ปางม่วง

นกตะวัน


เราเดินทางผ่านป่าดิบแล้งมาไม่นานนัก จึงเข้าสู่ป่าสนสามใบซึ่งแลเห็นเรียงรายอยู่สองข้างถนน แต่ป่าสนเหล่านี้มิใช่ป่าสนธรรมชาติ แต่เป็นป่าสนที่เจ้าหน้าที่ปลูกไว้นานมากแล้ว เพื่อทดแทนป่าดั้งเดิมที่ถูกหักร้างถางพงทำลายไป ทำให้ทัศนียภาพสองข้างทางดูสวยแปลกตาไปอีกแบบ จนกระทั่งมาถึงหน่วยพิทักษ์ป่า ปางม่วง ซึ่งแลเห็นรูปปั้นของ กระซู่ (Sumatran Rhinoceros) ตั้งเด่นอยู่หน้าหน่วยฯ เพื่อเรียกร้องให้คนไทยช่วยกันอนุรักษ์กระซู่ในป่าภูเขียว
ถึงปางม่วงหวงแหนแดนกระซู่			
รูปปั้นอยู่เยื้องถนนคนมองเห็น
สัญลักษณ์สลักไว้ตั้งใจเย็น				
อยู่โดดเด่นตัวเดียวให้เหลียวมอง
หากมาถึงพึงเห็นตั้งเด่นชัด				
แลถนัดทั้งตัวมิมัวหมอง
ช่วยพิทักษ์ปกปักไว้ใส่ใจตรอง			
สัตว์ป่าของคนเราเฝ้ารักษ์กัน
คือหน้าด่านผ่านมาครั้งคราไหน			
เปิดเข้าไปภูเขียวเที่ยวสุขสันต์
ชมวิหคนกป่านานาพรรณ				
แดนสวรรค์สัตว์ป่ามาผจญ
ล้อมรอบหน่วยด้วยสนต้นสูงใหญ่			
สนสามใบเบียดยอดตลอดถนน
ดูร่มรื่นตื่นตาท้าผู้คน				
มองสุขล้นเหล่าไม้ใต้แดดแรง
พอผ่านประตูหน้าด่านเปิดสู่ป่าภูเขียว รถของเราจึงจอดตรงทางสามแพร่งหน้าหน่วยฯ ปางม่วง เพื่อให้พวกเราออกมาเดินเล่นยืดเส้นยืดสายกันอีกสักพัก เพราะรอบๆหน่วยฯปางม่วงมีต้นสนสามใบสูงใหญ่มากมาย สามารถยกกล้องส่องดูนกกันได้อีกครั้งก่อนมืดค่ำ ทั้งยังมีทิวทัศน์ริมทางที่งดงามน่าชมเป็นอย่างยิ่ง เราเดินกันอยู่ริมถนนตรงทางสามแพร่ง ทางด้านซ้ายไปเขื่อนจุฬาภรณ์ ส่วนทางด้านขวาเป็นเส้นทางที่เราต้องใช้เดินทางกลับกรุงเทพฯ
ชมหมู่ปักษา กลางป่าภูเขียว 28
14 พฤศจิกายน 2547				
comments powered by Disqus
  • กอกก

    17 กุมภาพันธ์ 2548 11:19 น. - comment id 426912

    อยากไปรู้ ไปเห็นด้วยจังเลย
    ตอนนี้ชักสับสนนิดๆ ว่าสนสามใบกับสองใบ แตกต่างกันอย่างไร ที่ลายของลำต้นน่ะค่ะ..
    ต้องไปเปิดตำราดูอีกแล้ว
    
    สวัสดีค่ะ
  • ผู้หญิงไร้เงา

    17 กุมภาพันธ์ 2548 21:33 น. - comment id 427292

    ไม่เคยได้ไปเที่ยวสักทีค่ะ  ว่าง ๆ ต้องหาโอกาสไปบ้างแล้ว  บรรยากาศแบบนี้

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน