ลีลาวดีมณีรุ้ง!

พุด


http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=100
(แต่ปางก่อน)
......................
ตะวันแก้วดวงทุยติมณี
กำลังทอดวงเรี่ยต่ำระดับแมกไม้
เหนือเจ้าพระยาและพระบรมมหาราชวัง
ในยามย่ำสนธยา...


ให้ทุกจิตใส..ใจดวงงาม
ตกอยู่ในภวังค์เศร้าแสนเศร้า..สุขแสนสงบสุข
กลิ่นลั่นทมพร่างไสวรายเรียงริมทาง
ใกล้ทางศิลามณีทอด
สู่พิมานสถานสรวงพระบรมมหาราชวัง
ที่สึกกร่อนผ่านร้อนหนาวยาวนาน
มาหลายรัชสมัยยังดำรงรอรับ
ทุกร่างที่ย่างกรายมาเยือน..รอย
ราวกับกำลัง
จะคอยสอนสัจจะใจในทุกย่างก้าวไทย..ไท
แล..
ใจทุกดวง
ที่ยังรักยังหวงแหนในผืนแผ่นดิน.. 
ให้แสนถวิลเทวษ
แกมภาคภูมิปิติในทุกอดีตอันหอมงาม
ที่ล่วงลาเลยลับ...ยามอยากย้อนคืน


แผ่นศิลา..
ทุกๆก้อนกร่อน
บอกความหนักแน่นมั่นคงตรงมั่นมิหวั่นไหว
ต่อทุกรอยเท้าไทย
ให้หยัดยืนเต็มร่าง
อย่างสมค่าคน
บนแผ่นดินไทแผ่นดินธรรมแผ่นดินทอง
ณ..ที่แห่งนี้..ที่เราเรียกว่าไทยไท..


ที่มีอิสรา...ในทุกธุลีหล้า
และ
ฝากความงามล้ำค่าในยามเรืองรุ่ง
ในทุกรัชสมัยอันไสวไพจิตรพิลาสนิรมิต
ดั่งเมืองแก้วเมืองขวัญ
ราวสวรรค์ลอยมาเยือน
ด้วยความสงบสุขมาอย่างนานช้า...


สมกับคำเสียสละ
ที่บรรพบุรุษ
ได้หลั่งเลือดชะโลมหล้าทาพสุธาทอง
เพื่อปกบ้านป้องเมืองจากอริราชศัตรู
ไว้ให้ลูกหลานไทย
ที่ยังมีเลือดเนื้อกตัญญุตาในหัวใจ
ได้จำจดความงดงามนาม
ความหาญกล้าที่แสนยิ่งใหญ่
ให้มีไทยไทมาถึงทุกวันนี้


ต้นลั่นทมสีชมพู ขาว เหลือง ....
สูงตระหง่านหวานปนโศก
ปลิดใบทิ้งเหลือเพียงลำต้นแกร่งพร้อมก้านกิ่ง
ที่ไสวพวงรวงร้อยพร้อยพราว
เต็มไปด้วยดวงดอกดอกละมุนเศร้าหอม
เหนือพะยอมใด...ในทรงจำ
อัน..
ย้ำความสะท้อนย้อนสะเทือนระทมได้ถมทับทวี...


ผู้หญิงร่างเสลาสล้างบอบบาง
ในชุดผ้าซิ่นไหมทองผ่องผุดพิสุทธิ์พราย
รัดร่างอันสล้างกลมกลึงกับเสื้อแพรไหมเผยไหล่ล้ำ
ห่มสไบสีทองพันพรางทบ
จนดูแปลกตากว่าใครในละแวก


และ
แสนแผกพิศพิเศษพิสุทธิ์
ผุดพรายละออริมเรียวแก้มซูบซีดนั้น
คือ..
เธอคนงามทัดดวงดอกลั่นทม
สามสีสามดอกหยอกเย้าวงหน้าละมุนนวล
ให้ยิ่งรานหวานโศก
ราวจะหยุดโลกให้หันมาสัมผัสวิโยคงามแสนงาม
ยามสัมผัสผ่านพบ..


เธอมุ่นทบเกลียวผมตลบสูง
เผยต้นคอระเหิดระหงชวนให้หลงใหล
และ..
ยามเธอค่อยๆเคลื่อนไหว
เยื้องย่างอย่างช้าช้า
ในสายแสงตะวันลาสีทอง..
ยิ่งชวนให้ผ่องพิศสะดุดตาสะดุดใจ
ในเหว่ว้าเงียบงามนิ่งงันราวโลกฝัน
ในอดีตสมัยสี่แผ่นดินย้อนหวนคืนกลับมา


ให้เต็มตื้นในวิญญาญ์
เต็มนัยน์ตาท้น
แทบล้นละหลั่งหยาดน้ำตา
สำหรับผู้มีดวงตาที่สาม
ยามได้แลพบร่างงาม
ในท่ามกลางสถานที่แห่งนี้
ที่คือความมลังเมลืองเรืองรุ่งเป็นอมตะ
ที่ตราไว้ในทุกดวงจิตถวิลรักในเงื้อมงามเงาอดีตขวัญ
วันแห่งความตระการปานประหนึ่งแดนทิพยสถานมณีรุ้ง
ดั่งนามงามแสนงาม..
*กรุงเทพมหานคร
อมรรัตนโกสินทร์มหินทรายุ- ธยา
มหาดิลกภพนพรัตน์ราชธานี
บุรีรมย์อุดมราชนิเวศน์มหาสถาน 
อมรพิมานอวตารสถิต 
สักกะทัตติยะวิษณุกรรม- ประสิทธิ์ *
........


