บ้านของเราเช่าไว้เฉพาะชายโสดอยู่รวมกันล้วนๆ ภายใต้เงื่อนไขที่ใช้บังคับให้ทุกคนต้องเฉลี่ยค่าเช่า, ค่าอาหาร โสหุ้ยอื่นๆ ตลอดจนแรงงานในอัตราครือๆกัน เพื่อจรรโลงเรือนปั้นหยาสับปะรังเคนั้นให้เป็นโลกลูกน้อยๆ อันอบอ่นที่สุดเท่าที่สามรถจะทำได้ พวกเราหนุ่มๆทุกคน ตละล้วนฝังหัวแน่วแน่ในลัทธิประชาธิปไตย เราเคยคิดกันว่า ในเวลานี้คำว่า Democracy ในการเมืองชักจะ อ่านออกเสียงให้ฟังเป็น The-most-crazy ไปทุกทีเสียแล้ว จึงมามั่วสุมลงความเห็นกันเป็นเอกฉันท์ว่า ในการบ้านของเรานี้ ลองมาปลุกปล้ำสร้างประชาธิปไตยสมบูรณ์แบบกันสักตั้งดูทีหรือ และเพราะว่าเราศรัธาแน่วแน่ในอุดมการณ์อันที่ว่า บ้านชายโสด ของชายโสด โดยชายโสด อันนี้เอง เราจึงอยู่กันสืบมาตราบจนบัดนี้ด้วยความร่มเย็นเป็นสุขภายในบริเวณเล็กๆของเรา เราดำเนินการตามระเบียบในระบอบประชาธิปไตยทุกอย่าง ตั้งแต่ระบบเลือกนายกของบ้านเป็นผู้นำทุกๆปี เลือกมนตรีว่าการ ทำกับข้าว, ว่าการกวาดบ้านและล้างส้วม, ว่าการดายหญ้าที่สนามและล้างท่อน้ำเน่า, ว่าการคลังคือมีหน้าที่เที่ยวทวง และบ้างทีก้อปล้ำเอาเงิน จากทุกคนมารวมกันจ่ายค่าบ้าน ค่าน้ำ ค่าไฟฟ้าทุกๆวันต้นเดือน แต่ละคนของเราต้องมีภาระผูกพันต่อกันและกันทั้งนั้นตามหน้าที่ ซึ่งประชุมใหญ่ออกเสียงลงมติกำหนดมอบหมายให้แต่ละคนต้องช่วยตัวเองและช่วยคนอื่นๆพร้อมกันไปด้วย การที่เรารู้จักหน้าที่ของตนและเข้าใจในภาระรับผิดชอบต่อความเป็นปึกแผ่นต่อบ้านนนี้เอง ทำให้อาณษจักรน้อยๆ ของเราไม่เคยเกิดการคอร์รับชั่นขึ้นเลยสักครั้ง แต่ก็มีอยู่บ้างหรอกในบางกรณีที่เราจะต้องคอร์รับชั่นกับคนนอกบ้าน เป็นตนว่าในยามฐานะการเงินตกต่ำฝืดเคื่อง เราจำต้องแต่งทูตที่ช่างเจรจาออกไปใช้เลห์ลิ้นทำสัมพันธไมตรีกับมหาอำนาจ ตาชั้นเดียวที่ตั้งร้านขายเครื่องชำอยู่หัวแง่ เพื่อเชื่อเหล้า บุหรี่ กาแฟ และอาหารแห้งๆ มาบรรเทาท้องของประชาชนใน บ้านชั่วครั้งชั่วคราว ทว่าเราคอร์รับชั่นหรือ? รัฐบาลเองท่านยังเป็นหนี้ต่างประเทศนับร้อยๆล้าน เราแค่กระหยิบมือเดียวเอง ไฉนจะเป็นหนี้ชนต่างประเทศสักเดือนละห้าหกร้อยบ้างไม่ได้? ก็เมื่อบูชาประชาธิปไตยโดยสุจริตแท้เช่นนี้ เราจึงมีธรรมนูญของเราขึ้นบ่งระบุสิทธิและหน้าที่ของเราให้ละเอียด ชัดแจ้งลงไป ธรรมนูญฉบับนี้เรามิได้ขอร้องจากผู้ใด และมิได้ร่างแล้วซ่อนไว้ใต้ภาชนะอะไรให้เป็นเรื่องสัปดน เราพร้อมใจกันเปิดประชุมและร่างขึ้นเองประกอบด้วยหมวดและมาตราต่างๆ ไม่สั้นเจิ่นเจ่อและไม่ยาวฟุ้งเฟ้อนัก มาตราสำคัญๆมี อาทิ บ้านชายโสดเป็นอาณาจักรอันแบ่งแยกมิได้แม้จะด้วยอิสตรีก็ตาม และมาตราที่กำหนดอายุสมาชิกภาพไว้ว่าจะสิ้นสุดลงเมื่อตาย ลาออกไปอยู่ที่อื่น และมีเมีย เป็นต้น เพียงเท่านี้ท่านก็คงวาดเค้าได้รางๆแล้วว่าธรรมนูญปกครองของเรามีรูปโฉมไปทางไหน พูดสั้นๆ ธรรมนูญของเรามิได้เต็มไปด้วยคำมั่นสัญญาซึ่งไพเราะโลมใจ แต่เต็มไปด้วยข้อเท็จจริง บ้านของเรา ประกอบด้วยสมาชิกชายโสด 7 คน สมุนพระรามปุลลึงค์ 1 ตัว หมาที่ซื่อสัตย์เท่าๆกับความทนอด อย่างพวกเรามนุษย์ๆ 1 ตัวและนกกระจอกซึ่งมาอาศัยชายคาบ้านป็นเสรีรัฐอีกฝูงหนึ่ง ติดกับพรหมแดนซ้ายของเรา เป็นคฤหาสน์หลังมโหฬารของท่านผู้ดรเก่าร่ำรวยมหาศาล แต่ขี้เหนียวอย่างจับสังเกตุได้ง่ายนิดเดียวตรงการที่ปล่อยให้คฤหาสน์ นั้นอับเฉาเซาซึมเหมือนป่าดงดิบในดงพระยาเย็น ช่างเป็นสิ่งที่หน้าประหลาดมหัสจรรย์อะไรเช่นนั้น ที่ขณะที่บ้านของเราคลาคล่ำ ไปด้วยผู้ชายหนุ่มๆ คฤหาสน์ของเจ้าคุณคนนั้นสิ คับคั่งไปด้วยผู้หญิงสาวๆ หน้าขาวปากแดงลานตาไปหมด พวกคุณเธอดังกล่าวเป็นลูกท่านหลานโตเป็นสาวไล่ๆเลี่ยๆกันของเจ้าคุณเศรษฐี สิ่งที่หน้าพศวงไปกว่านั้นก็คือ นานๆ ครั้งวันดีคืนดี พวกคุณเธอๆจึงจะออกมาปรากฎกายนวยนาดในที่แจ้งให้เราเห็น คล้ายกับว่าเป็นสัตว์เลี้ยงที่ถูกกักกันอยู่แต่ ในกรงทองของจารีตประเพณีคร่ำครึ ในเวลาเย็นๆเมื่อพวกเรากลับจากงานมาสุมหัวด้วยกัน เราจะเล่นสนุกสนานกลางแสงแดดอ่อน แบดมินตันบ้าง, ตะกร้อบ้าง, ไล่ปล้ำกันบนผืนหญ้าดกชอุ่มบ้าง เหมือนเด็กเล็กๆ ตามโรงเรียนคินกาเดอร์กาเต็น แต่พวกคุณ เธอเพื่อนบ้านของเรากลับหมกตัวอยู่ภายในคฤหาสน์ทึบๆ ปิดประตูหน้าต่างเสียจนหมดแทบทุกบานก็ว่าได้ คฤหาสน์ของท่านเจ้าคุณนี้สูง ตั้งตระหง่านจนพวกคุณเธอสามารถแอบเมียงมองจากชั้นบนเฝ้าดูเรากระโดดเล่นเฮฮากันอย่างเต็มไปด้วยชีวิตชีวาได้ถนัด แต่ข้าพเจ้า ไม่อาจเดาได้ว่า คุณเธอเหล่านกำลังเกลียดขี้หน้าหรือกำลังอิจฉาเราอยู่ในใจ ข้าพเจ้าเกือบจะลืมเล่าสิ่งสำคัญไปประการหนึ่ง ครัวของคฤหาสน์หลังนี้อยู่ชิดติดกับรั้วซึ่งห่างจากระเบียงบ้านของเราราว 1 วา แม่ครัวของท่าเจ้าคุณมักจะทอด หรือปิ้ง หรือปรุงอาหารอันวิเศษล้ำอยู่เสมอ กลิ่นฟุ้งของมันจึงจรุงขจายกรุ่นกรายมาเตะจมูกพวกเรา จนพากันกลืนน้ำลายเอื้อกๆไม่เว้นวัน ในยามปลายเดือนซึ่งกับข้าวกับปลามื้อเย็นของเรามีได้อย่างมากเพียงน้ำพริกผักต้มและแกงจืดซ้ำซาก เราต้องมามุงกันแน่นที่ระเบียง ในมือถือชามข้าวและสูดเอากลิ่นอันจรวยชวยชื่นด้วยมนต์ไก่อบบ้าง เนื้อย่างบ้าง พริกขิงบ้าง จะละเม็ดเจี๋ยน พิราบทอดบ้างเหล่านั้นเข้าไปในจมูกให้สอดคล้องกับจังหวะกลืนน้ำพริกฝืดๆคอ เป็นการช่วยเพิ่มรสโอชาแก่ชิวหาโดย มิพักต้องซื้อหามาสิ้นเปลือง ยามหิวโหย กลิ่นของกับข้าวราคาแพงประหนึ่งว่าจะซึมซาบอาบเอมเข้าไปในวิญญาณของเราทีเดียว เสียงน้ำมันที่เดือดฉ่าๆรอบชิ้นไก่หรือปลากะพงช่วยให้กรอบอร่ามนั้นฟังเสนาะดั่งทิพย์ดนตรี มีอยู่บ้างบางวัน ขณะที่พวกเรามุงกันเสพสูดกลิ่นอันโอชะมูลค่าฟรีเหล่านี้อยู่เพลิน ท่านเจ้าคุณจะโผล่งหน้าออกมาจากหน้าต่าง ครัวและถมึงตาเข้นมาที่พวกเราทีละคนๆ ด้วยประกาย ถ้าจะกล่าวเป็นวาจาก็คงจะฟังได้ว่า ไป๊-ไปให้พ้น อ้ายพวกโจร! แกกำลังปล้น ความร่ำรวยและสวัสดิมงคลไปจากฉัน! กลิ่นปลาดุกอุยย่างตัวนี้เป็นสมบัติของฉันเท่านั้น แกไม่มีสิทธิอะไรจะมาสูดมันเข้าไปในท้องกิ่วๆ ของแก ไป-อ้ายกระยาจก! แต่ทั้งที่ใช้ชีวิตอยู่กินกันอย่างข้นแค้น พวกเราทุกคนก็ยังเต็มไปด้วยความร่าเริงแจ่มใสและพลานามัยที่แกร่งกำยำเหมือนลำต้น กิ่งก้านของตะแบก มันเป็นเพราะว่าพวกเรามักออกไปสู่แดดและลมทุกๆวัน บางทียามค่ำเย็นเราจะล้อมวงกันเล่นดนตรี นายจอมเป็นมือไวโอลีน ที่ไม่เลว เจ้าเชิดคล่องแบนโจ สรัชก็ไม่ใช่ขี้ไก่ในเชิงชักแอกคอร์เดียน อาคมถึงจะเพิ่งหัดจับแซ็กโซโฟน แต่ก็เป่าสวิงพอที่จะโซโลได้เร้าใจ ข้าพเจ้าถนัดกีตาร์ และอีก 2-3 คนแม้ไม่ประสีประสาในดุริยางคศาสตร์ก็พอจะดีดยูคูลีลีตอดจังหวะกล้อมแกล้มไปกันได้ทุกครั้งที่เราเล่นดนตรี เรามักจะอยู่ในอารมณ์ที่เหมือนใจลอยลิ่วจากโลกไปสำราญอยู่ ณ ที่หนึ่งซึ่งระริกไปด้วยเสียงสรวลสันต์ของนางไม้ และกลิ่นพิไลของประวาลพฤกษ์ หัวเราะ เป็นสมบัติชิ้นเดียวที่เรามีอยู่และที่เราหยิ่งภาคภูมิ มันทำให้เห็นความจนเป็นความหวัง, ความหิวเป็นของขบขัน และ ความแพ้เป็นมานะ จอมเป็นคนช่างหัวเราะ ดูเหมือนเขาเกิดมาเพื่อหัวเราะแท้ๆ และถ้าตายไป หัวเราะก็คงทำริมฝีปากที่ไร้วิญญาณของเขาให้งดงาม เหมือนกลีบมะลิ บางครั้งเมื่อเขาผิดหวังจากงานกลับมาเขาจะเข้าไปในห้องกลาง ยืนก๋าหน้ากระจกบานใหญ่ ตีหน้าตาแปลกๆ ยั่วตัวเองไปมา แล้วระเบิดหัวเราะเหมือนได้ดูแชบปรินมาทำตลกอยู่ข้างหน้า พลางวิ่งเข้าห้องโน้นออกห้องนี้แพร่เชื้อโรคหัวเราะของเขาให้ระเบิด ไปในหมู่พวกเรา ในความลำเค็ญ เราจะหาความสุขจากการหัวเราะได้โขทีเดียวถ้าเรารู้จักปลุกอารมณ์ขันของเราเป็น เป็นต้นว่า ในวันท้ายๆของ เดือนวันหนึ่ง ระหว่างที่ทุกคนหน้าแห้งไปตามความแห้งของกระเป๋านั่งจับเจ่ากันอยู่ที่ระเบียงบ้านั้นเอง เจ้าเชิดจะกลับจากงาน เดินส่ายไหล่อาดๆ ทำข้อกาง ในมือหิ้วห่อใหญ่น่าสงสัยห่อหนึ่งเข้ามาอย่างสง่า อะไรนะเชิด? ซื้อเสื้อเชิตมาใหม่หรือ? ใครคนหนึ่งถาม กันลืมบอกพวกแกไป เชิดตอบอย่างไม่สนใจให้ตรงคำถามนัก ว่าวันนี้เป็นวันเกิดของกัน เพิ่งนึกขึ้นได้เมื่อตอนออกจากกระทรวงนี่เอง เลยซื้อเป็ดสองตัวติดมือมาสำหรับฉลองกันตามมีตามเกิด เฮ้ย ใครเครดิตยังดี วิ่งไปเจรจาเอาโขงร้านอ้ายฮงมาสักขวดปะไร โซดาอย่ากินกันเลย เอาน้ำแข็งตบตูดดีกว่า แต่- - จอมขัดพลางกลืนน้ำลาย เมื่อเช้าไหนนายว่ามีทรัพย์อยู่สามบาทเท่านั้นยังไง ทำไมตอนเย็นเสือกรวยพอซื้อเป็ดมา ตั้งสองตัวล่ะหว่า? อ้ายเชิดโบกไม้โบกมือหัวร่อร่า คนเราเกิดมาไม่ได้มีปากไว้กินข้าวกินเหล้าอย่างเดียวนี่หว่า ถึงคราวจำเป็นมันต้องรู้จักใช้ปาก ทำหน้าที่ขอหยิบยืมเพ่อนฝูงบ้างซี นายตุลย์-ช่วยไปเอาโขงมาเรวๆทีเถอะ ติดบุหรี่มาสักสามซอง น้ำแข็งก้อนใหญ่ๆสักก้อนด้วย พอแม่โขง, บุหรี่ และน้ำแข็งมาถึง พวกเราก็รู้สึกไปตามๆกันว่า ลำคอที่ผากเป็นผุยผงเมื่อกี้ชักเริ่มจะมีน้ำลายมาหล่อเลี้ยง บ้างแล้ว เรามองอย่างไม่กะพริบตาเมื่อเชิดเริ่มแก้ห่อเป็ดในมือ ห่อถูกเปิดออก อ้ายเวร! แมวดำๆตัวผอมหยองกรอดตัวหนึ่งกระโดดแผล็วออกมา เจ้าเชิดกระโดดตัวลอยตบมือหัวเราะฮ่าๆ เมื่อเห็นพวกเราพากันยืนตะลึงพรึงเพริดอ้าปากค้างไปตามๆกัน จอมเป็นคนแรกที่โจนเข้าจะเตะก้นเจ้าเชิด แต่เสือนั่นระวังตัว กลัวประชาทัณฑ์จะเล่นงานอยู่ก่อนแล้วจึงหลบทันแล้ววิ่งปุเลงหนี ไปรอบๆบ้าน จอมไล่กวดไม่ลดละ พวกเราที่ล้อมวงอยู่ก็หัวเราะเฮฮาติดหมัดกันขึ้นทุกที ความกลัดกลุ้มที่สุ่มเร่าอยู่ในใจเมื่อกี้หายดั่งถูก ปลอดทิ้งออกไป โลกที่ขุ่นมัวเป็นโคลนตมกลับเต็มไปด้วยสีสันอันเฉิดฉายอีกวาระหนึ่ง