ภาพของคนนิ่วหน้าคราร้อนรุ่ม เพราะกลัดกลุ้มเรื่องโกรธถูกโทษขึง ทั้งอากาศปรวนใจให้เครียดตรึง อีกหน้าบึ้งพราะฤทธิ์พิษโรคภัย มีภาระล้นบ่าหลากมาซ้ำ ยิ่งตอกย้ำความอดทนจนหวั่นไหว ความเครียดจากภายนอกและภายใน หรือโรคภัยไล่ล่ามาเหลือทน บางครั้งเขาเบื่อมิตรที่ชิดใกล้ ด้วยจิตใจไม่พร้อมแจงเหตุผล เพราะมุ่งหวังรักษาจิตดับพิษตน จึงเหมือนคนเจ้าอารมณ์ขมวาจา หากพบใครคนนี้ที่ขมฝาด อย่าได้สาดอารมณ์ใส่โทสา ควรเห็นใจให้โอกาสและเวลา สงบคำเจรจาอย่าชวนตี เพราะปัญหา อากาศ และอาการ คือเหตุพาลมาพร้อมเพื่อย้อมสี ให้คนป่วยยิ่งป่วยจิตพิษทวี มิตรชิดใกล้ต้องมีหลักของใจ อย่าซ้ำเติมเพิ่มปัญหาพาหงุดหงิด รอสักนิดรอนาทีที่สดใส เมือหน้านิ่วคิ้วขมวดนั้นคลายไป ค่อยสานใยวจีมีเยื่องาม เมื่อทุกฝ่ายเริ่มพร้อมยอมพบพักตร์ สายสัมพันธ์แห่งรักจักไหลหลาม อย่าหักพร้าด้วยเข่าไม่เข้ายาม จักถึงความแตกใจไม่เหมือนเดิม
18 มกราคม 2548 13:19 น. - comment id 408357
แวะมาเยี่ยมครับพี่ดอกแก้ว...รักษาสุขภาพนะครับ..........
18 มกราคม 2548 13:19 น. - comment id 408358
++ มีความโกรธ นำหน้า ไม่ค่อยเป็นสุข เลยนะคะ ++ +++ มาเยี่ยมจ้า...
18 มกราคม 2548 13:24 น. - comment id 408362
เป็นธรรมอันงามให้สงบทั้งตนและบุคคลอื่นค่ะ
18 มกราคม 2548 13:51 น. - comment id 408380
@...บินเดี่ยวหมื่นลี้... สวัสดีค่ะ... ขอบคุณมากนะคะ ที่แวะมาเยี่ยม และฝากความห่วงใยไว้เสมอ ในยามที่อากาศแปรปรวนอย่างนี้ น้ำใจของมิตร ..จะเป็นเกราะคุ้มครองรักษาต้นไมตรีไว้ได้เป็นอย่างดี ขอบคุณมากค่ะ
18 มกราคม 2548 14:06 น. - comment id 408389
แวะมาทักทายดอกแก้วค่ะ...........เขียนได้เพราะจังค่ะดอกแก้ว..
