๏ หยั่งรากซอนซ้อนเซาะเกาะดินแกร่ง เพื่อขืนแข็งขึ้นตรงทรงพฤกษา เกิดกกกอก่อไว้ในพนา ให้แกร่งกล้ากำบังลมคลั่งแรง เป็นรากแก้วแล้วใช่เพียงให้ยุด ฤๅใช่ขุดขอดน้ำตามระแหง แต่เป็นหลักปักลงส่งสำแดง มีกล้าแกร่งเกิดก่อกกกอไพร ฉันทลักษณ์หลักการบุราณพากย์ ก็คือรากลงมั่นกันหวั่นไหว แม้นมีหลักหนักแน่นแม่นมั่นใจ กลกลอนใดดลหลงงุนงงฤๅ หยั่งรากซอนซ้อนเซาะให้เกาะจิต ลงลิขิตขีดสารจารลายสือ สร้างกลอนโคลงโยงคำร่ำระบือ เป็นผู้สื่อทรงแล้วรากแก้วกานท์ ๚
26 ธันวาคม 2544 03:18 น. - comment id 27209
แวะมาชื่นชมค่ะสำหรับนักกวีแท้ ๆ
26 ธันวาคม 2544 07:30 น. - comment id 27236
เห็นด้วยกับคุณหมอครับ แม่นทฤษฎี แล้วพัฒนาพลิกแพลงอย่างไร ก็ยังวกกลับมาหาทฤษฏีได้
26 ธันวาคม 2544 11:09 น. - comment id 27274
ให้คติและข้อคิดมากค่ะ อะไรก็แล้วแต่หากรู้ลึก ถึงรากแล้วมองอย่างไงก็ยังดูออกว่ารู้จริงแม้จะ พลิกแพลงไปในรูปแบบใหม่ ก็เหมือนกับกลอน คุณวฤก ตีแผ่ได้ดีอีกแล้วค่ะ ชอบจัง