โลมฟ้าเพียงดิน ..๏ยลโฉมหยาดพร่างฟ้า...............ฤาดิน แม่เอย งามดั่งหงส์เหิรบิน...............................เยี่ยมฟ้า จิตป่วนฤทัยกวิน.................................สุดคลั่ง จริงแฮ สวยอร่ามมิหาญกล้า............................เอ่ยน้องปองสมร ฯ วอนรักสุดไขว่คว้า..................นงเยาว์ แนบกลิ่นกายทำเอา.............................คลั่งไคล้ หอมยากเอ่ยมธุรสเรา..........................มอบแด่ นางเอย ไฉนยิ่งหลงใหลไซร้.............................สู่เจ้างามสงวน ฯ ลมหวนโชยผ่านพลิ้ว...............คนึงครวญ ซาบซ่านรักรัญจวน..............................เปี่ยมล้น จิตแสนป่วนโหยหวน............................ไหวหวั่น มากนา หอมกลิ่นอบอวลซึ้ง...............................เร่าร้อนตลึงแล ฯ บุหลันลอยกระจ่างฟ้า.............โลมดิน แสงสว่างสุดระริน.................................ทั่วหล้า เปรียบดุจดั่งชีวิน..................................นวลส่ง ขจรฤา มอบรักบรรเจิดจ้า.................................ผ่านฟ้าแดนสรวง ฯ โถใยรักสั่นพลิ้ว........................จิตใจ เจียวนา แนบแน่นฤทัยใน....................................อ่อนล้า พึงคิดซ่านจิตไป.....................................ลอบพร่ำ ถึงแม่ ฝันใฝ่อันเจิดจ้า.......................................ห่อเหี่ยวฤทัยแด ฯ มวลกฤษณาแห่งหล้า.....................ราตรี โชยช่างเปรมฤดี.....................................ยิ่งแท้ ไฉนใยป่วนชีวี.........................................ยากก่อ สุขแฮ กระเจิ่งแนวรักแม้.....................................เบิ่งห้วงกำจาย ฯ กายทรุดลงอ่อนล้า.........................ตรึกปอง ยากผ่อนฤทัยหมอง..................................ป่วนร้าว นงนุชเอ่ยทำนอง.....................................รักพี่ ฤาลวง เปรียบบ่วงผูกมัดน้าว...............................ห่อนเร้าสุมทรวง ฯ นางเอยขอมุ่งเจ้า.......................ทางใจ ยากที่หาหญิงใด.....................................ใฝ่ข้า เพียงคิดก่อเกิดไป...................................มอบแม่ จริงนา ขอส่งดวงหทัยล้า.....................................แด่น้องตลอดกาล.๚ะ๛ ๙๙๙ แก้วประเสริฐ. ๙๙๙
28 มีนาคม 2548 16:29 น. - comment id 445689
เปรียบบุหลันจรัสจ้า ท่ามหมู่ดาวที่รายล้อม ความรักงดงามเพียงใด ใครๆก็อยากไขว่คว้า ครั้นรุ่งแจ้ง แสงแห่งทิวา บททัศนาเมื่อคืน ก็ เลือนลาง ..
28 มีนาคม 2548 16:46 น. - comment id 445699
ตอบถ้อยพี่ชายของน้องแก้ว กลอนรักเพริดแพรวถวิลหา บอกรักแอบแนบใจให้มา ตัวน้องน้อยยังคอยมองหาแต่พี่ชาย แอบมาอ่านโคลงไพเราะของ แก้วประเสริฐ์ค่ะ.........ว่าแต่ยสโฉมใครหนอ......