18 มกราคม 2548 14:10 น. - comment id 408391
^_____^ ต้องให้เวลาพายุแห่งอารมณ์ได้สงบก่อนเนอะ อิอิ อย่าซ้ำเติม คำสั้น ๆ ที่จะช่วยให้อะไร ๆๆ ดีขึ้นคะ แวะมาทักทายพี่ดอกแก้วจ๊ะ รักษาสุขภาพด้วยนะคะ
18 มกราคม 2548 14:16 น. - comment id 408397
@...namsai... สมัยนี้ชนวนแห่งความโกรธมีเยอะมาก ถ้าไม่มีการควบคุมจิตใจ และทำความเข้าใจในธรรมชาติให้ดีแล้ว..สมรภูมิของโทสะก็เกิดขึ้นได้ง่าย อากาศที่แปรปรวนก็มีผลต่ออารมณ์ อาหารที่ไม่ดีก็มีผลต่ออารมณ์ โรคภัยไข้เจ็บก็มีผลต่ออารมณ์ และปัญหา..ก็ยิ่งมีผลต่ออารมณ์เข้าไปใหญ่ น้องคนหนึ่งเล่าว่า .. ในสำนักงานของเขามีปัญหามากมาย โดยเฉพาะการขัดแย้งกันระหว่างเจ้านายกับลูกน้อง สอบถามได้ความว่า ...เจ้านายเป็นคนใจร้อนและช่วงนี้มีภาระรับผิดชอบมาก ส่วนลูกน้องก็กำลังเข้าสู่วัยทอง จึงมีอารมณ์แปรปรวนไม่ปกติ ทั้งที่เมื่อก่อนเป็นคนอารมณ์ดีและใจเย็นมาก เหตุการณ์บานปลายขึ้นเมื่อลูกน้องถูกเรียกไปตำหนิในขณะที่ยังมีอารมณ์คุกรุ่นจากความโกรธ และก็เลยปาระเบิด(โทสะ)ใส่ผู้คนในสำนักงานไปเรื่อยเปื่อย ซึ่งบางคนก็โกรธตอบเพราะถือตัวว่าไม่ควรได้รับการกระทำเช่นนี้...บางคนก็ไม่ถือสาเพราะเข้าใจในความไม่ปกติที่เกิดขึ้น เมื่อเวลาผ่านไป..เมื่อมือระเบิดสงบใจได้แล้ว ก็พูดคุยกับทุกคนอย่างดี ...เพียงแต่กับบางคนนั้นไม่เหมือนเดิมเพราะผู้ถูกกระทำนั้นผูกโกรธและมีความถือตัวมากนั่นเอง สิ่งหนึ่งที่ไม่ควรทำคือการพยายามดึงดันให้เหตุผลเพื่อเอาชนะกันในขณะที่ต่างก็ไม่พร้อมในการยอมรับเหตุผลของฝ่ายตรงข้าม ผู้ที่อยู่ใกล้ชิดและเป็นมิตรสหายควรมีเมตตากับผู้ที่ตกอยู่ในภาวะเช่นนี้ โดยโยกย้ายอารมณ์ของผู้โกรธให้ผ่อนคลาย ....และถ้าหากเป็นวิธีการทางพุทธแล้ว ..การคลายพยาบาทนิวรณ์นี้ก็ด้วยการชักชวนให้เกิดความสงบ มีการทำสมาธิเป็นต้นนั่นเองค่ะ ขออภัยนะคะที่คุยมาเสียยาว ขอบคุณมากค่ะที่แวะมาเยี่ยม
18 มกราคม 2548 14:22 น. - comment id 408401
@...คุณทิกิ... สวัสดีค่ะที่พบกันที่นี่ คราวก่อนเขียนไว้โดยยังไม่ได้ขัดเกลา เพราะมีเวลาจำกัด ความเมตตา...เป็นสิ่งที่ชื่นเย็นที่สุดเมื่อร้อนใจ สติและปัญญา..มีค่าที่สุดในการดับพิษร้อน ขอบคุณที่แวะมานะคะ
18 มกราคม 2548 14:25 น. - comment id 408406
@...แก้วนีดา... ขอบคุณค่ะแก้วนีดา อยากฝากกลอนบทนี้ไว้ให้อ่านกัน แม้จะดูเป็นเรื่องทั่วไป ..แต่ก็มักเป็นปัญหาใหญ่ และก่อให้เกิดปัญหาใหม่ในการคบหาสมาคม หรือการอยู่ร่วมกันเสมอ .. ความเข้าใจและให้อภัยกันชักลดน้อยถอยลงทุกทีแล้วในขณะนี้ โดยเฉพาะความเป็นไปในครอบครัวที่ระหองระแหงกันจนกลายเป็นความแตกร้าว
18 มกราคม 2548 14:28 น. - comment id 408411
@...แอ็ปเปิ้ล... การฝ่าพายุนั้นอันตราย ยิ่งเป็นพายุอารมณ์ด้วยแล้ว หากไม่มีสติปัญญามั่นคงเพียงพอก็ยากที่จะฝ่าไปได้ เมื่อเรายังไม่แกร่ง ก็ต้องรอเวลาให้พายุสงบแล้วค่อยเดินทาง ความเสียหายก็จะไม่เกิดขึ้นกับทุกฝ่าย ขอบคุณที่แวะมาทักทายนะคะ
18 มกราคม 2548 14:56 น. - comment id 408450
โฮ้ยยยยย .... พี่ดอกแก้วขา อาการนี้เหมือนอุ๊เมื่อวานเลยค่ะ แบบนี้เล๊ยยยย ... โดนค่ะ
18 มกราคม 2548 14:58 น. - comment id 408451
อิกรอบค่ะ .... แต่นู๋ยังไม่ถึงวัยทองนะคะ แฮ่ะ ๆๆ.... ร้อนตัวค่ะ ม่ายด้ายยยยยยยยยย
18 มกราคม 2548 14:59 น. - comment id 408452
ชอบมากเลยค่ะ บางครั้งกำลังกลุ้มๆกับโดนซ้ำเติมทำให้คิดว่า เราไม่มีที่พึ่งเลยบางทีเขาก็ไม่ได้ซ้ำเติมหรอกค่ะ แบบสอนมากกว่า แต่เรากำลังเครียดๆเลยคิดว่าบ่น และซ้ำเติมอยู่เสมอ
18 มกราคม 2548 15:32 น. - comment id 408473
ทำหน้านิ่วคิ้วขมวดปวดศีรษะ ไม่เอานะไม่งามยามพบเห็น ซ่อนอารมณ์ข่มโมหะทุกประเด็น แล้วยิ้มเย็นเยือนเย้าคนเข้าใจ
18 มกราคม 2548 15:39 น. - comment id 408483
เห็นใจคนโกรธค่ะ เมื่อก่อนโกรธตอบค่ะ แต่ตอนนี้ไม่โกรธแล้วค่ะ
18 มกราคม 2548 15:59 น. - comment id 408490
@...น้องอุ๊ สาวดำคนสวย... โดนแล้วหรือคะ ...แต่คงอาการไม่สาหัสจึงมารำพันแถวนี้ได้ ใจเย็นๆนะคะ ...อย่าถือสาลูกหลงอย่างนี้ คิดเสียว่า โดนบ่อยๆก็จะชินกับการเรื่องราว และก็เพิ่มความสามารถในการให้อภัยได้มากขึ้น... และกว่าจะถึงวันนั้น(วัยทอง) ก็จะมีการปรับใจได้ดีกว่าคนรุ่นเดียวกันไงคะ
18 มกราคม 2548 16:07 น. - comment id 408494
@...น้องอุ๊ คนเมืองลิง... มักจะได้รับฟังบ่อยๆจากคนที่หน้านิ่วคิ้วขมวดว่า... ตอนที่กำลังโกรธนั้น อย่าเพิ่งมาเซ้าซี้เพราะอาจโดนลูกหลง อยากอยู่เงียบๆคนเดียวแบบพี่เบิร์ด.. แล้วทุกอย่างจะดีขึ้นเอง แต่ถ้ายิ่งตักเตือน หรือถูกบ่นว่าก็เหมือนยิ่งเติมไฟให้ลุกโพลงต่อไป มาเขียนมาอ่านกลอนกันให้สบายใจนะคะน้องอุ๊ลิงจ๋อ
18 มกราคม 2548 16:10 น. - comment id 408496
