนัก ผมอ่านงานของครูใหญ่แล้วชอบมาก สำนวนลื่นไหลมากๆ เป็นงานชั้นครูแบบกวีรุ่นใหญ่น่ะครับ