เธอ...คนดี..
พลีหยาดน้ำตารินหลั่งรดหยดบนพื้นพสุธา
ด้วยความสำนึกลึกล้น
ด้วยความปิติเกษมเศร้าแสนเศร้า
ที่ยากยิ่งอธิบายพรายเงาซึ้งตรึง
ในก้นบึ้งแห่งงามดวงใจใครเล่ารู้นี้


ณ..ยามนี้..ยามเย็นย่ำสนธยา
กับ..
ทิวากรรอนแสงราวร่ำลาฟ้าดิน
ให้ดวงหฤทัยถวิลล้ำลึกรู้สึกถึงค่ากาลเวลา
และ
อดีตลาเลือนลอยลับ
ราวหวนกลับมา
ให้เธอทิ้งวิญญาณ์ดายเดียวรำลึก
ราวอยู่ผู้เดียวเปลี่ยวเปล่า
ในโลกเหงาแสนเหงาเงียบงามร้างไร้...ลำพัง...!


ในท่ามกลาง...
พลังแห่งหอมห้อมล้อมหัวใจเหว่ว้า..ในภวังค์ฝัน
ให้เธอทอดตานิ่งงันใต้ลั่นทมอันสะพรั่งพราว.....

 
เสียงมโหรีแว่วหวาน
แกมเศร้าราวเสภาโศกวัน
วิปโยคที่เธอเคยมาณ.ที่นี่
วันที่...*ตะวันในดวงใจไทยทั้งดวง*
ลาล่วงสู่แดนทิพย์สถิตนิรพาน
แดนว่างงามตราบชั่วนิจนิรันดร์
วันที่แม้ฟ้าหลวงแห่งปวงชนชาวไทยสวรรคาลัย
ไปสู่แดนแก้วแพร้วเพริศพรรณราย..
*แดนดินแห่งขวัญนิรันดร์รัก*
..............


และแสนแปลกดีที่
เธอ..คนดี..
ได้ยินบทเห่เรือราวหวานแว่วแผ่ว
ทรงพลังจากลำนำลำน้ำเจ้าพระยา
ราวครวญคร่ำ...
ผ่าน...
ฟากฟ้ากว้างมาเยือนเรือนทิพย์เรือนใจ
ให้ไหวครวญให้ยิ่งเหว่ว้าอ้างว้างว่างใจ..
ในวันนี้นาทีนั้น...
ราวนิรันดร์โศกโลกหยุดหมุนไปตราบชั่วกาล...!


ให้หยาดน้ำตาเธอยิ่งพร่างริน..มิสิ้นสาย..!
สุดถวิลเทวษโสมนัสปิติ
อย่างยากที่จะรำพึงรำพัน..
พร้อมกันกับ
ดวงดอกลั่นทม..แสนหอมงาม...
พลัน
พลี...
ปลิดปลิว....ปลิดปลิว...... 
ลิ่วลอย....ค่อย..ค่อย...
ร่วง...รายพรายพรมห่มร่างรานหวานเศร้า..
ราวปลอบประโลม..!อย่างเงียบงามดายเดียว....ดายเดียว...
*************


บทชมเรือกระบวน
ลอยลำงามสง่าแม้น         มณีสวรรค์ 
หยาดโพยมเพียงหยัน     ยิ่งฟ้า 
เหมราชผาดผายผัน        โผนเผ่น นภาฤา 
พายพะแพรวพายถ้า       ถี่พร้อมผันผยอง


บทบุญกฐิน
ผดุงธรรมเผด็จทุกข์ทั้ง     แผ่นผไท 
บังบาปเบิกบุญใบ             บ่มสร้าง 
หกรอบนักษัตรสมัย          โสมนัส 
เชิญเทพชุมชเยศอ้าง        อรรถพร้องพรถวาย
..........
บทชมเมือง
สยามเอยอุโมษครื้น      คุณขจร 
สุขสถิตสถาพร              ผ่านฟ้า 
ไตรรงค์ลิ่วลมสลอน      อวดโลก 
ตราบเมื่อนี้เมื่อหน้า       มื่อโน้นนิรันดร์เกษม


บทสรรเสริญพระบารมี
....วังทิพย์คือท้องทุ่ง           ม่านงามรุ้งคือเขาเขิน 
ร้อนหนาวในราวเนิน         มาโลมไล้ต่างรสสุคนธ์ 
   ย่างพระบาทที่ยาตรา       ยาวรอบหล้าฟ้าสากล 
พระเสโทที่ถั่งทน               ถ้าใหลรวมคงท่วมไทย


ขอจงทรงพระเจริญ            พระชนมเกินร้อยปีปลาย 
อาพาธพินาศหาย                ผองพาลพ่ายแพ้บุญใบ 
จงเสวยสวัสดิ์                     พูนพิพัฒน์ปราบมารภัย 
ผ่องแผ้วพระหฤทัย             ทุกทิพาราตรีกาล 
พระประสงค์ทุกสิ่งเสร็จ       แม้สรรเพชญพระโพธิญาณ 
ดำรงรัชย์ชัชวาล                  ดั่งเสียงสวรรค์นิรันดร์เทอญ
************
				
comments powered by Disqus
  • แม่ดวงดอกพุด..ไพร

    24 กุมภาพันธ์ 2548 10:34 น. - comment id 430318

    พุดพัดชาไฟฝันใกล้มอดดับลาลับดวงค่ะ
    ทั้งๆที่มีเรื่องราวมากมาย
    ที่พร่างไสวในใจดวงฝันฝันฝัน
    
    ที่น่าจะรจนางาน
    งามกว่านี้มากนัก
    และ
    ยังมีหลายฉากตอน
    ที่สะท้อนสะเทือนใจ
    ในวัน
    ที่ย่างคืนราวย้อนรอยถอยกลับสู่เงางามแห่งอดีตกาลอันงามรุ่งมณีเรือง
    รอติดตามค่ะ
    และ
    ขอหยาดน้ำใจใสพร่าง
    เป็นพลังใจให้อัญมณีไพรด้วยนะคะทุกที่รักทุกดวงใจในร่มรักเรือนไทยเรือนทองน้องพี่
    ณ..แห่งนี้..ที่รอดับโลกแล้ง..
  • ลำน้ำน่าน

    24 กุมภาพันธ์ 2548 10:55 น. - comment id 430330

    ....วังทิพย์คือท้องทุ่ง 
    ม่านงามรุ้งคือเขาเขิน 
    ร้อนหนาวในราวเนิน 
    มาโลมไล้ต่างรสสุคนธ์ 
    ย่างพระบาทที่ยาตรา 
    ยาวรอบหล้าฟ้าสากล 
    พระเสโทที่ถั่งทน 
    ถ้าใหลรวมคงท่วมไทย
    
    เหนือขึ้นไปในดาวดึงส์และพรหมโลก เหล่าดวง
    ตาสุธาสินี กำลังหลั่งน้ำตาและประทานพร ร่วง
    สายพรายพรูด้วยดอกปาริชาต ลงพรมอาบผืน
    พสุธา  และเธอหญิงร่างงามในสไบสีทองกำลัง
    เงยหน้ามองจ้องท้องฟ้า แปลกที่แววตาส่อง
    ประกายสะท้อนทิพย์แห่งปาริชาต  ราวกับรับรู้
    ถึงบางอย่างในดินแดนโพ้นไกล..
    
    
    เกร็ดมณีร่วงรุ้งดุสิตาขจรกระจายลงอาบหล้า
    ทิพยวายุแห่งเทวะอินทรีย์ พัดมาวูบหนึ่ง
    ดวงดอกลั่นทมบนเรือนผมนั้นก็ปลิดปลิวลิ่วลับ
    ตกลงสู่สายน้ำเจ้าพระยามหานที และจมหายไป
    ท่ามกลางเกลียวคลื่นอันเดียวดาย.......
    แหล่ะพลันน้ำตาแห่งเธอก็เริ่มรินไหลลงสบสาย
    แห่งเจ้าพระยามหานที...อย่างมิมีประมาณ
    
    อ่านสไบนวลสไบนางแล้วต่อด้วยลีลาวดีมณีรุ้ง
    พร้อมกับทิพยดนตรีบรรเลงบทเพลงแห่งเจ้า
    พระยา ณ นาทีนี้  พาให้ลำตาตื้นตันอัดแน่นไป
    ด้วยความรู้สึก..ยากจะกลืนเก็บ
    
    
    
    
  • บินเดี่ยวหมื่นลี้

    24 กุมภาพันธ์ 2548 11:09 น. - comment id 430339

    แวะเวียนมาอ่านงานพร้อมกำลังใจครับผม
  • ฤกษ์ ชัยพฤกษ์

    24 กุมภาพันธ์ 2548 12:12 น. - comment id 430367

    เข้ามาชื่นชมงานของ พุดพัดชา ไม่เคยผิดหวัง  
    ถือโอกาศ อวยพรวันเกิดย้อนหลังนานไปหน่อย ไม่ค่อยได้เข้ามาในช่วงนี้ ขอให้พุดพัดชามีความสุขกายสุขใจ มีสุขภาพสมบูรณ์ หายเจ็บหายไข้อยู๋เป็นมิ่งขวัญไทยโพเอ็มนานเท่านานนะครับ
  • ...สียะตรา..

    24 กุมภาพันธ์ 2548 12:47 น. - comment id 430389

    
    
    ......ดุจดั่งกังสดาลขานเสนาะ
    
    ...รื่นไพเราะหยดหยาดวิลาสศิลป
    
    ...ปานบุปผางามพิสุทธิ์มธุริน
    
    ...ยลและยินปรีดิ์มานสราญรมย์
    
    
    ......อ่านด้วยความชื่นชมและซาบซึ้งกับถ้อยคำค่ะ...
    
    
    
    
  • )))**--ผลิใบสู่วัยกล้า--**(((

    24 กุมภาพันธ์ 2548 13:54 น. - comment id 430430

    มาเป็นกำลังใจให้ครับ  
    
    เพราะมากครับ
  • แมงกุ๊ดจี่

    24 กุมภาพันธ์ 2548 14:28 น. - comment id 430457

    สวัสดี  พี่พุดสุดรัก
    
    คิดถึงพี่จัง   นานมากแล้วที่มะกรูดไม่ได้อ่านงานของพี่....
    
    คิดถึงพี่เสมอค่ะ...
    
