ฟ้าคลั่งฝนหลั่งลง สู่แม่โขงที่รินไหล สาดคลื่นกลืนทรวงใน อุทกภัยไม่ยั้งมือ น้ำหลากมากล้นฝั่ง โขงมนต์ขลังเฝ้าหลั่งริน ไหลเหยียบเรียบแผ่นดิน ทรัพย์ศูนย์สิ้นถิ่นลำเนา ป่าไม้โดนถูกตัด ภัยพิบัติจึงเยื่องกลาย น้ำนองสองฝั่งคล้าย ถูกทำลายด้วยสายชล อนิจจาเทพารักษ์ ไม่ปกปักสักเพลา ปล่อยให้น้ำไหลมา ท่วมหลังคาข้านี้ตรม เหน็ดเหนื่อยและเหมื่อยล้า โชคชะตามาทับถม ปอกลอกหยอกความตรม ข้าระทมขมฤทัย พืชหลักผักนาไร่ หมูเป็ดไก่ลอยตายเกลื่อน เห็นภาพแล้วลางเลือน ใบหน้าเปื้อนเยือนน้ำตา นั่งนิ่งอิงเสาบ้าน ข้าซมซานผลาญหมดไป น้ำโขงเคยโยงใย ครานี้ไม่ใฝ่สัมพันธ์ หนี้ต้นทั้งหนี้ดอก เขียวบานงอกออกเพิ่มพูน ทุนหายกำไรศูนย์ ทั้งนายทุนทวงวุ่นใจ จะกู้สู้อีกหน เขาก็บ่นทนไม่ไหว ตังค์เก่ายังเน่านัย ยืมเงินใหม่คงไม่คืน ลูกสี่ที่มีอยู่ คงอดสูหมดหนทาง ร่ำเรียนคงต้องห่าง คงลาร้างสร้างฝันไกล ข้าวไม่มีจะกิน ทั้งหนี้สินบานเหลือหลาย ตั้งหน้าอย่ามัวอาย น้ำโขงร้ายพ่ายน้ำแรง
10 ธันวาคม 2547 10:37 น. - comment id 386000
อืม ดีนะคุณแต่งได้ดี ขอบอกเตือนใจดีครับ
10 ธันวาคม 2547 10:59 น. - comment id 386006
บั้งไฟพญานาค อยากไปดูครับ มันเป็นยังไง?
10 ธันวาคม 2547 22:14 น. - comment id 386267
น้ำแรงที่เพียรทำ จะน้อมนำสู่ผลใหญ่ เหงื่อรินที่รินไหล เพื่อสู้ให้ได้เงินตรา *-*แต่งได้ดีค่ะ*-*
11 ธันวาคม 2547 21:41 น. - comment id 386817
:]