กลับสู่มิติธรรมชาติ (Return to the Nature)

ลำน้ำน่าน

แปรธาตุหินดินดานสมานพิภพ
จากสงบสู่อุโฆษโกฏิสมัย
สู่อนันตสภาวะของวันวัย
ตราบอันตรธานอายุขัยสากล
อสุภซากอินทรีย์แตกสลาย
สำรวมกายสังวรซ้อนเหตุผล
แหลกละเอียดเสียดสีสุรีย์ลน
เกิดตัวตนลมหายใจปฐวี
มาจากไหนสายน้ำปรารถนา
จากนภสินธุ์คงคานภาวิถี
มาจุนเจือเอื้อมิตรชีวิตินทรีย์
จบมิ่งเมืองบุรีสิเนรุราช
สายวสันต์พฤกษ์พงพรมดงดอน
ทั่งไร่ข้าววนาดรดกดื่นดาษ
เพื่อสันติอโศกโลกธาตุ
ทุกหยดหยาดวรุณช่วยหมุนวัย
เสียงกระซิบแผ่วลอยอ้อยอิ่งมา
กระซิบค่าปวงสุคันธ์อันอ่อนไหว
คือสารัตถะอุรุวายุไพร
คือลมใจสรรพสัตว์นับอนันต์
นั่นพรายแสงสุริโยอักโขคุณ
ยามอโณทัยมิ่งหมุนสมดุลสรรค์
ปลุกไตรโลกโตรกฟ้าวนาวัลย์
ลบโศกศัลย์หม่นเศร้าร้าวราตรี
ทั้งดินน้ำลมไพรในจักรวาล
สุริยกาลลากรถม้าสารถี
ต่างรังสรรค์ปั้นแต่งแหล่งความดี
สู่อายตนะทรรศนีย์ศรีแผ่นดิน
มหรสพปัจเจกโลกเสกสร้าง
ห่อนเลยร้างเร่งสรรค์สุวรรณศิลป์
ปฐมมิติเรียบง่ายได้ยลยิน
ปลาสนาการมลทินอวิชชา
บางมิติซ่อนเร้นและเป็นไป
ในแรงสั่นหวั่นไหวเพิงภูผา
เพ่งสายน้ำสงบพบภาวนา
อนัตตาอนิจจังพรั่งแซมซ้อน
ทินกรร่อนลับกับเหลี่ยมโลก
วายุโบกเมฆสลายคลายจิตถอน
ฝูงมัจฉาแตกพรายสายน้ำจร
ต่างกอปรอมตะธรรมอันล้ำลึก
กลางมิติธรรมทัศน์สัทธินทรีย์
ธรรมจารีตระหนักภักดิ์ตรองตรึก
ทุกประณีตธรรมคุณหนุนสำนึก
ผลผลึกตกสังขารการปล่อยวาง
ผีพุ่งไต้อุกกาบาตพาดโค้งฟ้า
ดาวเคราะห์ล่วงดาวเหนือลาอุษาสาง
พระจันทร์เคียวเกี่ยวฟ้านานภางค์
ต่างเดินทางอายุขัยหลายพันปี
มิอาจเทียบชีวิตกระจิดกระจ้อย
มนุษย์น้อยสำคัญผิดคิดบัดสี
ความยิ่งใหญ่สูงส่งแค่ผงคลี
แท้ธุลีลอยคว้างกลางจักรวาล
ธรรมสัจธรรมชาติจริยธรรม
ต่างลึกล้ำพร่ำสอนก่อนอวสาน
เทือกขุนเขาแดดบ่มลมพัดพาล
ยังตระหง่านฤาหวาดหวั่นสั่นตามลม
เพราะมนุษย์มั่นคงดำรงจิต
โลกธรรมนิมิตคิดทับถม
อย่าหวั่นไหวอย่าไกวใหลสู่ตม
เพียรเพาะบ่มความสดใสให้ชีวิต
เมื่อสิ้นยุคพระมณีศรีโคดม
เกียรติยศคำชมใดไม่ยึดติด
โลกุตรธรรมนำวิญญาสารทิศ
สู่แดนดิฐพระศรีอาริยเมตไตรย
ด้วยอายตนะพรหมจรรย์ธรรมชาติ
มิติทัศน์อากาศธาตุไศล
ด้วยพรายรุ้งเรืองรองผ่องอำไพ
ด้วยดินบรรพ์ดวงไฟจักรวาล
มิติธรรมชาติปราชญ์มนุษย์
บริสุทธิ์เหนือหล้าอัครสถาน
เพื่อปรมัตถ์พุทธินทรีย์อภิญญาณ
ตราบสิ้นโลกอวสานนิพพานเทอญฯ
--------------------------------
ลำน้ำน่าน บุรุษแห่งสายน้ำ
วันอังคารที่ ๑๙ เมษายน ๒๕๔๘

				
comments powered by Disqus
  • )))**--ผลิใบสู่วัยกล้า--**(((

    20 เมษายน 2548 07:17 น. - comment id 456426

    แวะมาเป็นกำลังใจให้นะ
    
    
  • บินเดี่ยวหมื่นลี้

    20 เมษายน 2548 09:22 น. - comment id 456461

    คงเหมือน จากสูงสุดสู่สามัญ เหมือนกันนะท่าน..
    
    **แวะมาทักทายครับ
  • ฤกษ์ ชัยพฤกษ์

    20 เมษายน 2548 11:36 น. - comment id 456578

    แวะมาชื่นชม เก็บไว้ด้วย
  • แก้วนีดา

    20 เมษายน 2548 11:42 น. - comment id 456581

    ขึ้นอยู่ที่ดวงจิตของใคร
    จะคิดกันได้เลือกทางเดิน
    จะพบทางสงบพบทางต้องพเชิญ
    ก็ด้วยดวงจิตที่คิดจะเดินกันไป
    
    แอบมาชื่นชมการเขียนกลอนของ ลำน้ำน่นอีกครั้งค่ะ.........ได้อ่านก็ชื่นใจที่ยังไม่ทิ้งความหมายดีๆของธรรมะ........ขอบคุณมากค่ะที่ยังมีข้อคิดดีๆนำมาฝากให้ได้อ่านกันเสมอมา......แล้วจะติดตามอ่านต่อไปค่ะ ลำน้ำน่าน.
    
    
  • เพรง.พเยีย

    20 เมษายน 2548 13:27 น. - comment id 456639

    งดงามเสมอค่ะ
    .
  • sun strom

    20 เมษายน 2548 15:00 น. - comment id 456672

    แต่งได้เพราะมาก ๆ ค่ะ
    ขอเก็บไว้ด้วยนะคะ
    
    ชอบมาก ๆ 
    
    
    
  • วิสกี้ เลอ ฟองเบียร์

    20 เมษายน 2548 15:01 น. - comment id 456673

    งดงาม ยามอ่าน ดังต้องมนต์
  • ดอกข้าว

    20 เมษายน 2548 15:23 น. - comment id 456694

    ดาวดวงแรกในห้วงมหาจักรวาลคือดวงไหน?
    
    อนันตกาลมีจริงหรือ?
    
    แล้วอายุขัยหลายพันปีสำคัญไฉน?
    
    ความยิ่งใหญ่.. อะไรคือเกณฑ์?
    
    นักปราชญ์มิได้บอกเลยว่าตัวเขาเองฉลาดสุดมิใช่หรือ?
    
  • ผู้หญิงไร้เงา

    20 เมษายน 2548 15:38 น. - comment id 456700

    งดงามมากเลยค่ะ แวะมาชื่นชมในผลงานนะค่ะ
  • คนเมืองลิง

    20 เมษายน 2548 16:17 น. - comment id 456728

    งดงามด้วยภาษาที่ไพเราะค่ะ ชื่นชมผลงานคุณเสมอค่ะ
  • กุ้งหนามแดง

    20 เมษายน 2548 16:28 น. - comment id 456744

    ธรรมชาตินี้อัศจรรย์ยิ่งนัก...
    น้อยคนนักจะค้นพบน่ะค่ะ...
    
    ยิ่งค้นยิ่งห่าง...ปล่อยวางอาจพบบ้างกระมัง..ค่ะ
    
    ...
  • ชัยชนะ

    20 เมษายน 2548 17:04 น. - comment id 456770

    จินตนาการที่เสกสรรค์เป็นเลิศ
    
    งดงามทุกอย่างครับ
  • ลำน้ำน่าน

    20 เมษายน 2548 21:58 น. - comment id 456941

    ผลิใบสู่ไวกล้า บินเดี่ยวหมื่นลี้ พี่ฤกษ์ เพรง พเยีย Sun Stom  วิสกี้ เลอฟองเบียร์ พี่ชัยชนะ คนเมืองลิง กุ้งหนามแดง และผู้หญิงไร้เงา
    
    ขอบคุณมากครับที่แวะเข้ามาให้กำลังใจและติดตามอ่านงานเขียนเสมอมา ถือเป็นกำลังใจในการเขียนงานต่อไปครับ 
    
    สำหรับดอกข้าว
    ดาวดวงแรกในห้วงมหาจักรวาลคือดวงไหน?
    คำตอบ คือไม่ทราบครับ อาจมีผู้ทราบบ้างในบ้านเรือนไทยนี้ครับ
    
    อนันตกาลมีจริงหรือ?
    คำตอบ  อันนี้ก็ไม่ทราบครับ อาจต้องเจอเองจึงจะทราบ ในทัศนคติผม เป็นองค์ความรู้ในแง่พุทธศาสนา งานชิ้นนี้จึงสื่อปรัชญาในแง่ศาสนาครับไม่สามารถบอกได้ว่าจริงหรือไม่จริง ผมคิดว่าเป็นทัศนคติส่วนบุคคลครับ
    
    แล้วอายุขัยหลายพันปีสำคัญไฉน?
    คำตอบ ในงานเขียนผม อายุขัยหลายพันปีสื่อความถึงการดำรงอยู่ก่อนของดวงดาวและจักรวาล และบัดนี้ก็ยังตั้งอยู่ และไม่มีทีท่าจะเปลี่ยนแปลงง่ายๆ ถ้าเทียบกับชีวิตมนุษย์แล้วอายุเฉลี่ยแล้วไม่เกินร้อยปี จึงถือได้ว่าอายุสั้นกว่าดวงดาว และจักรวาล  ส่วนจะสำคัญอย่างไรก็ขึ้นอยู่กับว่าผู้ใดจะมีปัญญามองเห็นปรัชญาแล้วเอาไปเปรียบเทียบด้านไหนในชีวิตตนเอง ครับ ด้านที่สร้างสรรค์และเป็นประโยชน์ เป็นการเปรียบเทียบในด้านบวกนั่นเอง
    
    
    ความยิ่งใหญ่.. อะไรคือเกณฑ์?
    คำตอบ  ความยิ่งใหญ่ในทัศนคติของมนุษย์มีเกณฑ์วัดหลายอย่าง ไม่เหมือนกัน หรืออาจจะคล้ายกันในหลายๆ คน เช่นใช้เงิน ใช้ผลงาน ใช้ความสามารถ ใช้วัตถุเงินทอง ในทัศนคติของผมความยิ่งใหญ่ใช้จิตใจ และปัญญาในแง่พุทธศาสนาเป็นตัววัดครับ 
    
    
    นักปราชญ์มิได้บอกเลยว่าตัวเขาเองฉลาดสุดมิใช่หรือ
    คำตอบ อันนี้ก็ไม่ทราบอีกเช่นกันครับนักปราชญ์ฉลาดสุดหรือไม่ แต่เท่าที่ทราบก็คือสังคมยกย่องให้นักปราชญ์เป็นบุคคลที่น่ายกย่อง และรอบรู้กว่าคนอื่นหลายๆ คน แต่จะฉลาดสุดหรือไม่นั่นก็คงตอบไม่ได้ครับ ถ้ามองในแง่บวกก็คงฉลาดสุด แต่ถ้ามองในแง่อื่นก็อาจเป็นไปได้ว่ามีอย่างอื่นรอบรู้และฉลาดกว่านักปราชญ์  แล้วแต่ว่าเราจะเลือกมองแบบไหนเพื่ออะไร และได้อะไรจากการคิดและการมองแบบนั้นครับ  คงจะไม่เหมือนกันทุกคนไป
    
    งานเขียนแต่ละชิ้นของผมแนบชิดอยู่กับบทปรัชญาในพุทธศาสนา ในแง่ของพุทธศาสนิกชนที่ดีและยึดหลักธรรมต่างๆ เหล่านี้มาตีแผ่ หลายอย่างจึงไม่มีคำตอบ ว่าทำไมต้องเป็นแบบนั้นแบบนี้ เว้นเสียแต่จะได้เจอกับสิ่งเหล่านั้นจริงๆ จึงจะตอบและอธิบายได้ครับ ส่วนนัยแล้วก็พยายามคิดในแง่บวกและสร้างสรรค์เข้าไว้ตามหลักวิญญูชนครับ
    
    
    
    
  • แก้วประเสริฐ รหัส 6104

    20 เมษายน 2548 22:36 น. - comment id 456971

    จตุรธาตุสี่ซ้อง           เวียนวน
    เสริมก่อร่างกายตน       แม่นแท้
    จิตนำสู่ธาตุกมล             แยกยิ่ง   ชอบนา
    ละวางสิ่งติดแล้               สู่ห้วงนิพพาน.
    
            เป็นงานที่งดงามแฝงไว้ด้วยปรัชญาสร้างสภาวะธรรมสู่อนาคต  ยอดเยี่ยมจริงๆสมแล้วเป็นยอดกวีชายแห่งยุค
    
                          แก้วประเสริฐ.
    
  • ดอกข้าว

    21 เมษายน 2548 00:08 น. - comment id 457037

    ต่อกันยาวอีกนิดครับ.. ดอกข้าวชอบคิด และชอบคนที่แสดงความคิด
    
    ตามหลักของวิญญูชนสอนให้เรามองแต่แง่บวกจริงหรือป่าวดอกข้าวไม่รู้นะครับ..
    
    เพียงแต่ดอกข้าวมองในโลกของความเป็นจริง
    
    ในเมื่อโลกของเรามันมีทั้งบวกและลบ..
    
    แล้วทำไมเราไม่มองทั้งสองอย่างแล้วหาข้อสรุป..
    
    ดอกข้าวบอกตามตรงนะครับว่า..
    
    นอกจากศิลห้าแล้ว.. ก็ไม่ได้รู้อะไรอีกมากมาย
    
    ดอกข้าวคิดว่าพุทธองค์ท่านไม่ได้ตั้งใจจะสอนให้คนเราท่องจำคำของท่านหรอกครับ..
    
    หลักที่พุทธองค์ท่านสอนมันมีอยู่ในธรรมชาติหมดแล้ว.. เพียงแต่ท่านเป็นผู้ที่สามารถที่จะสื่อ หรือนำออกมาจากส่วนนั้นได้.. 
    
    ท่านเป็น ศาสดา.. 
    
    ส่วนเรื่องของดวงดาวหรือห้วงแห่งจักรวาล.. 
    
    มนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่ไม่รู้จักพอ
    
    คำถามที่ผมถาม.. ผมคิดว่าเคยมีคนถามพุทธองค์ท่านไปแล้วในสมัยพุทธกาล และพุทธองค์ท่านก็ได้ตอบมาแล้วด้วย
    
    ผมเชื่ออย่างนั้น.. 
    
  • ลำน้ำน่าน

    21 เมษายน 2548 00:33 น. - comment id 457048

    .............เพียงแต่ดอกข้าวมองในโลกของความเป็นจริงในเมื่อโลกของเรามันมีทั้งบวกและลบ..
    แล้วทำไมเราไม่มองทั้งสองอย่างแล้วหาข้อสรุป..
    
    ข้อคิดเห็นผม ทุกคนมีโลกความเป็นจริงข้างนอก ส่วนภายในใจคือโลกส่วนตัวครับ รับแง่บวกไว้ก็เป็นสุขภายในใจ รับแง่ลบไว้ก็อาจจะเป็นทุกข์ภายในใจ  สรุปว่าจะรับแบบไหนนั้นก็แล้วแต่ผู้เลือกรับครับ สุขใจในแบบที่ตัวเองสุข 
    
    ดอกข้าวรู้แต่เพียงศีลห้า ก็คงจะได้แค่นั้นความรู้ในพุทธศาสนามีเหนือกว่าศีลห้าอีกมากมายครับ สนใจก็ลองศึกษาดูอาจจะได้ความรู้ใหม่ๆ เพิ่มเติมก็ได้ครับ 
    
    ...........ดอกข้าวคิดว่าพุทธองค์ท่านไม่ได้ตั้งใจจะสอนให้คนเราท่องจำคำของท่านหรอกครับ..
    หลักที่พุทธองค์ท่านสอนมันมีอยู่ในธรรมชาติหมดแล้ว.. เพียงแต่ท่านเป็นผู้ที่สามารถที่จะสื่อ หรือนำออกมาจากส่วนนั้นได้.. 
    
    ข้อคิดเห็น ผมเห็นด้วยครับ
    
    ..................ท่านเป็น ศาสดา.. 
    ส่วนเรื่องของดวงดาวหรือห้วงแห่งจักรวาล.. 
    มนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่ไม่รู้จักพอ
    คำถามที่ผมถาม.. ผมคิดว่าเคยมีคนถามพุทธองค์ท่านไปแล้วในสมัยพุทธกาล และพุทธองค์ท่านก็ได้ตอบมาแล้วด้วย
    ผมเชื่ออย่างนั้น.. 
    
    ข้อคิดเห็นผม  มนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่ไม่รู้จักพอเหรอ ไม่ทราบครับ พอในแง่ใน พอสำหรับอะไร คงต้องแยกแยะเป็นประเด็นๆ ไปครับสำหรับตัวผมเองคิดว่ารู้จักพอในบางอย่างและไม่พอในบางอย่างครับ
    
    ส่วนห้วงจักรวาลนั้นผมไม่ทราบครับ 
    
    โดยส่วนตัวแล้วผมเชื่อว่าทางโลกกับทางธรรมนั้นแยกออกจากกันครับ จุดมุ่งหมายต่างกัน ผสมกันเมื่อไหร่ก็จะหาคำตอบให้แต่ละทางไม่เจอครับ จะเลือกมองแบบบวกหรือลบดีก็ไม่ทราบ ผมเชื่อเช่นนั้น
    
    คงต้องถามผู้รู้ทางธรรมในบ้านหลังนี้ครับ เพราะผมก็รู้แค่นิดเดียวเอง ส่วนมากเป็นทัศนคติส่วนตัวของตัวเองหมดเลยครับ ไม่อาจให้คนอื่นถือเป็นบรรทัดฐานสากลได้ครับ
    
    ขอบคุณดอกข้าวที่ร่วมแสดงความคิดเห็นกันในแง่นี้ครับ 
    
  • พรพระจันทร์

    21 เมษายน 2548 18:54 น. - comment id 457674

    แวะมาชมผลงานของพี่ลำนำน่านน่ะค่ะ 
    ยังงดงามและหมดจดเหมือนเดิม 
    พระไพศาล วิสาโล  ท่านเป็นนักเขียน 
    มีผลงานน่าสนใจหลายเรื่อง แต่ยังไม่มี
    โอกาศได้อ่านเลยอ่ะน่ะค่ะ 
    สำหรับพรพระจันทร์คิดว่า 
    
    ธรรมะ คือ ส่วนหนึ่งของธรรมชาติ 
    ธรรมชาติ คือธรรมะ 
    ธรรมชาติ คือ อสูร 
    ธรรมชาติ คือ ผู้สร้างและผู้ทำลาย 
    
    มนุษย์ ไม่สามารถหลุดพ้นจากหห้วงทุกข์ ส่วนหนึ่งก็มาจากธรรมชาติของมนุษย์ 
    มนุษย์ ที่หลุดพ้นจากห้วงทุกข์ มาจากการเข้าใจในธรรมชาติ ความลับของธรรมชาติ 
    มีคำตอบอยู่ใกล้ๆ แต่ใครล่ะที่จะค้นพบ และกลายเป็นผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน 
    เพื่อออกจากระบบ...สังสารวัฏ
     
    
    เป็นกำลังใจให้เสมอคะ 
    
    
    
  • นี

    23 เมษายน 2548 09:40 น. - comment id 458947

    ธรรมชาติก็คือธรรมชาติ มีการเปลี่ยนแปลงได้เสมอ...
    
    แวะมาเยี่ยม และชมผลงานค่ะ

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน