กลอนเจ็ด... ค่ำหนึ่งพระอาทิตย์ที่ ๑๙ ๑... โพล้เพล้ พลบค่ำ รำงำเงียบ เย้าเยียบ เฉียบเย็น แทบเป็นบ้า เหงาง่าย เจ็บง่าย ธรรมดา หยดหยาด ทรมา เหว่ว้านัก ๒... เกิดแสง แห่งดาว พราวสวรรค์ ผลิค่ำ รำพัน ผันหน่ายหนัก ส่องสวย สรวงฟ้า มาทายทัก ลึกล่วง ห้วงรัก ถักทอกาล ๓... เก็บสาย สร้อยฟ้า มาร้อยสรวง วาดดวง ดาวขาว ที่พราวผ่าน กระซิบ รินร่ำ เล่าตำนาน หมื่นล้าน ผสานเสียง จินตนา ๔... ดั่งรส บทกวี ที่รินรื่น ฉ่ำชื่น คืนใจ เคยปวดปร่า เพียงเพลง บรรเลง ดาริกา ดารดาษ ดารา บุพผาเพ็ญ ๕... กล่อมใจ ให้ห้อม หอมห่อห่ม พรายพรหม ห่มใจ ให้ไหวเต้น ดาวเคลื่อน เดือนคล้อย ยังลอยเด่น พินิจพิศ แสงเย็น เพ็ญจันทร์ราย ๖... เพ่งพิศ ยิ่งคิด ยิ่งพิศพบ งดงาม สงบ แต่เรียบง่าย ความมี ยังมี ไม่มีคลาย เพียงโยก ย้อนย้าย ไปตามกาล ๗... สาดสวย สดใส ในราตรี ดั่งว่า วนาลี คลี่ผสาน โอบอ้อม ห้อมอุ้ม คลุมผืนธาร ฉ่ำชื่น ชื้นบาน ก่อนต้านลม ๘... รัตติกาลผ่าน รัตติกร หนุนนอน ผ่อนคลาย คล้ายผวยห่ม อุ่นไอ ใจช้ำ ระบำบม คืนขม คืนขื่น ในคืนนี้ ................................ แหละวันนี้ พระจันทร์ที่ ๒๕ กรกฏาค์ ๔๘ ถึงดวงดาวดวงนั้นที่ฝั่ง ฟากฟ้าทะเลไกล บทส่งใจ... โพล้เพล้นั้น ความเงียบสร้างความรู้สึกในด้านที่ไม่คิดหมายได้มากนัก... นี่กระมังครับ หลายคนจึงเตือนฝากไว้ คนเหงาง่ายอย่าอยู่กับเงียบให้นานนัก .... เมื่อฟ้าสิ้นแววแห่งระวีแล้ว ช่วงเวลาแห่งรัตติฯก็มาเยือน ดั่งมีรัตติกรมาปลอบปลุก ประคองความหวั่นนัยก่อนค่ำนี้ .... มองออกไปไกล ณ ปลายฟ้าเบื้องหน้า มิตรผู้มากด้วยความรู้สึกแห่งวาสนาแห่งการเจอเคยกล่าวไว้สั้นๆในการออนไลครั้งก่อน ว่าการได้รู้ว่าได้ทำสิ่งเดียวกันกับอีกหนึ่งดวงใจแม้อยู่ไกลกัน ก็เป็นความสุขครับ .... ราตรีกาลนี้เราคงนั่งมองดาวดวงเดียวกันนะคุณคนไกล... .... ในรัตติกาลหนึ่งคงมีอีกหลายชีวิตกระมัง ที่มานั่งปล่อยจินตนาไปไกลๆเช่นนี้ และคงมีไม่น้อยที่พบความงามง่ายใต้รัตติกาลนั่น... ท่านทั้งหลายก็คงเคยเป็น แต่บางรัตติกาลของบางคน อาจกำลังจดจ่อกับการงาน หรืออยู่บนท้องถนนที่มีแต่ดวงไฟสองฝั่งฟาก ไม่มีแม้เวลาได้แหงนหน้าดูความสวยงามบนฟ้านั่น... คุณทั้งหลายก็เช่นกัน อาจมี เหนื่อยนักก็พักกันนะครับ... ขออวยพรให้ดวงใจสวยๆทุกดวง ได้สัมผัสกับทุกรัตติกาลที่หมายใจ พิเศษเฉพาะคุณคนซึ่งในรัติกาลหนึ่งซึ่งกำลังทำบางประการเพื่อวันนี้ที่ดีกว่าวันวาน... สำหรับผม ดวงใจคุณสวยจังครับ ด้วยรัตติกาลแห่งอารมณ์ แทนคุณแทนไท
25 กรกฎาคม 2548 12:15 น. - comment id 495348
.. รัตติกาลนี้ งดงามมากนัก .. .. แม้ฟ้าสิ้นแสงแห่งแววระวีแล้ว .. .. อย่างน้อย .. ก็ได้รู้ว่า .. ยามระวีทอแสงอบอุ่นเช่นไร .. .. .. .. ดาวคงเป็นดาวดวงเดียวกัน .. .. ฟ้าก็คงเป็นฟ้าผืนเดียวกัน ..