  • กอกก

    24 กุมภาพันธ์ 2548 14:53 น. - comment id 430482

    ไม่ได้อ่านงานคุณพุดนานแสนนาน...
    ยังต้องชื่นชมความหอม เย็น เช่นเคย...
    และขอเกาะเกี่ยวอวยพรวันเกิดย้อนหลังกับคุณฤกษ์ ด้วยนะคะ
    ขอคุณพุดมีสุขภาพที่แข็งแรงนะคะ
    
    สวัสดีค่ะ
  • เรนโมเมจัง..

    24 กุมภาพันธ์ 2548 15:10 น. - comment id 430493

    เรน...  คิดถึง.. นะคะ..
     ภาพ..ในฝัน..
       ในจินตนาการ..  ที่เรนมี..  เกี่ยวกับ..
     พี่พุดพัดชา..  คือ..สุภาพสตรี.. ที่อ่อนหวาน...ใสๆ..  บริสุทธิ์..  
       งดงาม..  ทุกรอยสัมผัส..  ที่ฝากไว้...
    ในความ..รู้สึก..  ของเรน..
          ..  เรน..  คิดถึง..นะคะ..
    
       เรน..  กราบขอพร..  สิ่งศักดิ์สิทธิ์...
    คุ้มครอง..  พี่คนดี...ของเรน..ด้วยนะคะ..
    
  • พุด

    24 กุมภาพันธ์ 2548 15:53 น. - comment id 430531

    http://thaipoem.com/web/songshow.php?id=25
    ลุ่มเจ้าพระยา   
    สุเทพ วงศ์กำแหง : : Key Am  
    ลุ่มเจ้าพระยาเห็นสายธารา ไหลล่อง
    เพียง แต่มองหัวใจให้ป่วน
    น้ำไหลไป มักไม่ ไหลทวน
    ชีวิตเรา ไม่มีหวน ไม่กลับทวนเหมือนกัน
    เรา เกิดมา ผูกใจรัก กันดีกว่า
    เพราะว่าชีวา แสน สั้น
    เรา อย่าได้ สะเทือนหัวใจต่อกัน
    ทิ้งชีวิตอัน สุขใจ
    อย่าแตกกันเลยรักไว้ชมเชย ชิดมั่น
    จง ผูกพันรักกันด้วยใจ
    ขอจงเป็น เหมือนเช่น นกไพร
    ที่เหิรบินคู่กันไป หัว ใจ คู่กัน
    
    เรา เกิดมาผูกใจรัก กันดีกว่า
    เพราะว่าชีวา แสน สั้น
    เรา อย่าได้ สะเทือนหัวใจต่อกัน
    ทิ้งชีวิตอัน สุขใจ
    อย่าแตกกันเลยรักไว้ชมเชย ชิด มั่น
    จง ผูกพัน รักกันด้วยใจ
    ขอจงเป็น เหมือนเช่นนกไพร
    ที่เหิรบินคู่กันไป หัว ใจ คู่ กัน...
    
     
      
    
  • พุด

    24 กุมภาพันธ์ 2548 15:55 น. - comment id 430533

    http://thaipoem.com/web/songshow.php?id=19
    อาลัยรัก   
    ชรินทร์ นันทนาคร : : Key Ab  
    ฉัน รักเธอ รักเธอ ด้วยความไหวหวั่น
    ว่า สัก วัน ฉัน คง ถูกทอดทิ้ง
    มินานเท่าไร แล้วเธอก็ไป
    จากฉันจริงจริง
    เธอ ทอด ทิ้ง ให้อาลัย อยู่กับความรัก
    แม้ มีปีก โผบิน ได้เหมือนนก
    อก จะต้อง ธ-นู เจ็บปวดนัก
    ฉันจะบิน มา ตาย ตรงหน้าตัก
    ให้ยอดรัก เช็ด เลือด และ น้ำตา
    
    แม้ มี ปีก โผบิน ได้เหมือนนก
    อก จะ ต้อง ธ-นู เจ็บปวดนัก
    ฉันจะบิน มาตาย ตรงหน้าตัก
    ให้ยอดรัก เช็ดเลือด และน้ำตา...
    
     
      
    
  • somebody

    24 กุมภาพันธ์ 2548 16:10 น. - comment id 430544

    
    เพียงคำขอบคุณ..จากงานงามล้ำ
    คำพรวันเกิดจากล้ำน้ำน่านค่ะ
    .......................
     
    มงคลปณิธานและลมหายใจกวี    ลำน้ำน่าน  
    
    เอาดิถีมาฆะฤกษ์วรทาน
    แย้มมิติวิญญาณสาส์นรังสรรค์
    ร้อยวลีอักษรบวรพรรณ
    มอบกำนัลสุมาลีกวีมิตร
    
    เอาพระพุทธเจิมใจจนใสนิ่ง
    เชิญสัจจริงหิ้งพระมาสถิต
    ทิวากรว่อนเวียนเปลี่ยนชีวิต
    นฤมิตครบปีที่บรรจง
    
    เด็ดดอกไม้ร้อยป่ามาร้อยรวง
    เป็นดอกดวงร้อยใจให้ใหลหลง
    ยกวิมานรุกขเทวาจากป่าดง
    อีกสายน้ำนามวงก์วสุนธรา
    
    มาร่อนเรียงเคียงใจสู่ไกวัล
    มาปกป้องคุ้มกันวัลย์พฤกษา
    มาหล่อเลี้ยงอัศจรรย์นัยนา
    แทนอวยพรวิจิตรามาลินี
    
    ดูรา-กาลโยกคลายโศกเศร้า
    ประจักษ์เงาพระพุทธวิสุทธิ์ศรี
    ตราบปาริชาตดอกฟ้ามาลาตี
    ยังโปรยปรายสายนทีนิรันดร์กาล
    
    เพียงหนึ่งพิศมองไปใคร่จักแจ้ง
    เห็นเริงแรงทิพยรสกฎสถาน
    ทั้งไตรโลกอาจสิ้นไปไร้ตำนาน
    ปลาสนาการกวีแก้ววิเศษศิลป์
    
    บทนิพนธ์คือค่าอมตะโลก
    อุปโลกมโนจิตนิมิตถวิล
    ชีพจรอ่อนไหวจากใจดิน
    จดมณฑลเทวินทร์พรหมวิมาน
    
    เหล่าไพฑูรย์รัตนาค่าอักโข
    ทุกมโนเจียระไนเพชรไพศาล
    ทั้งโลกธาตุไกวัลชั้นบาดาล
    หอมกำยานธูปกวีสุคนธพจน์
    
    เพราะเสน่ห์สง่างามท่ามกลางชน
    ด้วยดอกผลกุศลกรรมนำกำหนด
    ทุกผัสสะแห่งจิตนิมิตอรรถรส
    ให้ปรากฎเฟื่องฟ้าสุธาสินี
    
    นำมาลัยร้อยรสพวงพจน์ทิพย์
    เพียงหนึ่งจิบอมฤตวิจิตรศรี
    เพื่อต่อลมชีพจร...อรชรกวี
    ยามมงคลสวัสดีมาฆะบูชา
    
    รัตนชาติแห่งไพรสมัยเสมอ
    จงบำเรอผองมนุษย์ทุกทิศา
    ด้วยมณีบัวบุษย์พุดพัดชา
    ประดับโลกโตรกป่าแวววิเชียร
    
    อมตะไพรพรูสุวรรณศิลป์
    ปณิธานกวินคุมบังเหียร
    รัตตัญญูแท้จมดินสิ้นแสงเทียน
    ทุกภพเปลี่ยนอสงไขย...ฤาไร้กวี
    
    ----------------------------------
    ทุกๆ วันเวลาและเวทีชีวิตของกวี มีความลึกล้ำที่แปลกแยก
    ไม่เหมือน ไม่เกลื่อนกลาด ไม่ซ้ำ ไม่สิ้นสุดและไม่มีวันตาย
    ข้าพเจ้าหยิบหนังสือเล่มงามนาม  *ปณิธานกวี* 
    ของอังคาร กัลยาณพงศ์  บรรยายบทหนึ่งไว้ลึกล้ำจับหัวใจว่า 
    
    ปุยเมฆหอมเกสรรังร่วง
    มาทวงมโนคติหล้าอาถรรพณ์
    ดาวไถไถทุ่งฟ้าวิลาวัณย์
    จะเกี่ยวข้าวขวัญค่าชีวาใดฯ
    
    น้ำค้างดงดึกดื่นสะอื้นโศก
    ชลเนตรโลกวิปโยคหรือไฉน
    หมู่มนุษย์น้อยอหังการ์ฆ่าใคร
    ฆ่าพิภพสบสมัยสุดสามานย์ฯ
    
    ไม่รักทะนุถนอมค่าโลก
    จะทุกข์โศกไปตราบฟ้าอวสาน
    ยุคมนุษย์จะสุดสิ้นมิช้ามินาน
    เป็นพยานเถอะสายธารที่จาบัลย์ฯ
    
    น้ำไหลอายุขัยก็ไหลร่วง
    ใบไม้ร่วงชีพก็ร้างอย่างฝัน
    ฆ่าชีวิตคือพร่าคืนวัน
    จะกำนัลโลกนี้มีงานใด
     
    
    บทกวีสื่อให้รักและหวงแหนโลกใบนี้ ด้วยเป็นสถานวิเศษ
    กอปรกับวันนี้เป็นมงคลมาฆะบูชา และวันเกิดมิ่งมิตรนาม *พุดพัดชา*
    ข้าพเจ้าจึงขออวยพรด้วยบทนี้  หวังให้ไฟฝันและลมหายใจแห่งกวีทุกนาม
    สถิตอกาลิโกและโชติช่วงไม่มีวันมอดดับ เพียรรังสรรค์งานงามกำนัลโลก
    เมื่อลาลับวิญญาณกวีจักสถิตคู่ลมหายใจแม้จักเกิดและตายกี่อสงไขย
    
    
    และบทหนึ่งใน *ปณิธานกวี* กล่าวไว้ว่า
    
    สิ้นเสน่ห์วรรณศิลป์ชีวิตเสนอ
    ละเมอหาค่าทิพย์ไหนสนอง
    อเนจอนาถชีวีทุกธุลีละออง
    สยดสยองแก่ถ่านเถ้าเศร้าโศกนัก
    
    แล้งโลกกวีที่หล้าวูบฟ้าไหว
    จะไปรจนารุ้งมณีเกียรติศักดิ์
    อำลาอาลัยมนุษยชาติน่ารัก
    จักมุ่งนฤมิตจิตรจักรวาล
    
    ให้ซาบซึ้งกาพย์กลอนโคลงฉันท์
    ไปทุกชั้นอินทรพรหมพิมานสถาน
    สร้างสรรค์กุศลศิลป์ไว้อนันตกาล
    นานช้าอมตะอกาลิโก
    
    
    
  • ลักษมณ์

    24 กุมภาพันธ์ 2548 21:42 น. - comment id 430740

    ลีลาวดีนี่นี้....................งามจริง
    งามจับใจอยากอิง..........แนบใกล้
    ขาวสะอาดหมดสิ่ง-.........เปื้อนเปอะ
    ไม่แปดเปื้อนงามไซร้....ดุจรุ้งมณีสวรรค์
    
    มาชมลีลาวดีมณีรุ้ง! ครับ
    :]
  • ลักษมณ์

    24 กุมภาพันธ์ 2548 21:50 น. - comment id 430748

    ขาวสะอาดหมดสิ่ง-........เปื้อนเปรอะ
    
    แก้คำผิด
    ตรงที่ เปื้อนเปอะ*
    ให้หายเปรอะเปื้อนครับ
    :}
  • ผู้หญิงไร้เงา

    24 กุมภาพันธ์ 2548 22:47 น. - comment id 430791

    ดอกไม้ชนิดนี้หอมอ่อน ๆ ชอบค่ะชอบ
  • namsai

    25 กุมภาพันธ์ 2548 09:41 น. - comment id 430967

      
    ++
    
    ...สวยหวานๆ..นุ่มละไม ..เศร้าๆ..
    
    ++
    
    
  • พุด

    8 มิถุนายน 2549 08:42 น. - comment id 582627

    ดวงสุริยเทพกำลังเผยโฉมอวดองค์อย่างสง่างาม
    แผ่สร้านกำจายรัศมีสีรุ้งฉายฉาน
    ปานประหนึ่งดั่งมณีแก้ววิเศษนพรัตน์อันจำรัสจำรูญ
    ไขแสงสายพรายฟ้า*รัตนโกสินทร์*
    แผ่นดินทองแผ่นดินไทแผ่นดินสาลีเกษตร
    อันงามไสวด้วยเรียวรวงระย้าระยับราวถูกหัตถ์ทิพย์ปรายโปรย
    โรยละอองอาบด้วยอัญมณีเพชรพราว....ระยิบระยับ
    
    ตะวัน..ดวง...
    ที่โชติช่วงฉายฉานเฉิดฉันท์พรรณราย
    งามที่สุดในแผ่นดิน...ณ..วันนี้ในวันนี้
    วันครบรอบเฉลิมฉลองครองราชย์ครบ 60ปี
     แห่ง..
    แห่งองค์พระมหาจักรพรรดิในดวงใจ..แห่งปวงชนชาวไทย
    
    สายแสงแดดดั่งดาดทองดาดเพชรพราว
    งามอะคร้าวตกต้องลงกระทบผืนหล้าฟ้าไทย
    ที่กำลังพร่างไสวราวมีรัศมีเหลืองทองสุกปลั่ง
    แห่งแก้วโกเมนมณีงามผ่องผุด
    ขึ้นมาในแดนดินสุวรรณภูมิพุทธิ์ให้แสนพิลาสพิไล
    
    ปวงเทพยาฟ้าดินสิ้นมวลมนุษย์ทั้งโลกหล้า
    ต่างพาแซร่ซร้องสรรเสริญสดุดี
    ดั่งมีเพลงพิณลอยมาจากแดนเทวสวรรค์ทุกชั้นฟ้า
    ที่ต่างพากันมาดีดสีพลีบรรเลงดั่งเพลงพรหมเสนาะ..สนองพร
    
    สายน้ำเจ้าใจพระยาในทิวาราตรีนี้
    ดั่งกระแสธารสีทองล่องไหลมาจากแดนดินศักดิ์สิทธิ์
    มหาบรรพตหิมพานต์ 
    ทิพยพิมานฟ้าขวัญแดนสวรรค์สรวง
    ทอดตัวนิ่งเงียบสงบ 
    เคี้ยวคดดั่งพญานาคจากแดนบาดาลมา
    รอรับขบวนพยุหยาตราอันแสนงามยิ่งใหญ่..ซึ่งหามีไม่แล้วในปฐพี
    ที่ไหนในหล้านี้จะเทียมทันดั่งสวรรค์ลอย
    
    แสงสีทองพร้อยแพร้วพราย
    สาดสายส่องทั่วมหาสกลเวิ้งจักรวาล
    ดั่งแสงแห่งมณีสวรรค์ประดับหล้า
    เสมือนเสมอ..
    รัศมีแห่งหยาดน้ำพระทัยดั่งน้ำค้างฟ้า น้ำฝนทิพย์
    หยาดให้พสกนิกรไทยจิบ ด้วยจิตแสนไสวเกษมเปรมปรีย์ปิติ
    เปี่ยมล้นด้วย...
    พระเมตตามหาบารมีแห่งพระบรมมหากษัตราธิราชเจ้า
    นามพระภูมิพลนวมินทร์มหาราชา...
    พระโพธิทองร่มฟ้า..ร่มฉัตรแห่งผืนดินไทแผ่นดินธรรม...
    พระ..ผู้เปรียบดั่งธารระรินใสสะอาดที่หยาดสายมาจาก
    กึ่งกลางรัศมีพรหมโลก มาดับร้อนผ่อนโศก ให้โลกนี้แสนงาม...
    ไปจนตราบชั่วกาลกัปป์กัลป์...นิรันดร...
    ...............
    
    
    
    
    กองทัพเรือจัดกระบวนพยุหยาตราทางชลมารค
    ในโอกาสประชุมเอเปคในประเทศไทยพุทธศักราช ๒๕๔๖
    ประพันธ์โดย นาวาเอก ทองย้อย แสงสินชัยผู้เห่ 
    พลเรือตรี มงคล แสงสว่าง
                บทที่ ๑ชมเรือ
    
    
    
     
    ลอยลำงามสง่าแม้น 	มณีสวรรค์	   
    หยาดโพยมเพียงหยัน	ยั่วฟ้า	   
    สายชลชุ่มฉ่ำฉัน	เฉกทิพย์ ธารฤา 	   
    ไหลหลั่งโลมแหล่งหล้า	หล่อเลี้ยงแรงเกษม	 
    
      
    เรือเอยเรือพระที่นั่ง 	พิศสะพั่งกลางสายชล	   
    ลอยลำงามสง่ายล	หยาดจากฟ้ามาโลมดิน	   
    สุวรรณหงส์ทรงภู่ห้อย	งามชดช้อยลอยหลังสินธุ์	   
    โอดโฉมโสมโสภิน	ลินลาศเลื่อนเตือนตาชม	   
    นารายณ์ทรงสุบรรณ	ดังเทพสรรเสกงามสม	   
    ปีกป้องล่องลอยลม	ดุจเลื่อนฟ้ามาล่องลอย	   
    กระบี่ศรีสง่า	งามท่วงท่าไม่ท้อถอย	   
    เรือครุฑไม่หยุดคอย	ยุดนาคคล้อยลอยเมฆินทร์	   
    อสุรวายุภักษ์	ศักดิ์ศรีคู่อสุรปักษิน	   
    พายยกเพียงนกบิน	ผินสู่ฟ้าร่าเริงบน	   
    เรือแซงแข่งเรือดั้ง	พร้อมสะพรั่งกลางสายชล	   
    เรือชัยไฉไลล้น	ยลเรือกิ่งพริ้งเพราตา	   
    ยักษ์ลิงกลิ้งกลอกกาย	แลลวดลายล้วนเลขา	   
    รูปสัตว์หยัดกายา	พาโผนเผ่นเป็นทิวธาร	   
    นาวาสถาปัตย์	เชิงช่างชัดเชี่ยวชาญฉาน	   
    ท่อนไม้ไร้วิญญาณ	ท่านเสกสร้างเหมือนอย่างเป็น	   
    ฝีมือลือสามโลก	ดับทุกข์โศกคลายเคืองเข็ญ	   
    ยิ่งยลยิ่งเยือกเย็น	เห็นสายศิลป์วิญญาณไทย	   
    เจ้าเอยเจ้าพระยา	ถั่งธารามานานไกล	   
    เอิบอาบกำซาบใจ	หล่อเลี้ยงไทยแผ่นดินทอง	   
    รวงทองเหลืองท้องทุ่ง 	แดดทอรุ้งเหนือเขื่อนคลอง	   
    ข้าวปลามาเนืองนอง	เรือขึ้นล่องล้วนเริงแรง	   
    วัดวาทุกอาวาส	พุทธศาสน์ธรรมทอแสง	   
    น้ำใจจึงไหลแรง	ไม่เคยแล้งจากใจไทย	   
    เกลียดใครไม่นานวัน	แต่แรกนั้นนานกว่าใคร	   
    เจ้าพระยาหยาดยาใจ	คือสายใยหยาดจากทรวง	   
    เห่เอยเห่เรือสวรรค์ 	เพลงคนธรรพ์ลั่นลือสรวง	   
    ฝากหาวเดือนดาวดวง	อย่าลับล่วงอยู่นิรันดร์เทอญ.	 
    
    บทที่ ๒
    ชมเมือง
    
    
     
    สยามเอยอุโฆษครื้น 	คุณขจร	   
    สุขสถิตสถาพร	ผ่านฟ้า	   
    ไตรรงค์ลิ่วลมสลอน	อวดโลก	   
    ตราบเมื่อนี้เมื่อหน้า 	เมื่อโน้นนิรันดร์เกษม	 
    