@...หนอนสายตายาว... อย่าผูกโบว์ที่คิ้วทำนิ่วหน้า ไม่งามตาไม่เหมือนกล่องของขวัญ ยิ้มเข้าไว้ให้อภัยเข้าใจกัน แต้มริมปากเฉิดฉันท์ด้วยยิ้มงาม สวัสดีค่ะหนอนสายตายาว มายิ้มๆๆๆกันนะคะ
18 มกราคม 2548 16:14 น. - comment id 408504
สาธุพี่ดอกแก้วจ๊ะ มาอ่าน เรือ่งราวดีดี ที่สอนสั่งค่ะพี่ ทุกวันนี้ ทำใจ ให้เยือก ยิ่ง เหมือนน้ำแข้ง แล้ว ได้แค่ไหนแค่นั้นค่ะพี่ แต่ก้นะ ........คน ค น ค นค น คน ค่ะ ทำใจที่จะต้อง ผขญ ค่ะ พี่
18 มกราคม 2548 16:16 น. - comment id 408506
@...น้องคิม... เมื่อใจเย็นเห็นใจในคนทุกข์ ไม่เร่งรุกเอาใจตนจนใครหมอง เห็นใจคนผู้มากปัญหากอง ต้องประคองน้ำใจให้แก่กัน คนรอบข้างอย่าดึงดันสรรหาเรื่อง ไม่ขุ่นเคืองสิ่งที่เห็นเป็นหุนหัน เอาใจเขาใส่ใจเรา..เข้าใจกัน อย่าดึงดันไร้ประโยชน์โปรดเมตตา สาธุ..ค่ะน้องคิม ผู้ที่อยู่ใกล้ หรือเพื่อนร่วมงานกับน้องคิมคงดีใจนะคะ ที่มีน้องคิมให้ความเข้าใจอย่างนี้ ขอบคุณที่แวะมาค่ะ
18 มกราคม 2548 16:20 น. - comment id 408514
@...ดาหลา & ปะการัง... ทำที่ตนฝึกที่ตนเปลี่ยนที่ตน จะเห็นผลงานใจไม่ไร้ค่า ลดความหมองคิ้วขมวดปวดอุรา สยบตนดีกว่าสยบใคร ขอบคุณที่แวะมาค่ะน้องนิ่ม ทำเท่าที่ทำได้นะคะ ..แล้วความสุขจะเป็นของเรา
18 มกราคม 2548 16:23 น. - comment id 408519
อย่าซ้ำเติมเมื่อไม่รัก อย่าตอกย้ำเมื่อเห็นฉันไร้ค่า อย่ามาแกล้งเป็นใส่ใจ ในเมื่อเธอไม่ใยดีรักกันเลย ดีใจจังที่พี่สาวกลับมาแย้วหายไปนานคิดถึงจังเยยนะคะ
18 มกราคม 2548 16:35 น. - comment id 408529
@...หมูหวาน เพราะรัก... ให้เวลาอย่าประชิดจนมิตรท้อ คอยและรออารมณ์บ่มความหวาน พูดอะไรก็จะเหมือนเคลือบน้ำตาล ไม่ระรานใจใครให้ทุกข์เติม ขอบคุณค่ะน้องหมูหวาน.. วันนี้พอมีเวลา..มาแล้วและก็จะหายไปอีกแล้ว จะได้คิดถึงมากๆไง
18 มกราคม 2548 18:44 น. - comment id 408639
ยาว และมีเอกภาพดี ค่อย ๆ เล่าเรื่องราว และจบลงที่รัก ที่โชลมใจคนทั้งโลก เพราะทีเดียว ชื่นชมค่ะ
18 มกราคม 2548 22:44 น. - comment id 408820
อย่าซ้ำเติมเพิ่มสีป้ายตีแผ่ เรื่องที่แย่อาจยับเยินเกินแก้ได้ หันหน้าพบสงบจิตสนิทใจ ควรที่ใช้น้ำเย็นยกลูบคิง
19 มกราคม 2548 00:07 น. - comment id 408896
เมื่อกงล้อกาลเวียนเปลี่ยนหมุนผ่าน รวีเมื่อวันวานที่หลีกหาย คืนสู่ฟ้าชุบชีวีกลับคืนกาย ที่วางวายชั่วครู่คืนกลับคืนมา เพราะนี่คือปรัชญาแห่งชีวิต ถูกลิขิตวาดไว้อย่าอ่อนล้า ทุกดวงจิตว่ายเวียนตามชะตา อยากหลุดพ้นจงค้นหาเส้นทางธรรม....
19 มกราคม 2548 00:15 น. - comment id 408906
สงบ สยบ เคลื่อนไหว
19 มกราคม 2548 00:16 น. - comment id 408907
อย่าเพียงใช้เพียงอารมณ์ข่มใครเขา เมื่อความเศร้ารุมเร้าทุกข์ถาโถม จึงคอยปลอบตามชอบเพื่อประโลม ให้ทุกข์โลมละจากเขาจงเข้าใจ *-*ชอบจังเลยค่ะบทนี้ คิดถึงเสมอนะค่ะ*-*
19 มกราคม 2548 16:27 น. - comment id 409242
สวัสดีค่ะพี่ดอกแก้ว ไม่ต้องเป็นห่วงกานต์นะคะพี่ดอกแก้ว กานต์ไม่มีปัญหาในเรื่องนี้แน่นอนค่ะ เวลาคนโกรธ โมโห กานต์ไม่มีวันเอาน้ำมันไปราด หรือ เติมเชื้อไฟให้หรอกค่ะ เวลานี้เป็นเวลาที่น่ากลัวที่สุดเลยค่ะ กานต์เคยเห็นด้วยสิคะ ก็เลยกลัว ได้แต่มองตาปริบๆกับยิ้มให้กำลังใจค่ะ ขอบคุณนะคะพี่ดอกแก้วสำหรับข้อคิดดีๆ
19 มกราคม 2548 16:36 น. - comment id 409250
@...ภาวิ... ขอบคุณในความเห็นค่ะภาวิ ให้กำลังใจมากทีเดียว ... พี่ดอกแก้วตั้งใจที่จะเขียนกลอนเพื่อมุ่งเสนอสาร ลงสู่บทธรรม.. โดยรักษารูปแบบของฉันทลักษณ์ไว้เท่าที่มีความสามารถ ชื่นชมนักเขียนหลายท่านในที่นี่ที่ใช้คำได้สวยงาม มีความคมคายและให้เสน่ห์ของบทกวี ซึ่งเป็นความสามารถที่พี่ดอกแก้วไม่มี ขอบคุณที่แวะมาชมและให้กำลังใจค่ะ
19 มกราคม 2548 16:36 น. - comment id 409252
@...ชัยชนะ... บางคนใจร้ายนักปักใจโกรธ ป้ายสีโทษผู้อื่นเป็นหมื่นสี ความผิดตนกลบเกลื่อนเลือนวจี ยิ่งร้อนรุ่มยิ่งทวีโคลนสาดกัน ใช้น้ำเย็นล้างกายให้หมดสี ใช้เมตตาล้างฤดีที่หุนหัน ใช้อภัยเป็นสะพานสานผูกพัน เพราะไม่นานต่างถึงวันชีพมลาย ความเห็นนี้ของชัยชนะชอบมากค่ะ ..อย่าซ้ำเติมเพิ่มสีป้ายตีแผ่.. และก็ตามไปอ่านคำตอบแล้ว ..ขอบคุณมากนะคะ ว่าแต่ ..ลูบคิง..เนี่ย ทำไงน่ะ
19 มกราคม 2548 16:37 น. - comment id 409253
@...idaho... วัฏฏะเวียนเปลี่ยนไปไม่หยุดนิ่ง ทับถมสิ่งหมักหมมปมตัณหา ให้เวียนว่ายตายเกิดในโลกา ตามแรงกรรมนำพาทั้งบาปบุญ พบสิ่งดีมีใจติดในสุข พบความทุกข์ไขว่คว้าหาดีหนุน บางคนคว้าถูกทางในรางบุญ บางคนผิดติดทุนตัณหาครอง ในปวงบุญมีชั้นท่านแบ่งช่วง บุญที่ถ่วงชีพไว้ให้หม่นหมอง มีโลกียสุขเฝ้าใฝ่ปอง อีกบุญหนึ่งเป็นคลองสู่นิพพาน ค่ะ..หากเข้าใจในความเป็นไปของชีวิต และธรรมชาติ ..โอกาสที่จะปลดตนออกจากการร้อยรัดของปัญหา ก็จะมีสูง และโอกาสที่จะพิจารณาหาเส้นทางธรรมที่ควรดำเนินก็จะมีมากขึ้น ขอบคุณค่ะ idaho
19 มกราคม 2548 16:37 น. - comment id 409254
@...extreme life... ความโกรธ..เป็นอาการหนึ่งของโทสมูลจิต ในเบื้องต้นนั้น วิธีการที่จะระงับหรือข่มไว้ได้ ..ก็ต้องใช้คู่ปรับที่ดี คือการทำสมาธิ ..มีความสงบน่ะเอง เมื่อสงบที่ตนได้ ..ก็ไม่กระทบกระเทือนถึงผู้อื่นให้มีลูกโซ่แห่งกรรมเกิดขึ้นอีก ขอบคุณที่มาทักทายค่ะ
19 มกราคม 2548 16:38 น. - comment id 409255
@...ผู้หญิงไร้เงา... ไม่ตอกย้ำซ้ำใครให้ยิ่งช้ำ ไม่พูดพร่ำตำหนิติรอยผิด ไม่ก้าวข้ามคนล้มให้บ่มพิษ ไม่สะกิดแผลเก่าเพราะเข้าใจ สวัสดีค่ะน้องตูนคนน้ำใจงาม ขอบคุณที่แวะมาให้กำลังใจนะคะ บทกลอนของน้องตูนน่ารักมาก..ไปอ่านคำตอบมาแล้วละ
19 มกราคม 2548 16:42 น. - comment id 409259
@...น้องกานต์... สวัสดีค่ะน้องกานต์ ดีใจที่ได้ทราบว่าน้องกานต์ไม่ได้ร่วมเป็นผู้วางเพลิงหรือมือระเบิด .. ขอให้รักษาความเยือกเย็นนี้ได้ตลอดไปนะคะ กลอนบทนี้ พี่ดอกแก้วเขียนไว้ก่อนที่จะถึงวันครู ..แต่เพิ่งมีโอกาสนำมาวางไว้ที่นี่ และวันนี้พี่ดอกแก้วก็ทำตามคำสัญญาที่ให้ไว้แล้วนะคะน้องกานต์ ...คาน... เรือนหลังงามต้องตามองค์ประกอบ ต้องรอบคอบจากฐานที่แน่นหนา ทั้งพื้นเรือนเรื่อยไปถึงหลังคา ควรตีตราแข็งแรงแสดงตน รูปโครงสร้างสมดุลทุ่นน้ำหนัก มีเสาหลักปักตรึงถึงพื้นหน ในแนวตั้งฝังรากสู่เบื้องบน และแนวนอนผ่อนปรนด้วยเสริมคาน เพื่อให้เรือนคงร่างสร้างเป็นหลัง ไม่ล้มพังเอียงแตกแยกจากฐาน สิ่งสำคัญต้องประกอบด้วยตัวคาน รับน้ำหนักชั้นบ้านและหลังคา เหมือนความดีที่เพียรสู่เป้าหมาย ปูพื้นศีลเรียงรายอย่างแน่นหนา ลงขันติเสาหลักในมรรคา มีอินทรีย์ทั้งห้าเป็นคานรอง พร้อมศรัทธาเพียรไปใฝ่ระลึก ตั้งมั่นตรึกเพื่อละชนะหมอง รู้เว้นบาปกระทำบุญสร้างทุนทอง อินทรีย์คือคานรองเรือนยอดงาม บ้านทั้งหลังจึงยังเด่นสง่า มีหลังคาความดีที่ล้นหลาม ตั้งบนคานอินทรีย์ที่แกร่งนาม สมบูรณ์ความเป็นเรือนเหมือนความดี ....จบค่ะ....
19 มกราคม 2548 17:18 น. - comment id 409286
กานต์ขอบพระคุณพี่ดอกแก้วนะคะ กานต์ขอเก็บไว้ก่อนนะคะ แล้วจะเขียนกลอนตอบพี่ดอกแก้วด้วยค่ะ แต่จะได้ดีไหมน้า พี่ดอกแก้วรอกานต์ก่อนนะคะ ขอคิดแป๊บก่อนค่ะ
26 มกราคม 2548 20:52 น. - comment id 413372
@^_^@ ...oh ! very nice...... ไพเราะมาก....
28 มกราคม 2548 14:40 น. - comment id 413563
@...อาหมวย... ขอบคุณมากค่ะ...