..๏ ขู่กรรโชกเสียงฉิวดั่งกริ้วโกรธ ระบุโทษกระหน่ำย่ำฉิบหาย มวลไม้เล็กพินาศต่างวอดวาย ต้นถูกถอนสูญสลายไร้ร่องรอย ด้วยลมหมายบีฑาให้อาสัญ จนพฤกษ์พันธุ์หลายหลากเหลือซากฝอย กิ่ง,ก้าน,ใบ ปลิดขั้วทั่วถ้วนลอย ไม้ใหญ่ผล็อยพังพาบราบพสุธา ครั้นเวลาผ่านไปคลายเคืองขัด ลมเพียงพัดแผ่วเบาราวโหยหา ความอบอุ่นจากไม้ในพนา จึงวกมาสู่อ้อมไพรในแดนเดิม โอ้อนาถ..ป่าล่มเพราะลมชั่ว จิตเมามัวเกินไปให้ฮึกเหิม ครั้นกลับตัวคิดใหม่หมายต่อเติม แล้วจะเสริมอย่างไรปลูกไม้งาม ป่าคงยากพลิกฟื้นจึงขื่นขม เป็นบทเรียนของลมที่ข่มขาม เพราะบังอาจมุ่งร้ายกรายคุกคาม สำนึกยามป่าสลายคงสายไป หากเปรียบลมกับนิยามความรักนั้น หลายคนพลันย้อนคิดจิตสงสัย ผู้ประพันธ์จะอิงถึงสิ่งใด และทำไมตัวอย่างต้องอ้างลม ขอส่งเทียบเชื้อเชิญเกริ่นวจี วอนน้องพี่ขยายความตามเหมาะสม ด้วยสาเหตุซ่อนไว้นัยเงื่อนปม เรื่องระทมผ่านตาคราวันวาน ตัวอย่างรักเปลี่ยนไปกลายเป็นแค้น คงฝังแน่นดวงจิตเมื่อคิดผลาญ คีตนะเขียนกลอนตอนร้าวราน สะท้อนกานท์สะเทือนใจหากใครดู เธอคือลมพิโรธที่โหดร้าย มุ่งทำลายเพียงหวังซากยังอยู่ มันจะเหลือค่าใดให้เชิดชู รักกับผู้สูญใจ .. ใช่สิ่งดี หากเปรียบเขาคงเป็นเช่นต้นไม้ ย่อมสั่นไหวยามพายุมุกดขี่ อาจถอนรากออกไปในทันที ด้วยเหตุที่ใจหมดความอดทน เป็นบทเรียนลม-รักหักมุมเล่า คือเรื่องราวนัยจริงอิงเหตุผล คีตนะผูกเงื่อนเหมือนซ่อนกล ดั่งรอคนเข้าใจนัยเนื้อความ ๚ะ๛
5 กรกฎาคม 2548 17:43 น. - comment id 488485
ใยจึงเป็นพายุที่ดุร้าย มิเป็นสายลมอ่อนที่อ่อนไหว ใยพิฆาตเมื่อพัดสะบัดไป คงบรรลัยวายวอดตลอดทาง อุทกภัยก่อนเกิดกำเนิดผล ฟ้ายังหม่นแลเห็นเป็นวงกว้าง มวลเมฆบังตะวันพลันเลือนลาง แสงสว่างสิ้นสูญพิรุณโปรย วาตะภัยนั้นเล่าใครเขารู้ ว่าอยู่อยู่เหมือนสิ้นแรงแกล้งระโหย เพียงผะแผ่วฉะเฉี่อยเอื่อยพัดโรย กลับโบกโบยสะบัดพัดลิ่วมา ใยมิเป็นสายลมอันชุ่มชื่น พัดโชยรื่นดับร้อนยามอ่อนล้า ให้เย็นกายคลายทุกข์ปลุกอุรา จนเริงร่าสดชื่นทุกคืนวัน รมณ์คือลมผู้ใดใคร่กำหนด จะวางกฎสร้างกรอบรอบมันนั้น แล้วแต่พาาดีร้ายสารพัน นำสุขสันต์หรือโศกาตามอารมณ์
5 กรกฎาคม 2548 16:06 น. - comment id 488519
เหตุการณ์บางครั้งเกิดจากการเข้าใจผิด เหตุการณ์บางครั้งเกิดจากอารมณ์ชั่ววูบ และเหตุการณ์บางครั้งเกิดจากอารมณ์ปรวนแปร ซึ่งหากจะถามว่าใครผิด คงตอบไม่ได้ แต่หากจะถามว่า ควรจะทำอย่างไร ผู้หญิงไร้เงาก็ตอบไม่ถูกอีกเช่นกันค่ะ อิอิ เอาเป็นว่ามาชวนไปทานข้าวแล้วกันนะค่ะ อิอิ
5 กรกฎาคม 2548 16:36 น. - comment id 488529
คุณอัลฯ คะ อ่านงานนี้แล้ว รู้สึกถึงความอ่อนไหว ภายใต้ความเข้มแข็ง. . . ไม่ต้องเชื่อก็ได้นะคะ แต่วันนี้... อยากบอกว่า... ห่ ว ง ใ ย ค่ะ
5 กรกฎาคม 2548 22:07 น. - comment id 488598
รักกันเหมือนสายลมอ่อน คอยเว้าวอนอยู่ข้างๆ สายลมอบอุ่นอยู่ไม่นาน กลับแสนพาลแปรเปลี่ยนทอนาโด ฟิวๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ พายุหมุนมาแว้ววววววววว
5 กรกฎาคม 2548 22:19 น. - comment id 488600
สายลมครวญยังคงกรุ่นในความทรงจำและยังอิ่มเอิบอยู่ ไม่เหมือนคีตนะที่โชคไม่ดีเจอพายุร้ายกระหน่ำจนย่ำแย่ กรรมครับกรรม อ่านลิงค์แล้วต้องเชื่อว่า กรรมจริง ๆ ว่าแต่ว่าคุณอัลมิตราล่อเสือออกจากถ้ำได้สำเร็จ แต่ไหนแต่ไร ก็แต่นั่นล่ะครับ พายุกระหน่ำแค่ไหนก็ไม่ออกจากถ้ำ ลมละมุนโกรกเย็นสบาย เป็นใครๆก็ออกมารับลม ใช่ไหมล่ะครับ
5 กรกฎาคม 2548 22:57 น. - comment id 488617
พายุแรงอย่างนี้ เซเลยเรา แวะมาป่วนนะวันนี้
6 กรกฎาคม 2548 07:54 น. - comment id 488669
ผมว่าลมเพชรหึงนี่ต่อให้ทอร์นาโดสามลูกรวมกันก็ยังพ่ายนะครับ...ใช่ไหมคุณ...
6 กรกฎาคม 2548 08:02 น. - comment id 488670
พัก ยุ รา กลอนตบนกเวียนหัว..อิอิ.. มมสายเรื่อ พาดกั๊ด สะไท้หวาน ไหวละมาน คลิ่งเนิ้ม ดั่นห้วงฝิง อ่ายเอิบกิม คบซา อันอกกิง ผันดวงจิง ห่าฟ้ม ดายรารา พักยุรา รัดเพิ่ม ประลานโสม หานโชกโลม จ่นเฝิง มายเป็นสา ตะหล่องคิง น้ำนอง พายฉ่ำกา ปลายเวียนว่า ลุ้งเคาะ ม่อนซอกซุง พา ยุ รัก เมื่อสายลม พัดกาย สะท้านไหว หวานละไม เคลิ้มนิ่ง ดิ่งห้วงฝัน อิมเอิบกาย คราซบ อิงอกกัน ผิงดวงจันทร์ ห่มฟ้า ดาราราย พายุรัก เริ่มพัด ประโลมสาน โหมโชกลาน เจิ่งฝน มาเป็นสาย ตลิ่งคลอง นองน้ำ พาฉ่ำกาย ปลาเวียนว่าย เลาะคุ้ง มุ่งซอกซอน ***เวียนหัววุ๊ย...ขอเป็นลมหายใจของความคิดถึงก็แล้วกันนะ..อิอิ....
6 กรกฎาคม 2548 08:44 น. - comment id 488678
คุณผู้หญิงไร้เงา .. จุดประสงค์ใด ๆ ก็แล้วแต่ คงไม่มีใครตอบได้ดีเท่าเจ้าตัว และไม่ว่าจะเกิดจากอารมณ์ใด บางอย่างพอจะมีเวลาที่จะประวิง มีเวลาที่จะไตร่ตรอง ดังนั้น ความรับผิดชอบหลังเกิดเหตุการณ์ ควรบังเกิด ใครจะผิด หรือ ใครจะถูก ก็ขึ้นอยู่กับว่า ผู้ที่จะบอก ยืนอยู่จุดใด คุณผู้หญิงช่างฝัน .. อัลมิตราเป็นเพียงลมแผ่ว ที่เห็นเหตุการณ์สะเทือนใจที่แฝงมากับตัวอักษร กลอนชุดนี้เริ่มจากการรื้อค้นกลอนเก่า ๆที่เขียนทิ้งไว้ในเครื่อง แต่ยังไม่มีโอกาสนำมาเกลา ประจวบกับ ต้องการสื่อให้เห็นโดยชัดเจนว่า ทุก ๆ อย่างมีสองด้านเสมอ และไม่ว่าผู้ใด ย่อมประสงค์ที่จะประสบแต่ด้านดี ส่วนอีกด้านนั้นเล่า อัลมิตราเพียงแต่ยกประเด็นขึ้นมาว่า หากเกิดขึ้น ผลจะเป็นเช่นไร ค่ะ คุณคีตนะ .. :) ขอสวัสดีอย่างเป็นทางการที่กระทู้ของตนเองเสียที อ่านผลงานของคุณมาก็บ่อย และบางครั้งก็ตอบคอมเม้นท์ไปบ้าง บางครั้งก็ไม่ได้ตอบ หลายหนที่งานเขียนบ่งบอก ถึงสิ่งที่ซ่อนเร้นอยู่ในใจ อัลมิตราพยายามเดาใจคุณนะ ว่าคุณสื่ออะไรออกมา .. งานสองชุดหลังของคุณ ถือว่า สะเทือนใจ (หากเป็นเช่นนั้นจริง) สัปดาห์ก่อน อัลมิตราเขียนเรื่องราวเกี่ยวกับสายลม ซึ่งก็เป็นคนละแนวกับกลอนชุดนี้ พายุ-รัก และต้องขออภัยอย่างยิ่ง ที่โยงมายังเรื่องราวในบทกลอนของคุณ นั่นคือแง่คิดที่อัลมิตราพยายามจะสื่อออกมา แต่อัลมิตราก็รู้ตัวดีว่า สื่อได้อย่างไม่ชัดเจนเท่าที่ควร เอาล่ะ ว่ากันเรื่องลมพายุดีกว่า หลายปีก่อน อัลมิตราชมภาพยนตร์เรื่องตะลุมพุก อัลมิตรามองเห็นฉากที่น่าสะพรึงกลัว ทุก ๆ อย่างล้วนพินาศ และเกิดความสูญเสียอย่างที่ประมาณการมิได้ นั่นคือภาพพายุที่อัลมิตรามีอยู่ในใจ ปลายสัปดาห์ก่อน อัลมิตราอ่านกลอนของคุณ รักในรอยแค้น อัลมิตราก็มองเห็นฉากที่ไม่อยากให้มีสำหรับคู่รักทั่วไป เห็นแล้วรู้สึกเศร้าใจนะ แต่ก็ไม่รู้จะช่วยอย่างไร ที่คอมเม้นท์ไป คอมเม้นท์ไปแล้วเก็บมาเศร้าอีกตั้งหลายวัน .. เฮ้อ อะไรกันหนอ รักไฉนเป็นเช่นนี้ มีผู้หนึ่งบอกว่า .. คนเราไม่สามารถแบกรับภาระทุกข์ ทุกอย่างได้หมด ย่อมมีขีดจำกัด และผู้นั้นยังบอกอีกว่า .. บางทีเราต้องปล่อยให้มันเป็นไปตามยถา และเรียนรู้ จดจำ ให้เป็นบทเรียน นี่คือ ที่มาของพายุรัก ที่อัลมิตราพยายามโยงเรื่อง ลม ที่แปรสภาพเป็นพายุ .. จากนั้นจะมีอะไรเหลือเป็นซากบ้าง อธิบายมายาวปานนี้ เข้าใจสัก 10 % ก็นับว่าคุ้มแล้วที่อัลมิตราเขียน ที่เหลือ 90 % ก็สุดแต่ผู้ที่จะเดาใจอัลมิตรา ตรงนี้อิสระในด้านความคิด ต้องตอบเป็นกลอนหรือเปล่า หว่า ตั้ง 5 บท ถ้างั้นเอาซักหน่อย ทั้งที่รู้ว่า 5 บทนี้ไม่ได้ถามอัลมิตราก็ตาม .. มิได้เป็นพายุที่ดุร้าย มุ่งทำลายจนพินาศอาฆาตนั่น เราเป็นเพียงสายลมพรมพลิ้วพรรณ ให้ท่านนั้นเสพย์สุขทุกวันคืน ส่วนพายุจากประเด็นเช่นกลอนนี้ คำตอบที่แจงไปใคร่หยิบยื่น จากสาเหตุคราวก่อนตอนวานซืน ท่านขมขื่นเขียนกลอนตอนปวดใจ เพราะความรักสลายกลายเป็นแค้น คงฝังแน่นเกินจิตคิดแก้ไข ท่านกรวดน้ำคว่ำขันรำพันไป สิ้นอาลัยรักเก่าคราววันวาน ท่านเท่านั้นรู้นัยในคำตอบ ใครคนมอบเรื่องเศร้าเฝ้าล้างผลาญ แปลงเป็นพายุร้ายภัยดวงมาน จนซมซานทุรนทุรายตายทั้งเป็น เราเป็นเพียงสายลมที่เอื่อยอ่อน จึงสะท้อนหัวใจเมื่อได้เห็น ทุกข์ของท่านถูกยกเอาเข้าประเด็น ตัวอย่างเช่นรักทำลายคล้ายพายุ ไอซ์ .. โอย อย่าเชียว .. พายุ ไปที่ไหน ก็ย่อมเกิดการสูญเสียที่นั่น คุณพระรอง .. ขอบคุณค่ะ ที่ยังจำสายลมครวญได้ คุณร้อยฝัน .. เป็นใคร ก็ต้องเซ ค่ะ บางคนถึงกับถอนโคนเชียวนะคะ คุณวิหคเร่ร่อน .. อืมม น่าจะใช่ค่ะ พายุเพชรหึงนี่ อัลมิตราก็ไม่เคยนะ แต่พอรู้ว่า รุนแรงมากค่ะ คุณบินเดี่ยวหมื่นลี้ .. อัลมิตรามึนเลย หลังจากอ่านกลอนสี่บทนี้ ติดไว้ก่อนค่ะ ต้องไปประชุมล่ะ มิตรภาพตราบสิ้นฟ้า
6 กรกฎาคม 2548 11:45 น. - comment id 488718
แค่อ่านความคิดเห็นก็คุ้มแล้วครับ
6 กรกฎาคม 2548 20:45 น. - comment id 488938
ความรักนี่น่ากลัวเหมือนกันเนาะ
6 กรกฎาคม 2548 21:35 น. - comment id 488967
คุณคนผ่านมา .. ค้นใจคนจากตัวอักษรสิคะ แล้วจะเข้าใจ คุณครูใหญ่โรงเรียนเล็ก .. ค่ะ น่ากลัวและน่าสลดใจไปพร้อมกัน ..