      
    สยามเอย สยามรัฐ 	งามร่มฉัตรทัดเทียมโพยม	   
    กิตติศัพ์ขับประโคม	โคมครืนครั่นลั่นหน้าคง	   
    สุโขทัยไกลสุด	ถึงอยุธยายง	   
    ธนบุรีลอยฟ้าลง	ทรงศักดิ์ฟื้นคืนคุณขจร	   
    รัตนโกสินทร์ศิลป์	สืบระบิลอันบวร	   
    แม่นแม้นแดนอมร	ถอนจากฟ้ามาเมืองดิน	   
    เจ้าเอย เจ้าพระยา	ถั่งธารามาเรื่อยริน	   
    ทวยไทยได้อาบกิน	ลินลาศลุ่มขุมกำลัง	   
    งามเอย งามระยับ	แวววาววับวัดเวียงวัง	   
    ย่ำค่ำย่ำระฆัง 	วังเวงหวานซ่านซึ้งเสียง	   
    เจดีย์ศรีสูงเหยียด	เสียดยอดท้าฟ้ารายเรียง	   
    ปรางค์ยอดทอดเงาเคียง 	เลี้ยงตาเมืองเรื้องเรืองรมย์	   
    พืชพันธุ์ธัญญาผล	เลี้ยงชีพชนดลอุดม	   
    นาสวนชวนชื่นชม	ร่มรื่นไม้ไพรพฤกษ์มี	   
    รอยยิ้มพิมพ์ใจสวย	ชนรุ่มรวยด้วยไมตรี	   
    เสน่ห์ประเพณี	ศรีสง่ามานิรันดร์	   
    น้ำใจไม่เคยจืด	อยู่ยาวยืดยิ้มยืนยัน	   
    ต่างเพศต่างผิวพรรณ	แต่ใจนั้นไม่ต่างใจ	   
    แขกบ้านแขกเมืองมา	ไทยทั่วหน้าพาสดใส	   
    ท่านมาจากฟ้าไกล	อยู่เมืองไทยไร้กังวล	   
    เทคโนอาจน้อยหน้า	แต่ข้าวปลาไม่ขัดสน	   
    สินทรัพย์อาจอับจน	แต่ใจคนไม่จนใจ	   
    บ้านเรือนไม่หรูหรา 	แต่สูงค่าปัญญาไทย	   
    หนทางอาจห่างไกล	แต่หัวใจใกล้ชิดกัน	   
    ศาสนาสถาพร	ประชากรเกษมสันต์	   
    ร่มธรรมฉ่ำชีวัน	ฟั้นฝึกใจใฝ่ความดี	   
    ราชันขวัญสยาม	ปิ่นเพชรงามปักธานี	   
    ร่มพระบารมี	ศรีไผทฉัตรชัยชน	   
    ไตรรงค์ธงชัยโชค	ลอยอวดโลกโบกลมบน	   
    ขวัญฟ้าขวัญตายล	ล้นเลิศหล้าศักดิ์ศรีสยาม	   
    เมื่อนี้ตราบเมื่อหน้า	คงคู่หล้ากล้าเกียรติงาม	   
    ใครบุกรุกเขตคาม	ตามหาญหักรักษ์แผ่นดิน	   
    ฟ้าเอย ฟ้าสยาม	งามกว่าฟ้าทุกธานินทร์	   
    เพลงสยามทุกยามยิน	วิญญาณปลื้มดื่มด่ำเอย.	   
    		 
    http://www.rta.mi.th/52200u/songs/honor.htm
  • พุด

    2 กรกฎาคม 2549 12:32 น. - comment id 587939

    ....วังทิพย์คือท้องทุ่ง 
    ม่านงามรุ้งคือเขาเขิน 
    ร้อนหนาวในราวเนิน 
    มาโลมไล้ต่างรสสุคนธ์ 
    ย่างพระบาทที่ยาตรา 
    ยาวรอบหล้าฟ้าสากล 
    พระเสโทที่ถั่งทน 
    ถ้าใหลรวมคงท่วมไทย
    
    เหนือขึ้นไปในดาวดึงส์และพรหมโลก เหล่าดวง
    ตาสุธาสินี กำลังหลั่งน้ำตาและประทานพร ร่วง
    สายพรายพรูด้วยดอกปาริชาต ลงพรมอาบผืน
    พสุธา  และเธอหญิงร่างงามในสไบสีทองกำลัง
    เงยหน้ามองจ้องท้องฟ้า แปลกที่แววตาส่อง
    ประกายสะท้อนทิพย์แห่งปาริชาต  ราวกับรับรู้
    ถึงบางอย่างในดินแดนโพ้นไกล..
    
    
    เกร็ดมณีร่วงรุ้งดุสิตาขจรกระจายลงอาบหล้า
    ทิพยวายุแห่งเทวะอินทรีย์ พัดมาวูบหนึ่ง
    ดวงดอกลั่นทมบนเรือนผมนั้นก็ปลิดปลิวลิ่วลับ
    ตกลงสู่สายน้ำเจ้าพระยามหานที และจมหายไป
    ท่ามกลางเกลียวคลื่นอันเดียวดาย.......
    แหละพลันน้ำตาแห่งเธอก็เริ่มรินไหลลงสบสาย
    แห่งเจ้าพระยามหานที...อย่างมิมีประมาณ
    
    ............
    เธอ...นั่งนิ่งๆริมสายธารธารานามเจ้าพระยา
    หลังข้ามเรือมายังเกาะเกร็ดตระการ
    เพื่อสวดมนต์อธิษฐานบนบานภาวนาสมาธิ
    เพื่อมานั่งดูสายนทีไหลล่อง
    ในคลองตาเธอมีเพียงหยาดน้ำใสคลอคลองซึมซึ้ง
    เมื่อคิดถึงใครคนหนึ่งด้วยความซึ้งโศกสะเทือนใจ
    
    ใครคนที่เคียงชีวีชีวามานับกาลเวลาหลายปีเดือน
    คนที่ดั่งเพื่อนทางจิต มิ่งมิตรที่แสนรู้ใจเข้าใจเธอ
    ให้ฝันฝากเพ้อละเมอหมาย ได้ระบายรักระบายใจ
  • กวีน้อยเจ้าสำราญครับ

    12 กรกฎาคม 2552 09:55 น. - comment id 1013162

    ลีลาวดี ชื่อนี้ ฟังทีไร  ก็คิดถึง นวนิยายรัก อมตะ  ลีลาวดี กับพระ เรวตะ ทุกที
    
    แม้ความหมายในการเรียงรจนา ของพี่พุดจะแตกต่าง จาก ลีลาวดี  เรื่องนั้น ที่ผมชอบจับจิตใจ
    
    รักแลเคารพ  พี่สาวแสนสวย  น้ำใจงาม นามพี่พุดไพร ที่หนึ่งเสมอ

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน