ทะเลดาววาววับจับท้องฟ้า ยากอรรถาจารึกเป็นอักษร หัวใจข้าเปล่าเปลี่ยวเดี่ยวอาวรณ์ จึงจากจรนคราดั้นมาไกล ที่หมอกขาวพราวร่วงพุ่มพวงฝอย ซึ่งบนดอยภูสูงสนไสว ที่แสงดาววาววับจับดวงใจ ซึ่งรายล้อมคนมากมายแต่เหงาตรึง ธรรมชาติห่อหุ้มชุ่มดวงจิต ธรรมมิตรยามนี้คือที่พึ่ง ชีวิตสาวหนาวเหน็บเจ็บรุมรึง มากางขึงเต๊นท์ผ้าใบใต้ต้นพัก แล้วนั่งทอดอารมณ์ชมราวป่า หยิบกีต้าร์มาคลอคลามิหน่วงหนัก เหล้ามีหยิบจิบนิดชุ่มจิตนัก เพลง ความรัก พัดลอยปล่อยตามลม เวลาหลับกลับตื่นดื่มด่ำดาว แกล้มกับเหล้าลงคอบ่ผสม แกล้มน้ำตาเพลาคิดยามชิดชม เคยสุขสมแล้วมาล้างห่างพ้นกัน เคยคอยเคล้ายวนยีชะโลมจูบ เคยเฝ้าลูบเฝ้าไล้ดึกผายผัน เคยกกกอดโอบแนบแอบชิดกัน เคยสุขสันต์ลึกล้ำฉ่ำดวงใจ ทอดอารมณ์ตาหลับดับแสงดาว ไล่ความหนาวยกจอกดอกสุดท้าย รุนกีต้าร์เข้าเตนท์ถดเร้นกาย ระลึกหมายใกล้คนรักที่หักพัง รูดซิปติดปิดเต๊นท์เอนอินทรีย์ ดวงฤดีหมายถึงซึ่งเนื้อหนัง แท่งเนื้อหนั่นโนมแน่นแล่นจากกัน รูดซิปเปิดหลืบสวรรค์เร่งครรไล
14 ธันวาคม 2547 00:04 น. - comment id 388124
ขอให้ เร่งไปตามครรลอง ละกัน ครับ :]
14 ธันวาคม 2547 00:05 น. - comment id 388125
ขอให้ เร่งไปตามครรลอง ละกัน ครับ ดาวลักษมณ์ :]
14 ธันวาคม 2547 02:06 น. - comment id 388144
ช่างบรรยายดีแท้ ไม่อยู่ซะสิบวันมีกวีแอร่มมาเขียนได้ ระยับใจดี
14 ธันวาคม 2547 21:51 น. - comment id 388779
กลอนน่ารักดีค่ะ