25 กรกฎาคม 2548 12:31 น. - comment id 495355
มาแบบหวานเชียวนะท่าน....ใต้ฟ้าเดียวกัน..ในรัตติกาลหนึ่ง...หวานแหวว..ไปหละ..
25 กรกฎาคม 2548 13:16 น. - comment id 495382
หนึ่งรัตติกาลแห่งคืนฝัน อยู่บนแผ่นดินเดียวกัน ถ้าต่างรัตติกาลของคืนวัน คงจะแปลกนะพี่แทนไทย คิกๆๆๆๆๆๆส่งใจให้คนนั้นทุกวันหรือเปล่าที่แทน................ระวังใจจะตกทะเลหมอกไปก่อนนะจ๊ะพี่แทน.....ยังเดินทางไปไม่ถึงทะเลใจ 5 5 5...มาแซวพี่ชายเล่นๆๆนะ........ไม่โกรธกันนะเจ้าค่ะท่านพี่ชายที่น่ารัก....ของคนอื่น...เอิกๆๆๆ
25 กรกฎาคม 2548 13:34 น. - comment id 495388
.................. .................... ใต้รัตติกาลนี้ฉันไม่มีใคร ใต้รัตติกาลของคุณมีคนเคียงข้าง ............... ............. รัตติกาลของฉัน..เศร้าสร้อย ช่างเถิด..ฉันคงไม่มีวาสนา.. ได้มีรัตติกาลที่สวยงามอย่างคนอื่นเขา
25 กรกฎาคม 2548 14:05 น. - comment id 495400
คุณแทนขา... สาวแถวๆ นี้ฝากบอกมาว่า ไม่สามารถมองดาวดวงเดียวกับคุณได้ซะแล้ว... เพราะที่ทะเลฝั่งนี้ฝนตกหนัก... มิสามารถเห็นดาวดวงนั้นได้... มีแต่ดวงใจเท่านั้น ที่หากคุณพร้อมจะมอง... เธอจะเผยใจให้เห็นจ้ะ... ทำไมหน้าแดงด้วยล่ะ... เธอบอกมาเช่นนั้นจริงๆ... สวัสดีนะคะ
25 กรกฎาคม 2548 15:04 น. - comment id 495414
เห็นด้วยในความหมายครับ
25 กรกฎาคม 2548 16:59 น. - comment id 495486
รัตติกาลนี้ จะมีบ้างไหมหนอ ที่คอยรอ มองรัตติกาลเดียวกัน ^_^
25 กรกฎาคม 2548 21:51 น. - comment id 495570
อยากยกทะเล ไปเทน้ำทิ้งที่ดาวอังคารจัง เฮ้อ ! เกี่ยวกันไหมนี่
25 กรกฎาคม 2548 22:39 น. - comment id 495604
สวัสดีขอรับ ร้อยได้งามขอรับ ดีใจได้มาชม หากคนขี้เหงามายล สงสัยต้องเปิดหน้าต่างมองไปบนฟ้าตามแน่ขอบอก ขอบอก ขอบอก ^_^
26 กรกฎาคม 2548 05:48 น. - comment id 495673
