ม่านไทร

นกตะวัน


สายมากแล้ว แสงแดดส่องจ้าขึ้น เราย้ายเสื่อเข้ามาปูชิดติดขอบสนามฟุตบอล เพราะมีร่มเงาของต้นไทรใบเล็กบังแดดให้เรานั่งหลบกันอย่างสบาย ไทรต้นนี้ขึ้นแทรกอยู่กลางหมู่ต้นกระถินณรงค์และมีผลสุกเล็กๆกระจายอยู่เต็มต้น จึงเชิญชวนให้นกกิ้งโครงชนิดต่างๆแวะเวียนกันมาเกาะจิกกินไม่ขาดระยะ ผมจึงไม่แปลกใจเลยทำไมนกกิ้งโครงเหล่านี้จึงเข้ามารวมฝูงหากินในสนามกีฬากลาง ระหว่างรอนก ผมจึงมองดูรากไทรย้อยที่ห้อยลงมาไปพลางๆ
รากไทรย้อยห้อยมาระย้าต่ำ			
แลสวยล้ำราวม่านลมผ่านไหว
แสงแดดส่องต้องสบกระทบไป		
เคลือบทองใสแสนสวยด้วยเหลือบมัน
พื้นหญ้าพลิ้วปลิวพัดปัดรากแกว่ง		
ลมพัดแรงเร่งไกวรากไหวสั่น
ดุจผ้าห่มพรมแพรแลเลื่อมนั้น		
ใครหนอสรรค์เสกเจ้าเราจ้องมอง
หรือกินรีที่สนานสำราญนั้น			
ถอดผ้าพันพาดไม้มิให้หมอง
แต่ลืมไปไม่คว้าผ้าใส่ครอง			
ด้วยนวลน้องกินรามารีบไป
คือรากไทรใหญ่ย้อยห้อยไม่ยั้ง		
ดิ่งตรงดั่งดูดดินกินแดดใส
แต่งลำต้นล้นหลั่งสะพรั่งใบ			
สวยเกินใครเคียงหญ้าระย้างาม
เรายังคงปักหลักอยู่ใต้ต้นไทรต้นนี้ เพราะเป็นมุมที่ดีที่สุดที่เราสามารถยกกล้องส่องดูนกบนยอดไม้แห้งยอดนั้นได้อย่างชัดเจนเพราะไม่ย้อนแสง เรารออยู่ไม่นานนักนกชนิดใหม่ของไทยที่นายปูพึ่งพบเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมานี้ คือ นกกิ้งโครงปากแดง (Red-billed Starling) จึงบินลงมาเกาะโชว์ตัวบนยอดไม้แห้ง แต่เกาะอยู่เพียงแปลบเดียวเท่านั้น จึงเห็นสีสันยังไม่ค่อยชัด แล้วนกบินจากหายไป รอเท่าไรมันก็ไม่บินกลับมาอีกเลย
เมืองนกกิ้งโครง 4
16 มกราคม 2548				
comments powered by Disqus
  • กอกก

    13 เมษายน 2548 08:40 น. - comment id 452805

    อ่านแล้วนึกถึงไทรงามที่พิมายค่ะ
    ไม่ได้ไปมานานแล้ว
    ขอบคุณที่ช่วยให้ระลึกถึงสิ่งที่ดีๆ
    
    สวัสดีวันสงกรานต์นะคะ
  • 4895_tiki unlogged_in

    13 เมษายน 2548 10:00 น. - comment id 452824

    แวะมารดน้ำคุณนกตะวัน
  • คนเมืองลิง

    13 เมษายน 2548 16:38 น. - comment id 452925

    นึกถึงเพลงนี้เลยค่ะ..รักใต้ร่มไทร
    
    ช..เห็นไทร
    พลิ้วใบ เมื่อต้องลม
    ชี้ชวน ให้เจ้าชม
    พรอดรัก พรรณา
    ญ..ม่านไทรย้อย
    ห้อย ระย้า
    พาร่มเย็น เหมือนหนึ่งเป็น
    วิมาน เมืองฟ้า
    ช..ลม โชย หวล
    มวลดอกไม้ นานา
    หอมไม่เกิน ไปกว่า
    นวล แก้ม น้อง
    ญ..อุ๊ย อย่าต้อง
    ของ หวง ห้าม
    ช..พี่เชย เพียงนิด
    ไย น้องปิด ห้ามปราม
    ญ..มิควร หยาบหยาม
    ช..ชม เพราะความเสน่หา
    ญ..อายฟ้าดิน เถอะพี่ขา
    ช..ดวง ตา ฟ้า ดิน
    นั้นควร จะอิจฉา
    ท่านหาความรัก ไม่ได้
    ญ..คำ ช่างหวาน
    ฮึม ฮืม ฮืม
    นาน คงเบื่อ ลืมเยื่อไย
    ช..รัก ฮึม ฮืม ฮืม
    พี่นี้มาจาก ใจ
    เปรียบปาน ร่มไทร
    ใหญ่และ ยั่งยืน
    
    ญ..แม้ม้วยดิน สิ้นโลก
    ไทร โยก คลอน
    รักอาจถอน กลาย เป็นอื่น
    ช..รักเดียว แน่ๆ
    ญ..เดี่ยวแปร ขมขื่น
    ช..สาบาน ต่อหน้า
    ญ..รักอย่า เป็นอื่น
    ช..มิยอม มีอื่น
    ญ..งั้น ชื่น ปรางได้
     ( พร้อม ) ณ ร่มไทร
    สอง ดวงใจ
    ขอวอน สวาทให้ ยั่งยืน
    เหมือนไทร ที่ร่มรื่น
    ชื่น สุข เสมอเอย...
    
    
    
     
      
     
     
    

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน