ไอดิน...กลิ่นอุ่น...ละมุนจิต หอมหวล...ชวนคิด...พินิจฝัน เคล้าเสียง...เพียงออ...กระทบกัน ดวงจันทร์...หลับใหล...ในปลายคืน ท่ามกลาง...เมฆหมอก...ยามสายสาย สุริยะ...เอียงอาย...คลายรัศมี น้ำค้าง...โบกลา...พื้นธรณี ดนตรี...เริ่มขับ...สลับคลอ
27 มกราคม 2548 15:59 น. - comment id 415779
กาลเวลาเปลี่ยนแปลงไป พร้อมกับความอ่อนไหวในบทกลอน ^o^
2 กุมภาพันธ์ 2548 11:04 น. - comment id 418795
หนทางอันยาวไกล ม้าวิ่งไปใจมุ่งมั่น ทนกับกลุ่มหมอกควัน มุ่งฝ่าฟันสู่ปลายทาง แม้ฝนตกแดดจะออก ใจมันบอกอย่ามาขวาง มุ่งหน้าสู่ปลายทาง อันเลือนลางด้วยใจทรนง หนทางยังยาวไกล แต่ดวงใจไม่อ่อนล้า วิ่งล้มก็ลุกมา เพื่อมุ่งหน้าวิ่งต่อไป แม้ข้าจะขาเจ็บ จะหนาวเหน็บสักเพียงไหน คงมั่นไม่หวั่นใจ สมเป็นชายลูกอาชา แม้หนทางยังอีกครึ่ง ต้องเป็นหนึ่งผู้นำหน้า สู้สุดใจลูกอาชา เหล่าผองม้าจงภูมิใจ ระยะทางเพียงแค่นี้ หรือที่จะล้มข้าได้ ม้าอย่างข้า อาชาไนย พิสูจน์ใจด้วยระยะทาง กาลเวลาอันยาวนาน เปลี่ยนวันวานเป็นวันนี้ แล้วใจคนที่คงที่ มีหรือจะ ไม่เปลี่ยนแปลง น้ำเซาะหินยังกร่อน ใจอ่อนอ่อนยากจะแข็ง เวลาช่วยแจกแจง การเปลี่ยนแปลงของใจคน กาลเวลาอันยาวนาน เปลี่ยนคืนวานเป็นคืนนี้ หากใครใจคงที่ แม้เนิ่นนานผ่านคืนวัน หากจะพิสูจน์ใจ คนนั้นไซร้พึงสำคัญ ดีกลายเป็นร้ายพลัน เราวัดกันด้วยกาลเวลา จะม้าหรือจะคน คลายสับสนด้วยการฉะนี้ ระยะทางพิสูจน์ม้าดี หนึ่งข้อนี้พึงจดจำ ส่วนคนหากดูหน้า ยากเกินกว่าบอกพฤติกรรม ใช้เวลาพิสูจน์การกระทำ จงจดจำให้ดีเอย