นี้แระคือความสุขของคนจนๆ! อีกครั้งหนึ่งไม่นานมาเท่าไรนี้ เราถังแตกกันขนาดต้องแบ่งสันปันข้าวเย็นกินกันคนละไม่ถึงครึ่งที่ว่างในกะเพาะ มันเป็นค่ำคืนที่ ทุรนทุรายไปด้วยความโหยแสบใส้ ข้าพเจ้าพยายามเอากีต้าร์ออกมาดีดเพื่อให้ทุกคนสนใจในเพลงจะได้ลืมหิวไปชั่วคราว แต่ดีดไม่กี่นาที ก็มีเสียงสบถ เสียงคำราม และเสียงถอนหายใจดังขึ้นรอบๆข้าง ตกลงกันเราแยกกันเข้านอนคืนนั้นด้วยอารมณ์ที่อยากจะตะโกนด่าท้องฟ้า และดวงดาว ขณะที่เรานอนพลิกกลับกระสับกระส่ายไปมา พยายามข่มตาให้หลับนั่นเอง เราก็ได้ยินเสียงครางเบาๆ ฝ่าความเงียบเข้ามา ทีแรกเราไม่สนใจ คิดว่าไม่ขรัวไหนก็ขรัวหนึ่งละที่อ่อนแอต่อความหิว กระทั่งร้องให้ไม่รู้จักอายเหมือนเพศที่นุ่งนิวลุค แต่เสียงนั้นยิ่งดังขึ้นทุกที คล้ายคนกำลังเจ็บหนักจวนสิ้นใจ จอมลุกขึ้นเปิดไฟและเดินไปที่เจ้าของเสียงในห้องถัดกันไป เป็นอะไรไม่ทราบจ๊ะ พ่อเทวดาอาคม? เขาถามเสียงเขียว ดันเป่าปี่อยู่ได้ โธ่-เดี๋ยวพอเตะตกเตียง! โอย-โอยเจ็บเหลือเกิน อาคมคราง เรา คนอื่นๆจึงลุกขึ้นพร้อมกันขมีขมันไปดูอาการป่วยกะทันหันของเพื่อน จอมถามว่า เจ็บตรงไหน? ที่ท้องอาคมตอบแผ่วๆ กัน- -อ้า- -กันมีท้อง นี่คงใกล้จะออกลูกเต็มทีแล้ว ช่วยไปตามหมอตำแยที ออกลูก! มีท้อง! พวกเราร้องอึงขึ้นพร้อมกัน ฮ้า- -ก็นายมันเป็นผู้ชายนี่หว้า ไหงจะดันไปมีท้อง? จริงๆ....ไม่ใช่พูดเล่น กันตั้งครรภ์มานานแล้ว แต่กันอายเลยปิดพวกแก อาคมสารภาพหน้าเซียว เรามองดูท้องของเขา จริงๆ น่ะแหละ มันตุ่ยโตออกมาผิดปกติ จอมก้มลงถามว่า มีท้องกับใคร อาคม? กับผู้หญิงหรือผู้ชายว่ะ? ไม่ได้มีกับพวกแกแน่ๆ อย่าตกใจที่จะต้องเป็นผัวกันเลย เขาตอบพลางเอามือปิดหน้า กันเสียตัวกับคนคนหนึ่ง แต่- -อย่า เพิ่งรู้เลย กันอายจิงๆ ทำไมแกรู้ว่าท้องหล่ะ มันอาจปวดท้องก็ได้-อาจหิวเกินไปก็ได้ จอมขัด ลองเอามือจับดูซี เด็กข้างในกำลังดิ้น จับดูแล้วแกจะได้รู้สึกสักทีเดียว พวกเราเอามือลูบไล้ไปเบาๆ บนเสื้อตรงหน้าท้องของเขา นรกช่วย! มือของเรารู้สึกว่ามีอะไรสิ่งหนึ่งซึ่งมีชีวิตดิ้นอยู่หน้าท้องนั้นจริงๆ แล้วมนุษย์ผู้จู่ๆ ก็มีสภาพคล้ายอิลราชา ยันกายอย่างอ่อนโรยขึ้นนั่ง เขาถอดเสื้อออก เปิดให้พวกเราเห็นท้องซึ่งมีผ้าคาดไว้รอบๆ กันพันไว้แน่นไม่ให้มันป่องออกกมา กันขายหน้า- -! เขาชี้ที่ผ้า และค่อยๆแก้มันออก ยังไม่ทันผ้าจะถูกปลด กบตัวหนึ่งก้อ กระโจนออกมา ตัวเจ้ามารยาถลันพรวดหนีออกไป พวกเราบ้างคนถึงกับนอนลงกลิ้งซัดเสียงอหายเพราะความขัน จอมกับอีกสองสามคนไล่กวดรวบตัวอิลราชาสมัยใหม่ไว้ได้ พาแบกขึ้นไหล่เฮกันไปที่สระน้ำหลังบ้าน แล้วร่างของอาคมก็ถูกโยนลิ่วลงกระทบน้ำในสระดังตูมใหญ่ คืนนั้นเราคิกคักกันไปมาจนดึกไม่รู้สรางขัน เราม่อยหลับไป พร้อมกับฝันอันงดงาม ไม่มีใครบ่นอุธรณ์ถึงข้าวเย็นกันอีกเลย หัวเราะนี้แหละเป็นยาขนานวิเศษสำหรับรักษาความทุกข์ของคนจนๆอย่างเรา! เวลาได้ล่วงผ่านไปพร้อมกับเราสังเกตเห็นว่า คุณเธอสาวๆ เพื่อนบ้านของเรานับวันจะซูบเซียวผ่ายผอมลงทุกที จณะที่เราซึ่งยากจน กลับกระปรี้กระเปร่าและกระชุ่มกระชวยด้วยชีวิตชีวา หน้าตาพวกเราสดใสและเรื่อด้วยเลือด ขณะที่คุณเธอบ้านนั้นเหลืองและตอบลง บางครั้งเราได้ยินเสียงไอในตอนกลางคืนดังแว่วมา เริ่มด้วยเจ้าคุณไอโขลกๆ ก่อน ครู่เดียวแทบจะทั้งบ้านก็ไอกันเสียงแหบเสียงแห้งไปตามๆกัน มันฟังคล้ายเสียงสุนัขที่หอนเยือกเย็นน่าขนลุกดังมาแต่ไกล เรารู้ว่าเพื่อนบ้านในคฤหาสน์ใหญ่เหล่านั้น มิได้ผ่ายผอมซูบซีดลงด้วย การขาดอาหารแต่อย่างใด เพราะแทบทุกวัน เรายังได้กลิ่นหอมละไมของอาหารร้อนๆ ลอยฟุ้งตลบมาจากครัวของเขาเช่นเดิม วันหนึ่งเป็นวันปลายเดือน ภาวะเศรษฐกิจของเราทรุดหนักกว่าทุกๆครั้ง ทูตของเราที่ส่งไปเจรจาเปิดสินเชื่อกับมหามิตรร้านหัวมุม ก็หน้าเหยกลับมาด้วยความล้มเหลว ตกเย็นเราจึงหุงข้าวเปล่าเต็มหม้อแล้วกระเย้อกระแหย่งกันชูคอ สูดกลิ่นอันเรียกน้ำลาย ให้สอชุ่มลิ้นจากห้องครัวข้างบ้านกันแน่นขนัด ครู่เดรยวท่านเจ้าคุณก็โผล่หน้าออกมาที่หน้าต่าง แสยะปากจ้องพวกเราอย่างจะกินเลือดกินเนื้อ ทีละคนเป็นเวลานาน จนพวกเราพากันใจเต้นไปตามๆกัน ครั้นแล้วท่านก็ปิดหน้าต่างครัวนั้นกระแทกดังปัง! แต่อาหารอันโอชารสในครัวเบื้องหลังหน้าต่างปิดสนิทนั้นยังส่งกลิ่นระรวยชวยมาเอื้อเฟื้อพวกเราอย่างช่วยไม่ได้ ประเดี๋ยวเดียวเท่านั้น ตำรวจนายหนึ่งก็เดินลงสันปังๆ เข้ามาในบ้านเรา และแจ้งว่าสารวัตรขอเชิญเจ้าบ้านไปยังโรงพักโดยด่วน ในข้อหาว่าการปล้นสมบัติของท่านเจ้าคุณเจ้าของคฤหาสน์ติดๆ กัน สมบัติอะไรหว่า? เชิดเกาหัวแกรก ร้องถาม อ้าย - - อ้าว-คุณอย่าพูดหยาบคายกับเจ้าพนักงานซี ตำรวจขัด ไปโรงพักเถอะ อย่าร่ำไร เจ้าทุกข์เขารออยู่ที่นั่นแล้ว หรือคุณขัดขืนเจ้า หน้าที่? เขาทำท่าทางงัดกุญแจมือออกมา จอมร้องว่า ฮะ ทำไมเฮี้ยบนักล่ะ พี่ชาย พวกเราไม่ใช่อาชญากรนา ไป-พวกเรา-ไปโรงพัก! เมื่อเดินขบวนไปถึงโรงพัก เราก็พบข้อกล่าวหาจากท่านเจ้าคุณว่า พวกเราในบ้านชายโสดได้ทำการปล้นสมบัติส่วนตัวจากบ้านท่าน มาเป็นเวลาหลายปีแล้ว! ท่านสารวัตรเองก็ทำหน้าเหมือนกินกาวผสมเหล้าโรงเข้าไปเหมือนกัน เมื่อโดนแจ้งความอันยากจะเข้าใจอันนี้ แต่ในหน้าที่ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ ท่านจำเป็นต้องเรียกตัวพวกเรามาให้การแก้ข้อกล่าวหาของเจ้าทุกข์ตามระเบียบ เรานั่งลงบนเก้าอี้ยาวข้างหน้าสารวัตร ถัดเราไปเป็นแถวของเจ้าคุณกับลูกสาวสี่ห้าคนซึ่งล้วนผอมโกโรโกโสเหมือนไม้ไผ่ และเซียว เหลืองเหมือนไก่ต้ม ทุกๆ ใบหน้าเต็มไปด้วยริ้วรอยของโรคพยาธิและความละเหี่ยระโหยในชีวิต ว่าไงพวกคุณ - - สารวัตรเปิดฉาก ท่านเจ้าคุณท่านนี้มาแจ้งความว่า พวกคุณทำการขโมยและปล้นสมบัติส่วนตัวจากท่านไป - - อะไรไม่ทราบครับ สมบัติส่วนตัว? จอมถามงง เจ้าคุณลุกพรวดเหมือนกับโทสะที่อัดมานานได้ระเบิดขึ้นแล้ว ท่านเชี้หน้าพวกเรา ร้องด้วยเสียงแห้งๆ ว่า อย่ามาทำไก๋ พวกแกนี่ แหละ อ้ายหัวขโมย แกปฏิเสธหรือไม่ปฏิเสธล่ะว่า เวลาที่คนครัวของฉันปรุงอาหาร พวกแกไม่ได้มายืนออใกล้ๆครัว ขโมยเอากลิ่นอาหาร อันมีค่าของฉันไปหมด สารวัตรสะดุ้งเหมือนผวาในผันร้าย จอมยิ้มกว้างตอบว่า พวกผมไม่ปฏิเสธครับ ผมรับว่าผมสูดกลิ่นอาหารอันโอชะที่ลอยมา จากครัวของใต้เท้าเข้าไปในปอดจริงๆ น่าน! น่าน! เจ้าคุณเต้นเขนเหมือนออกโขน สารวัตร!ฟังซี ผู้ต้องหายอมรับสารภาพแล้ว จดไว้ซี - - แล้วท่านก็หันมา ทางพวกเรา แกจะปฏิเสธหรือไม่ปฏิเสธว่า ขณะที่ผู้คนในบ้านฉันซึ่งร่ำรวยมั่งคั่งพากันผอมแห้งอมโรคไปตามๆกัน พวกแกที่ยาก ๆ จน ๆ กลับแข็งแรง มีอานามัยดี เพราะเหตุที่ว่าพวกแกแย่งเอาความสุขไปจากบ้านฉันอย่างอุกอาจ? ผมไม่ปฏิเสธ จอมตอบ ท่านสารวัตร เจ้าคุณร้องพลางไอแค็งๆ ผู้ต้องหาสารภาพหมดสิ้นแล้ว จับมันเดี๋ยวนี้ แต่- - ท่านสารวัตรขอรับ จอมลุกขึ้น ก่อนที่จะจัดการอย่างหนึ่งอย่างใดกับพวกผมลงไป ผมขอพูดกับท่านเจ้าคุณและคุณสาวๆ เหล่านั้นสักนิดได้ไหม? ไม่ขัดข้อง สารวัตรตอบสั้น จอมเดินอย่างผึ่งผายไปหยุดตรงหน้าเจ้าคุณและคุณสาวๆที่ผอมสูบกลุ่มนั้น