สายลมพัดผ่านหวิวโดนหน้า ท้องฟ้าเจิดจรัสสดใส ใบไม้ร่วงหล่นที่ละใบสองใบ เห็นแล้วเศร้าใจเหลือทน ผู้คนช่างมากมายอยู่รอบข้าง ทำไมยังคงอ้างว้างสับสน ท้องฟ้าเจิดจรัสใช่จะมืดมน ใจเราหมองหม่นลงทุกทีทุกที แค่เขาไม่เห็นคุณค่าก็เท่านั้น แปลกเหมือนกันทำให้ใจถึงหวั่นไหว ช่างเขาเถอะ..ปล่อยเขา.ช่างเขาปะไร ไม่ถึงตาย..อย่า.เสียใจ เดียวเสียฟอร์ม
15 สิงหาคม 2548 19:19 น. - comment id 504035
อย่าทำใจเสียใจคล้ายใบหญ้า ลมพัดมาหวีดหวิวปลิวไสว ใบไม้ร่วงปลิดขั้วมัวเศร้าใจ แล้วคนใยอ้างว้างกลางหมู่คน ฟ้า........นั้นจ้องส่องสว่างกลางใจ........ฟ้า หม่น....ท้องฟ้าอย่าพาใจให้หมอง.....หม่น คน......เขาเมินเมินเขาไปช่างใจ.......คน หมอง.......ก็ทนอย่าจนใจไม่มัว......หมอง
15 สิงหาคม 2548 21:02 น. - comment id 504084
แวะมาทักทายฮะ กลอนเขียนดีนะคับ
15 สิงหาคม 2548 21:44 น. - comment id 504103
สายลมโบยโบกพลิ้ว............ไปมา พัดสะดุดตาต่อตา................สบแพร้ว ฟอร์มเอ๋ยช่างทุกครา..........ทำเสงี่ยม ยามเมื่อลมผ่านแล้ว............จึ่งชะแง้เงาลม อาการนี้เลยครับ แหะๆ
16 สิงหาคม 2548 11:31 น. - comment id 504197
ความมืดมนหม่นใจด้วยใฝ่คิด เรื่องนิดนิดยังคิดจิตหวั่นไหว สิ่งรอบข้างวางเถิดนะหัวใจ ถึงอย่างไรคงไว้เพียงศรัทธา. แก้วประเสริฐ.