เป็นอย่างไรสุขซำบายดีบ่แม่ คนเฒ่าแก่บ้านเฮาอยู่จั่งใด๋ ผู้ใหญ่บ้านเพิ่นผ่านดูแลไป หรืออย่างไรบอกลูกให้ได้ฮู้ อยู่ทางนี้มีแต่หนาวจนจับจิต ให้หวนคิดฮอดนาไปชั่วครู่ ตาจับจ้องมองกระดานตามคุณครู หวังอุ้มชูชื่อบ้านด้วยการเรียน อนาคตวาดไว้งามวิจิตร แต่มืดมิดบางคราวเรื่องอ่านเขียน แต่ก็คอยริเริ่มอย่าติเตียน ด้วยใจเวียนหวนคิดติดท้องนา ผืนนาเฮางามคือเก่าบ่น้อพ่อ อย่าพึ่งท้อหากทำแล้วบ่เพิ่มค่า หากเก็บเกี่ยวยังไม่ได้เลยราคา เก็บรอท่าลูกไว้ในยุ้งเรา สิกลับไปเยี่ยมบ้านคอยนานหน่อย เวลาน้อยไปบ่บ่อยเหมือนใครเขา ด้วยภาระหน้าที่คนยังเยาว์ กอบโกยเอาความฮู้คู่ความดี คำพ่อสอนแม่สั่งยังจำได้ แม้อยู่ไกลอย่าลืมหลงให้คงที่ ให้สั่งสมหมั่นเฮ็ดแต่ความดี เอาสิ่งนี้คุ้มครองตนพ้นภัยพาล
3 เมษายน 2548 18:56 น. - comment id 448708
= = = = = = = = = = = = = = = = = ชอบทั้งเนื้องานและภาพงาม ๆ ค่ะ = = = = = = = = = = = = = = = = =
3 เมษายน 2548 19:02 น. - comment id 448714
ซึ้งจังเลย อ่านแล้วคิดถึงบ้านเหมือนกัน คึดฮอดเฮือนหลังน้อยที่คอยรัก คึดฮอดนักพาข้าวแลงแหล่งอาหาร คึดฮอดหลายพ่อแม่แต่บ่นาน จะกลับบ้านก้มกราบท่าน ณ บ้านเฮา จะถึงสงกรานต์แล้วกลับบ้านกันเถอะค่ะ เนาะๆ
3 เมษายน 2548 19:11 น. - comment id 448719
บ้านไหนๆ ก็ไม่สุขใจเหมือนบ้านเราน่ะค่ะ.. ..
3 เมษายน 2548 23:07 น. - comment id 448805
ลำนำราชพฤกษ์ลาลาน ปรารถนาบุปผารัตนโกสินทร์ ยามหอมรินมนต์กวีศรีอีสาน เหลืองละมุนอุ่นรวีดอกคลี่บาน แต่งแต้มลานลาแล้งระแหงดิน เกสรร่วงกาลล่วงห้วงสำนึก ราชพฤกษ์ดอกไม้สร้อยทองศิลป์ เคยคล้องคอหน่อข้าวเหนียวเสี่ยวชาวดิน บอกพื้นเพ...วศินถิ่นบ้านนา ลมเดือนห้าแล้งลาที่ราบสูง ดอกยางยูงร่วงลิ่วทิวไผ่หนา เมื่อวันพรุ่งจะโบกไหวใบหล่นลา แหล่ะกลีบคูนตะแบกป่าจะล้าโรย ฤาเสียงแคนแผ่นดินสิ้นมนต์ขลัง เมื่อนกป่านิราศรังทั้งหิวโหย จากเสี่ยวกินเสี่ยวตายอ้ายโอดโอย เมื่อลมร้อนอีสานโบยโชยอัตคัด ลานสวรรค์ลานนาดูว้าเหว่ เรือนซังเซทุกข์ร้อนหนี้ผ่อนผัด ดอกคูนหนุ่มไปรุ่งเรืองเมืองวิวัฒน์ ควายกำดัดมัดขวิดลมอยู่ซมเซา บักเสี่ยวเอ๋ยเอ็งก็รู้ว่าปู่ย่า แก่ชราป่วยไข้ใจหงอยเหงา อีกหยูกยารักษาไปไม่บรรเทา โรครุมเร้าเศร้าซึมคิดถึงเอ็ง ทั้งโหวดหวิวพิณเดี่ยวเสี่ยวเคยเล่น ต้องลำเค็ญอ้างว้างร้างเสียงเปล่ง เคียวเหน็บเสาสนิทหนาวร้าวเส็งเคร็ง ยิ่งเร้าเร็งความหมายที่ตายแล้ว แล้งปีนี้หนักหนาฟ้าขมุกขมัว ด้วยฝุ่นดินเปื้อนทั่วทุกทิวแถว ลอยไปเปื้อนขอบฟ้าท้องนาแนว วัวควายเอ็งไม่แคล้วต้องล้มตาย ปิดตำนานลูกข้าวเหนียวบักเสี่ยวเอ๋ย วันเวลาล่วงเลยไร้ความหมาย เอ็งอยากมีเงินทองกองมากมาย จุดสุดท้ายสูญเสียจิตวิญญาณ คูนบ้านนาบานสะพรั่งพร่ำมนตรา เถิดคืนมากล่อมบรรเลงเพลงอีสาน รับมาลัยคล้องร้อยสร้อยดอกจาน แหล่ขับเพลงพื้นบ้านของแผ่นดิน เหลืองรวีฝนสีทองผองบักเสี่ยว เจือดอกเสี้ยวบุปผารัตนโกสินทร์ คือมนต์ขลังลาวนาแห่งวารินฯ สาดสายศิลป์ทิพย์เกสรสู่ม่อนเมือง ลำนำเศร้าราชพฤกษ์ยามดึกนี้ ธารน้ำตายังไหลปรี่ตราบฟ้าเหลือง บักเสี่ยวเอ๋ยหากอยู่ไหนไม่รุ่งเรือง หยุดฝันเฟื่องกลับมา ณ บ้านเรา ฝันสีทองคูนเหลืองแม้เรืองหล้า แม้แต่ฟ้าขลิบทองก็หมองเหงา สิ้นบักเสี่ยวเปลี่ยวใจไม่เห็นเงา ปลาร้าเน่าปลาแดกหอมก็ตรอมแล้ว! ---------------------------------- เมื่อลมแล้งมาเยือน...ดอกไม้แห่งอีสานบ้านนาก็บานไสว ดอกไม้หน้าแล้งมีความหมายเป็นเอกลักษณ์เฉพาะถิ่น ทำให้ข้าพเจ้าประหวัดไปถึงดอกคูน หรือ *ราชพฤกษ์* ดอกไม้ประจำชาติสยาม สีเหลืองทอง ผลิดอกคลุมต้นในฤดูคิมหันต์ ราวสายฝนสีทองในหน้าแล้ง ดูอัศจรรย์ที่ฝนสีทองไม่ทำให้น้ำเจิ่งนอง เขียนบทกวีแทนใจมิ่งมิตรอีสาน ในนามบักเสี่ยวแห่งทุ่งนาและลอมฟาง บอกเล่าเรื่องราวแห่งความประทับใจและความเศร้าในยามนี้ ลำนำราชพฤกษ์ลาลานจึงมุ่งให้มิ่งมิตรชาวอีสานผู้ทิ้งถิ่น ได้กลับไปเยือนผืนแผ่นดินมาตุภูมิในยามสงกรานต์เทศกาล กลับไปรับฟังปัญหาและความทุกข์ยากของผองมิตรบนที่ราบสูง ที่บางคราวอาจจะถูกทิ้งและหลงลืมไปกับกาลเวลา กลับไปซับน้ำตาบรรพบุรุษ และสืบทอดประเพณีอันดีงาม เป็นพลังสำคัญในการขับเคลื่อนความหมายแห่งวัฒนธรรมแผ่นดิน ไม่เป็นคนหลงลืมรากเหง้าปู่ย่าตายาย อยู่สุดหรูอยู่ในเมืองวิวัฒน์ บทกวียังมุ่งให้เห็นคุณค่าของบักเสี่ยวและญาติสนิทมิตรสหาย ตราบใดที่ดอกคูนสีทองยังบานแต่งท้องทุ่งอยู่ทุกคิมหันตฤดู ตราบนั้นจงเชื่อมั่นว่ายังไม่อับจนหนทาง.... แด่ *บักเสี่ยว บักสิเด๋อ* แห่งสำโรงบ้านนา อุบลราชธานี หากมีโอกาสจักกลับไปชื่นชมดอกคูนโปงลางและเสียงแคนอีกครั้ง *หมายมั่นสัญญา*
4 เมษายน 2548 00:13 น. - comment id 448850
ค่อย ๆ เป็นค่อย ๆ ไปนะอืม กลิ่นไอท้องทุ่งมุ่งมั่นหมาย
4 เมษายน 2548 11:10 น. - comment id 448966
เขียนได้ดี แถมมีลำน้ำน่านตอบยาวน่าอ่านอีกค่ะ
4 เมษายน 2548 14:28 น. - comment id 449116
ไกลบ้านมา... แม้ห่างไกลกันเท่าไหร่...ยังหวนคิดถึงบ้านนาท้องทุ่งอยู่เสมอค่ะ...
4 เมษายน 2548 17:14 น. - comment id 449204
อยู่ที่ไหนก็ไม่เท่าบ้านเราเลยเนอะ เวลามีเรื่งให้ร้องใจก็ยังมีพ่อแม่มีท้องทุ่งเป็นกำลังใจ สวัสดีคะ ขอบคุณนะคะที่แวะไปติชมกลอนเขาลองแก้ไขดูแล้วนะคะ
28 มิถุนายน 2548 20:57 น. - comment id 485655
ฉันไม่ลืมแกหรอกจะหาทางเล่นเน็ทด้วยนะอย่าห่วงไปเลยฉันเข้าใจแกแต่ตอนนี้ก็โตแล้วก็ต้องหัดใช้ชีวิตด้วยตัวเองถ้าคิดถึงบ้านมากๆก็ร้องไห้บ้างนะการเป็นผู้ใหญ่ไม่จำเป็นต้องกลั้นร้องไห้หรอก ฟ้าหลังฝนย่อมสวยงามเสมอ
28 มิถุนายน 2548 21:05 น. - comment id 485662
ถึงแกจะกลับบ้านไม่ได้เพราะอยู่คนละทวีปแต่วันนึงแกก็ต้องได้กลับมาแน่นอนความทุกข์ของแกฉันขอแบ่งมาไว้นะขอให้แกรู้ว่าฉันคิดถึงแกอยู่เสมอไม่ได้ลืมอีก4ปีเรากลับมาเจอกันตอนเป็นผู้ใหญ่นะ พยายามเข้าอย่ายอมแพ้ล่ะ