ใบข้าวเขียว เลี้ยวเล่นลม พรมพร่างพัด แล้วปลิวปัด ผัดโอนเอน เช่นรำร่าย ละลู่ลิ่ว ระลอกลม ล้มเล่นลาย ขจรขจาย ดั่งหมายแม้น แดนเทวัญ ประหนึ่งนาง อย่างเทวี ศรีอัปสร ร่ายรำฟ้อน อรอนงค์ ทรงเสกสรรค์ จึงอ่อนช้อย ร้อยท่วงท่า สารพัน ระบำบรรณ์ เพื่อบรวงสรวง ปวงเทวา หมู่เขียดกบ ร้องระงม ผสมเสียง ประหนึ่งเพียง เสียงเพลงพิณ จากถิ่นฟ้า กลิ่นดอกไม้ ชายท้องทุ่ง ฟุ้งลอยมา ดั่งสุคนธา ที่เทพไท้ ได้ประพรม กระท่อมน้อย ปลายนา ณ ท้องทุ่ง ดั่งฟ้ามุ้ง ทิพย์วิมาน อันสุขสม ม่านหมอกมัว สลัวสาง ที่พร่างพรม ดั่งม่านฟ้า มาหอบห่ม อาศรมวิมาน เริงระบำ ของใบข้าว ยังก้าวต่อ ยังเริงล้อ ลู่เล่นลม ผสมผสาน แต่ขาดคน บนพื้นนา มาช้านาน เพื่อดูเหล่า ข้าวสราญ ร่านระบำ
25 เมษายน 2548 18:47 น. - comment id 460503
กลอนเพราะจังเลยนะคะ .............อ่านแล้วมองเห็นภาพต้นข้าวสีเขียวที่มีอยู่เต็มทุ่งนาเลย แอบเข้ามาอ่านนิดนึง
25 เมษายน 2548 18:59 น. - comment id 460515
เพราะอ้ะลุง ฝันอ่านแล้วไม่ต้องใช้จินตนาการมากเรย แบบว่า ข้างบ้านเป้นทุ่งนา อุอุ อิจฉาม๊า .. เค้าได้เห็นต้นข้าวทุกวันอิอิ ไปละล่ะ ลุกทะลัก ^^
25 เมษายน 2548 19:20 น. - comment id 460554
ไพเราะมากๆค่ะ มาดูระบำใบข้าวค่ะ
25 เมษายน 2548 19:22 น. - comment id 460556
เห็นภาพดีค่ะ ชอบจังค่ะ พระพรายร่ายรำ ระบำกลางทุ่ง ผกากลิ่นฟุ้ง จรุงท้องนา สะบัดกิ่งก้าน สคราญหรรษา ไสวใบหญ้า จะพาเริงรมย์
25 เมษายน 2548 19:32 น. - comment id 460574
ลมรำเพยแผ่วพริ้ว สยิวใบหญ้า โอนเอนไปอ่อนมา ถลาเล่นลม.... เพราะดีครับ เราก็เคยมองดูยอดข้าวพริ้วไสว อยู่ที่ทุ่งนา บ้านเกิดของพ่อ มองแล้วก็ร้องไห้ เพราะว่าที่ดินตรงใกล้ทุ่งท้องทะเลข้าวนี้ พ่อเราซื้อไว้ จะกลับมาสร้างบ้าน แต่พ่อไม่กลับมาแล้วครับ พ่อไม่สามารถกลับมาที่นี่ได้อีกแล้ว มองข้าว เศร้าใจ
25 เมษายน 2548 20:18 น. - comment id 460642
เริงระบำ ของใบข้าว ยังก้าวต่อ ใจไม่ท้อ ล้อไป ในความฝัน รอคนรัก กลับนา มิช้าพลัน ร่วมสุขสันต์ ในถิ่น แผ่นดินเรา....ฯ กลอนเพราะค่ะ..มาชื่นชมนะคะ..
26 เมษายน 2548 11:12 น. - comment id 460931
ได้อารมณ์ผสมผสานงามงานเขียน ดังล้อเกวียนเวียนหมุนไปไม่ขาดสาย ธรรมชาติช่างรื่นรมย์ชมมิคลาย สุขสบายตามอัตภาพราบเรียบดี
26 เมษายน 2548 13:01 น. - comment id 461026
ใบข้าวเรียวเคียวคอยร้อยรวบรัด ยอดสะบัดตวัดเคียวเกี่ยวกร้อนขาด เหลือแต่ตอคลอนาดาระดาษ ให้ประหลาดกลาดเกลื่อนถูกเฉือนเตียน เพียงตอต้นทนฝืนมิขืนไหว ตอต่ำใต้เตี้ยตัดรอนลัดเลี่ยน เหลือแต่รากตรากตรำรำกระเวียน ร่ายธูปเทียนเทวฤทธิประสิทธิ์พร อีกปูร้อยคอยแคะแกะคาบราก ยิ่งลำบากเบ่งหน่อเกรงตอถอน เห็นน้ำท่าบ่าไหลใกล้รอนรอน ฤๅจะผ่อนผลิแตกแทรกใบดี กระท่อมร้างรวนเรยังเย้โย้ หลังคาโหว่เว้าแหว่งครองแครงคลี่ น้ำฝนหล่นร่วงใส่ไหลลงมี พื้นเอ่อปรี่ป้อแป้จะแย่เอน เคียวโค้งคมกลมกลืนดื่นระดาษ เงื้อผงาดมาดมุ่งกระทุ้งเต้น ตื่นติดตามลามต่อตอระเนน เตรียมกะเกณฑ์กรวบกราบเคียววาบวาว..
26 เมษายน 2548 13:45 น. - comment id 461072
เพราะมาก ๆ เลยค่ะ