ท่านกล่าวหาว่าพวกผมขโมยสูดกลิ่นอาหาร และขโมยความสุขสำราญไปจากบ้านท่าน จนพวกผมคนจนๆ พากันอ้วนท้วนแข็งแรง และพวกท่านเองกลายเป็นกุ้งแห้งลงทุกวันๆ ใช่ไหมครับ? เจ้าคุณหน้าเขียว สะบัดเสียงว่า ใช่ ถ้าเช่นนั้น พวกผมจได้ชำระชดใช้ค่ากลิ่นอาหารและค่าความสุขคืนแก่เจ้าคุณเดี๋ยวนี้ เขาเดินกลับมาที่พวกเรา พลาง หยิบหมวกใบหนึ่งหงายขึ้นแบออกมา เอ้าพวกเรา ควักสตางค์ทั้งหมดในกระเป่าใส่ลงไปในหมวกใบนี้ เราทำตามอย่างเดาไม่ถูกว่าจอมจะไปไม้ไหนแต่เราก็ควักธนบัตรบ้าง เศศสตางค์ห้าบาทบ้าง ใส่ลงไปในหมวกใบนั้นทั่วทุกคน ครั้นแล้วจอมหันไปทางสารวัตรที่เบิ่งตาโพลงมองดูเหตุการณ์อยู่ ท่านสารวัตรผู้ทรงความยุติธรรม ผมได้ปล้นกลิ่นอาหารและขโมย ความสุขจากบ้านท่านเจ้าคุณจริง แต่ผมจะชำระตอยแทท่านให้ดูเดี๋ยวนี้ โปรดเป็นพยานด้วย เขาเดินกลับไปที่หมู่เจ้าคุณแล้วเขย่าหมวก เสียงสตางค์ดังกรุ๋งกริ๋งกระทบกันกราวไปหมด เจ้าคุณและคุณสาวๆ แหงนหน้าเอียงฟังเสียงนั้นอย่างงงงวย จอมถามคุณเธอคนหนึ่งว่า คุณได้ยินแล้วไม่ใช่หรือครับ? เธอไอสองสามโขลกแล้วจึงพูด ได้ยินอะไรคะ? เสียงของเงินของผมน่ะซี ได้ยินค่ะ ถ้าเช่นนั้น ผมก็ได้ชำระหนี้ค่ากลิ่นอาหารและกลิ่นความสุขให้แก่พวกคุณด้วยเสียงของเงินนี้เรียบร้อยแล้ว สารวัตรทุบโต๊ะปัง เลิกแล้วกันไป! พวกคุณพ้นข้อหา พอโขยงของเจ้าคุณพากันยกขึ้นรถยนต์กลับไป สารวัตรที่กลั้นอึดอัดอยู่จนคับอกก็ปล่อยก๊ากออกมาเสียงอหาย คนเราแม้ยากจนข้นแค้นเพียงไรก็สามารถหาความสุขเลิศล้ำได้จากการหัวเราะทุกเวลานะท่าน! ชี้แนะด้วยนะฮ่ะ
5 เมษายน 2548 14:59 น. - comment id 449586
โอ้ย...................เรื่องสนุกมากจ๊ะ............แต่ว่า.............มันยาวไปหน่อย.........เลยทำให้ต้องเสียเวลาในการอ่าน........อิอิอิ.........ขอสั้นลงสักนิดก็จะดีนะจ๊ะ.........ว่าขอ..............ขำก่อนนะ..............ก๊ากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ.................. ก็อ่านแล้วขำนะ...........สนุกดีจ๊ะขอชม....เข้าใจเขียนเรื่อง......อิอิอิ.........พอปะมาบอกแค่นี้นะ...........ไม่พอเอาไว้มาบอกใหม่นะค่ะ.......เอิ้กๆๆๆๆๆๆๆๆๆยังขำอยู่นะจ๊ะ.
5 เมษายน 2548 16:49 น. - comment id 449661
ยังไงก้อขอขอบคุณฮ่ะที่อุตสาอ่านจนจบแน่ะ