หนึ่งรัตติกาล ตั้งชื่อเพราะจังค่ะพี่แทน แม้บางรัตติกาลจะยาวนานเราก็ต้องพยายามผ่านรัตติกาลนั้นไปให้ได้ สุข ทุกข์ที่ฉายฉาบรัตติกาลต่าง ๆ ย่อมมีแปรเปลี่ยน คิดถึงพี่แทนเสมอมาค่ะ งานงามมาก
26 กรกฎาคม 2548 08:31 น. - comment id 495734
หนึ่งรัตติกาลกว่าจะผ่านพ้น เฮ้อ แย่ค่ะ ฝั่งที่ยังเยาว์อยู่ ไม่เห็นดวงจันทร์เลย ยิ่งช่วงอากาศหนาว กว่าจะตื่นมาดวงจันทร์ก็จรจากไปเสียแล้ว เฝ้ามองแต่ไฟที่ถนนหน้าตึกแทน สมมติเสียว่าเป็นดวงจันทร์
26 กรกฎาคม 2548 18:27 น. - comment id 495995
ยังไม่ถึงรัตติกาลสักเท่าไหร่ แวะเข้ามาก่อน ในราตรีแต่ละคืน สำหรับผู้ที่หัวถึงหมอนเอาตอนดึกดื่น มีเหตุการณ์ทำให้ชื่นและขื่นขมคละเคล้ากันไปครับ
27 กรกฎาคม 2548 13:11 น. - comment id 496352
จะอีกกี่รัตติกาลหมุนผ่านครบ จึงจักจบอารมณ์สิ้นถวิลหา หยุดความเหงาทดท้อทรมา หมดน้ำตาหลั่งสะอื้นกับคืนวัน
27 กรกฎาคม 2548 13:39 น. - comment id 496363
สวัสดีค่ะ ..มองไปไกลสุดปลายฟ้า. เมฆลอยมาทมึนครืนครืนหนัก คืนนี้คงไร้ดารามาทายทัก หัวใจชักเงียบเหงา..เศร้าเหมือนเดิม. ...ดีจัง มีคนดูดาวด้วย..คืนนี้เว้นซักคืนนะคะ.. ..~-~..
27 สิงหาคม 2548 18:25 น. - comment id 509127
รวีรอนรอนอ่อนแสงฉาย ริ้วเมฆปริ่มประกายพรายแดดฝัน ปักษาหันกลับรวงรังพลัน ใกล้แววโพยมสวรรค์จะยลเยือน เพียงเราเศร้าสร้อยคอยคนรัก เจ็บดังปีกหักยามไร้เพื่อน กอดรอยน้ำค้างกลางลานเดือน ราวรักที่เลือนจะลับลา คืนเดือนเคลื่อนเมฆแสงเสกน้ำ ริมตลิ่งค่ำฉันเหว่ว้า อีกฟากอีกฝั่งหวังสุดตา เพียงปรารถนาถึงคนรัก รัตติกาลนานเนิ่นดำเนินล่วง เฝ้าห่วงเฝ้าห่วงอย่างหน่วงหนัก ไร้แม้นหิ่งห้อยมาคอยทัก ไร้แม้นลมผลักดวงน้ำตา
30 สิงหาคม 2548 18:56 น. - comment id 509987
ไพเราะจังค่ะ
10 พฤศจิกายน 2548 13:13 น. - comment id 531017
+คุณอัลมิตรา+ มีหลายอย่างที่อยากทำ แต่ทำไม่ได้นะครับ ขอบคุณที่มาเยือน
10 พฤศจิกายน 2548 13:14 น. - comment id 531018
+คุณสุญญะกาศ+ ขอบคุณทุกคำ ล้วนทำให้ชื่นใจครับ...
10 พฤศจิกายน 2548 13:16 น. - comment id 531019
+sun strom + คิดถึงเช่นกันครับ เวลารัตติกาลสวยๆมักไม่อยากให้จากไป แต่รัตติกาลเศร้าๆก็เร่งให้ถึงวันพรุ่งโดยเร็ววัน เนอะ... คนเรา ขอบคุณที่มาครับ
10 พฤศจิกายน 2548 13:18 น. - comment id 531022
+คุณยังเยาว์+ บางวันก็ต้องฝันถึงวันที่สวยงามครับ เพราะยากจะหาความงามได้จริงจากหลายความแวดล้อมที่เราเจอในแต่ละวัน... วันนี้ยังหนาวไหมหนอ รักษาสุขภาพนะครับ
10 พฤศจิกายน 2548 13:19 น. - comment id 531023
+คุณชัยชนะ+ ขอบคุณครับ คงเป็นเช่นคุณว่า บ้างทุกข์ บ้างสุข
10 พฤศจิกายน 2548 13:22 น. - comment id 531026
+คุณผู้หญิงช่างฝัน+ ถ้ารู้ครบว่าจบกี่รัตติกาล ความทุกข์ที่พบกาลจะผ่านจบ คงสุขในความเป็นไปที่ใจพบ และเร้ารบให้ถึงซึ่งวันนั้น รัตติกาลเลยผ่านกี่กาลแล้ว ยังไม่แว่ว.... ขอบคุณนะครับ คงมิอาจรู้ ได้แต่ลองทนอีกนิด
10 พฤศจิกายน 2548 13:23 น. - comment id 531027
+คุณซอพลอ+ หายไปนานเลยนะครับ หวังว่าจะสบายดี
10 พฤศจิกายน 2548 13:25 น. - comment id 531028
+คุณชลกานต์+ พิเศษสุดเลยครับสำหรับบทนี้ คืนเดือนเคลื่อนเมฆแสงเสกน้ำ ริมตลิ่งค่ำฉันเหว่ว้า อีกฟากอีกฝั่งหวังสุดตา เพียงปรารถนาถึงคนรัก ขอบคุณนะครับ
10 พฤศจิกายน 2548 13:27 น. - comment id 531030
+สำหรับคุณจุวัลณีย์+ ทุกความเป็นไปยังสม่ำเสมอ... ขอบคุณที่มา
10 พฤศจิกายน 2548 13:02 น. - comment id 534286
+คุณกีกี้ครับ+ คงเป็นจริงดั่งคำคุณว่าครับ เมื่อรวีลาฟ้าไปแล้ว แต่รอยความรู้สึกที่ทิ้งไว้ ก็อุ่นและสุขนักครับ... ขออภัยที่ตอบช้านะครับ โพล้เพล้ พลบคำ รำงำเงียบ เย้าเยียบ เฉียบเย็น แทบเป็นบ้า เหงาง่าย เจ็บง่าย ธรรมดา หยาดหยด ทรมาน์ ว้าเว่นัก
10 พฤศจิกายน 2548 13:04 น. - comment id 534287
+คุณบินเดี๋ยวครับ+ ขอบคุณที่มาครับ อยากจะหวานกว่านี้ครับ แต่เขียนจบเหมือนประจานความเศร้าในใจตัวเองทุกที
10 พฤศจิกายน 2548 13:06 น. - comment id 534291
+คุณแก้วนิดา+ สำหรับยามนี้ ความคิดถึงคะนึงหาแม้จะส่งฝากไป แล้วตกน้ำตกทะเลไปบ้าง ก็ไม่เป็นไรดอกครับ เพราะถึงแม้นไปวางไว้ตรงหน้าเธอ เธอก็คงมิได้หมายใจเท่าใดนัก....
10 พฤศจิกายน 2548 13:07 น. - comment id 534292
+คุณรักลวงตา+ ยามเราเศร้า เรามักคิดเอาเสมอว่าเราช่างโชคร้ายที่โดเดี๋ยวในความทุกข์เช่นนี้... เหมือนคำคุณพ้อกระมังครับ ขอบคุณที่มาเยือน
10 พฤศจิกายน 2548 13:09 น. - comment id 534293
+คุณกอกก+ วันนี้ฝนยังตกหนักรึปล่าวหนอ บุราณว่าหลั่งฝนตกฟ้ามักใสขึ้น อยากให้เป็นเช่นนั้นครับ \"ฝากความคิดถึง ถึงสาวแถวนั้นด้วยนะครั\"(สวมรอยซะเลย) สวัสดีครับ
10 พฤศจิกายน 2548 13:10 น. - comment id 534294
+คุณคิมครับ+ ขอบคุณนะครับที่แวะมา
10 พฤศจิกายน 2548 13:12 น. - comment id 534295
+คุณลอยไปลอยมา+ ผมว่ามีคนมองรัตติกาลเดียวกันไม่น้อยครับ แต่กายอาจไกลกันจนสุดฝันถึงปรารถนาที่จะได้เคียง