28 มีนาคม 2548 17:13 น. - comment id 445706
คุณแก้ว...อะไรจะขนาดนั้นคะ!!!!....อาการแบบนี้...น่าเป็นห่วงนะคะ....แฝดเพื่อน...นางในฝัน...ของแฝดเพื่อน..คงจะมีเสน่ห์มากจริงๆ...ทำเอาเพื่อนเรา...หลงละเมอเพ้อพก..ได้ถึงขนาดนี้....อยากรู้จังเลย!!!....เขาผู้นั้นเป็นใครหนอ?.....ราชิกา...จะช่วยอะไร?..คุณได้มั้ยคะ.... ชักเริ่มเป็นห่วงแล้วนะเนี่ย.... ....ทำใจให้สบาย...ยุบหนอ!!..พองหนอ!!!..เอาทางพระเข้าข่มจิตใจนะคะ....เดี๋ยวก็หายค่ะ....
28 มีนาคม 2548 17:50 น. - comment id 445718
กล่าวถึงได้งามนักครับ... ทั้งคำทั้งความหมายเกินบรรยายแม่เอย... ชายได้ได้ชิดเชย วาสนาล้ำ......
28 มีนาคม 2548 22:56 น. - comment id 445867
มาอ่านโคลงของมิตร แว่วเสียงวอนรักเสียจนหวานเจี๊ยบๆ
29 มีนาคม 2548 07:00 น. - comment id 445946
เขียนได้งดงามมากเลย แวะมาเป็นกำลังใจให้นะครับ
29 มีนาคม 2548 09:38 น. - comment id 445997
งานคุณแก้วงามแพร้วพรรณรายยิ่งขึ้นทุกวัน ราวทรัพย์ในทรวงอนันต์ค่า รอเวลามาแย้มหวานให้ตระการตาตระการใจ ตระการยิ่งใหญ่ดับโลกแล้งไร้ค่ะ พรแสวง..ด้วยแรงรักจริงๆเลยค่ะ พุด.. คิดถึงเพลงคุณชินกรไกรลาส ยอยศพระลอ เมื่ออ่านงานงามล้ำค่าบทนี้ ทว่าไม่มีในบทเพลงไทยโพม เลยขอฝากเพลงข้างล่างนี้ แทนศรัทธาใจและชื่นชมนะคะ http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=1752 เพชฌฆาตใจ ชินกร ไกรลาส : : Key Fm น้อง เอ๋ย ใครเขาเคยเหมือนพี่บ้างไหม ช้ำ ช้ำ เท่าไหร่ พี่เป็นแผลใจ ใคร จะเห็น เจ็บเท่านี้เจ้ายังทรมาน หรือเป็นพรานล่าใจ ผลาญหัวใจใครเล่น หรือเจ้าเป็นเพชฌฆาต ที่เชี่ยวชาญ โปรดฆ่าพี่เสีย อย่าอ้างเอ่ยความสงสาร จงประหารถ้าแม้ว่าเจ้าไม่รัก ฮืม ฮืมฮืมฮืมฮืมฮืม อิเหนา เอ๋ย เคยรักนุชบุษบา พี่ หลงไหลยิ่งกว่า พี่สัญญาได้ ในเรื่องรัก ปวดและช้ำในดวงฤดี เหมือนดังมีมีดคม ฝังใจจมเจ็บหนัก รักของเจ้าฆ่าพี่อย่างเลือดเย็น พี่เจ็บดวงใจคงไม่มีใครเล็งเห็น เวร นี่เวรเธอเห็นพี่เป็นเช่นไร ฮืม ฮืมฮืมฮืมฮืมฮืม...
29 มีนาคม 2548 13:09 น. - comment id 446088
มาชื่นชมก็ว่างามแล้วนา แต่ทำไมอัลมิตราว่าไปวัดตอนสายยังไม่ได้ต้องไปแต่มืด อิอิ
29 มีนาคม 2548 13:19 น. - comment id 446107
แต่งได้หวานไพเราะเช่นเคยเนอะ แวะมาอ่านจ้า
29 มีนาคม 2548 13:21 น. - comment id 446110
งามมาก ๆ เชียวค่ะ อ่านแล้วนึกถึงนางฟ้านางสวรรค์ค่ะ แต่ใคร่ขอแจมคุณราชิกานิดหนึ่งนะคะ ตรงที่บอกว่า ยุบหนอ พองหนอ น่ะค่ะ มัดหมี่อยากให้คุณแก้วท่อง ยุบหนออย่างเดียวค่ะ พองหนอไม่ต้องท่อง เพราะจะตัดกิเลศไม่ได้ค่ะ ดูอาการแล้วน่าเป็นห่วงมากค่ะ เหอ ๆ ๆ ๆ ยุบหนอ ยุบหนอ ๆ ๆ ๆ ๆ นะคะ แค่นี้พอค่ะ
29 มีนาคม 2548 13:59 น. - comment id 446129
ยอดเยี่ยมเหมือนเดิมครับพี่แก้วฯ....ทำไงผมจะเขียนโคลงเป็นบ้าง สอนหน่ยสิ...
29 มีนาคม 2548 16:58 น. - comment id 446240
คุณ อัลมิตรา ผมเป็นคนที่อยู่ดึกแล้วชอบมากกับการมองท้องฟ้ายามมีจันทร์หรือไร้จันทร์ซึ่งสวยไปคนละแบบ ครับความงามที่ยากไขว่คว้าย่อมนำมาซึ่งจินตนาการแบบเพ้อฝัน ดั่งคุณว่าแหละพอทิวามาก็เหือดหายไปดุจดั่งรักที่เคยผูกพันสร้างเป็นฝันพอตื่นก็สลายเช่นเดียวกันจะหาอะไรที่แน่นอน จึงพบในสิ่งทึ่ควรและเหมาะสมกับเราเท่านั้นที่คงสภาพไว้ครับ ขอขอบคุณครับ แก้วประเสริฐ.
29 มีนาคม 2548 17:02 น. - comment id 446242
คุณ แก้วนิดา น้องสาวที่แสนน่ารัก พี่เองฝันไปแบบลมๆแล้งๆตามจินตนาการสร้างไว้ด้วยการเพียรฝึกโคลงพอจะจับแนวทางได้พอประมาณ การเขียนของพี่ขอให้คิดว่าเป็นแค่จินตนาการเท่านั้นเองอย่าคิดมากไปกว่านี้เลยคิดเพียงแค่สนุกสนานก็พอเพียงครับ ขอขอบใจน้องสาวมากครับ แก้วประเสริฐ.
29 มีนาคม 2548 17:06 น. - comment id 446246
คุณ ราชิกา หามิได้แฝดเพื่อนที่รักผมนี้ย่อมคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมอันเป็นจริงการเขียนใช่ย่อมสอดแทรกบางสิ่งบางอย่างเอาไว้ ขอเพียงคิดว่าเป็นแค่ความฝันกลางวันที่ย่อมจะทำให้เราสุขใจแม้นจะเพียงเสี้ยวหนึ่งก็ตาม ขอบคุณมากยิ่งนักในความห่วงใยผม ขอเพื่อนรักสบายใจได้ครับ ผมเขียนไปตามอารมณ์ภายในคงจะไม่เป็นไรกลับดีเสียอีกในการระบายสิ่งบางอย่างที่ควรระบายครับ ขอขอบคุณแฝดเพื่อนที่รักมากนะครับ แก้วประเสริฐ.
29 มีนาคม 2548 17:08 น. - comment id 446247
คุณ แทนคุณแทนไท ขอขอบคุณยิ่ง อันที่จริงเป็นแค่แนวทางในการฝึกหัดโคลงไว้ย่อมพรรณาบางสิ่งบางอย่างลงตามอารมณ์ครับ ขอบคุณครับ แก้วประเสริฐ.
29 มีนาคม 2548 17:12 น. - comment id 446249
คุณ พี่ดอกแก้ว ผมเองเป็นคนที่อ่อนไหวย่อมทำอะไรในสิ่งบางเบาตามสภาพอารมณ์ที่ปล่อยวางไปเรื่อยๆหาได้ยึดติดไว้เป็นนิจสินครับ สิ่งใดก็ตามที่สร้างอารมณ์ผมให้แจ่มใสย่อมดำเนินไปทางนั้นโดยไม่ทำให้ใครต้องเดือดร้อนเป็นข้อที่ผมคิดเช่นนั้นครับ ขอขอบคุณมากนะครับ แก้วประเสริฐ.
29 มีนาคม 2548 17:13 น. - comment id 446250
คุณ ผลิใบสู่วัยกล้า ขอขอบคุณครับนี่ผมก็เริ่มจะย้อนกลับสู่แนวธรรมอีกครับสหายแห่งธรรม แก้วประเสริฐ.
29 มีนาคม 2548 17:16 น. - comment id 446252
คุณ พุดฯ ผมเองก็เช่นเดียวกับคุณนั่นแหละคือสร้างในสิ่งที่เราพอใจจะให้เกิดโดยคำนึงถึงความสุขของมิ่งมิตรทั้งหลายไว้เป็นข้อตั้ง อาจจะมีหลายแนวหน่อยแต่ก็คล้อยแฝงไว้ให้ความเป็นจริงที่จินตนาการสร้างไว้ให้เกิดอารมณ์สุขแก่ตัวเราเอง ขอขอบคุณมากนะครับ แก้วประเสริฐ.
29 มีนาคม 2548 17:21 น. - comment id 446254
คุณ ฤกษ์ อันที่จริงแล้วผมเองก็เพียงแค่คนที่อยากเขียนโคลงกลอนเพื่อสร้างทักษะแก่ตัวเองไว้หาใช่ที่จะไปแข่งขันกับใครทั้งสิ้น สร้างเพื่อให้อารมณ์เราได้รับความสุขจะเป็นเช่นใดหาใช่ในสิ่งที่ควรคำนึงไม่เท่านั้นเองแหละครับ ใครจะว่าจะวิจารณ์อย่างไรกลับมีคุณค่าสำหรับผมเสมอเพื่อจะได้ฝึกดับทางโทสะไว้ยิ่งจะเกิดคุณประโยชน์มากเสียด้วย ขอขอบคุณมากนะครับ แก้วประเสริฐ.
29 มีนาคม 2548 17:23 น. - comment id 446255
คุณ วลีฝัน สิ่งใดที่สร้างความหรรษาสุขแก่มวลชนย่อมนำสะท้อนกลับคืนสู่ผมเช่นกันครับ ขอขอบคุณมากครับ แก้วประเสริฐ.
29 มีนาคม 2548 17:27 น. - comment id 446258
คุณ มัดหมี่ ครับผมพอดีไม่ได้ใช้สิ่งนี่เป็นเครื่องภาวนาผมเลยขอไม่ใช้ทั้งสองอย่างได้ไหมครับ ที่จริงการพิจารณาการยุบการพองก็เกิดประโยชน์มากนะครับ หากคิดในแง่ทางธรรมย่อมถึงการพิจารณากายให้เป็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา หากทางโลกียธรรมซึ่งเป็นการล้อเลียนธรรมอีกแบบหนึ่ง ดีทั้งสองอย่างแหละครับอยู่ที่การกระทำมากกว่า ขอบคุณมากครับผมเชื่อคุณครับ แก้วประเสริฐ.
29 มีนาคม 2548 17:30 น. - comment id 446260
คุณ มนต์กวี ตอนนี้ผมอยู่แค่นักเรียนฝึกหัดอยู่ครับ หากคุณต้องการจริงๆ ลองติดต่อไปยังคุณ อัลมิตรา คุณช่อชงโค คุณใยไหม อีกแยะครับขอให้เขาช่วยเหลือในการเขียนซิครับ ต้องขอโทษที่ผมมิบังอาจเช่นนั้นเองปีกยังอ่อนมากครับ ยังไงก็ขอขอบคุณที่ให้เกียรตินะครับ แก้วประเสริฐ.
30 มีนาคม 2548 07:54 น. - comment id 446523
ชอบอ่านค่ะ แต่เขียนเองคงต้องรอว่าง ๆ ค่อย ๆ หัด มาตามดูผลงานนะคะ ทำไงจะมีอารมณ์เขียนโคลงกลอนได้ทุกวันนะคะ แค่อาทิตย์ละบทก็แย่แล้วค่ะ
30 มีนาคม 2548 12:45 น. - comment id 446654
คุณ พระจันทร์ไม่เศร้า อันที่จริงผมอยากบอกคุณจังเลยแต่ผมเองยังไม่เก่งเลยไม่กล้าเท่าไหร่เกรงใจคนที่เก่งกาจมา เพียงเขาบอกจำๆเอาไว้แล้วมาฝึกเอง เอาที่ผมทำนะครับเราเพื่อนกันคงไม่ว่ากัน คือผมเวลาว่างๆจะนึกถึงบทโคลงกลอนแต่งขึ้นในใจ ให้เป็นไปตามฉันทลักษณ์ดีบ้างไม่ดีบ้างช่างมัน พอนานๆไปจิตจะเป็นโคลงกลอนเรียกว่าบ้าๆบอๆก็ได้ เมื่อนั่นแหละคุณเอ๋ย อารมณ์กลอนจะเกิดขึ้นจะเขียนอะไรก็ได้เสมอๆเรียกว่า จิตเป็นโคลงกลอน โคลงกลอนเป็นจิตครับนี่คือการฝึกของผมอย่างเสมอต้นเสมอปลาย คือว่า หากว่างๆเมื่อไหร่ โทษแม้แต่นั่งปล่อยทุกข์หนักยังนึกเขียนในใจเลยครับ แล้วเมื่ออารมณ์เกิดขึ้น จะนึกเขียนอะไรๆก็ได้ มันจะผุดขึ้นมาเองแหละครับ แต่มีข้อแม้ว่าต้องรู้คำศัพท์มากๆด้วยนะครับ จะดัดแปลงอย่างไรก็ไม่เป็นปัญหาครับ เอาเท่านี้นะครับคนอื่นจะหมั่นไส้ผมเอา ผมไม่เคยปิดบังอะไรๆหรอกครับ หากทำได้ก็ทำไม่ได้ก็ไม่ต้องทำ แค่นั้นเองครับ ขอขอบคุณครับ แก้วประเสริฐ.
30 มีนาคม 2548 14:01 น. - comment id 446687
สละสลวย เพราะ มาก แวะมาชื่นชม ศศร เป็นแต่โคลงเคลงนะคะ ว่างๆแนะนำ บ้างนะคะ ขอบคุณมากค่ะ
30 มีนาคม 2548 15:56 น. - comment id 446739
คุณ ศศร ก่อนอื่นขอขอบคุณมากที่กรุณาแวะมาเยี่ยมครับ อ้อผมก็เพียงแค่ฝึกหัดเท่านั้นครับ อย่างที่ตอบคุณพระจันทร์เศร้านั่นแหละครับ ผมทำได้ก็เพียงเท่านี้ครับ ว่างๆแวะมาใหม่นะครับ แก้วประเสริฐ.
8 เมษายน 2548 13:53 น. - comment id 450976
มาตามสายไม่ได้ล็อกอินค่ะ เคลิ้มไปได้เหมือนกันนะคะนี่ ขอบคุณสำหรับงานที่ส่งมาค่ะ จะตามอ่านไปเรื่อย ๆ หากว่างแวะค่ะ
8 เมษายน 2548 13:53 น. - comment id 450977
มาตามสายไม่ได้ล็อกอินค่ะ เคลิ้มไปได้เหมือนกันนะคะนี่ ขอบคุณสำหรับงานที่ส่งมาค่ะ จะตามอ่านไปเรื่อย ๆ หากว่างแวะค่ะ