กาพย์ฉบัง ๑๖ ห่อ โคลงโบราณวิชชุมาลี ใจกู ใจมึง ใจธรรม ใจกระจ่าง ใจกวี : หนึ่ง ใจสุมาลย์นั้นกรุ่นด้วย เรณู ฉมแห่งใจกวี กว่านั้น โดยดาวแต่งฟ้าดู จึงเด่น ฤเทียบพากย์กวิคั้น แต่งคำ ฯ เรณูขับ-สุมาลย์กรุ่น ฟ้าค่ำดาวดุน จึ่งพรายจึ่งเพริศเฉิดฉันท์ งามฉมพากย์ที่กวีปัน ถักถ้อยร้อยวรรณ งามฉมกว่านั้น-บันลือ ฯ ใจกู ใจมึง ใจธรรม ใจกระจ่าง ใจกวี : สอง คือใจแห่งเด็กจ้อย ไป่ลวง ไป่ราดกิเลสดำ แต่งแต้ม คือใจกู่ขานทวง อิสระ อิสระดั่งหญ้าแย้ม ดอกใบ ฯ คือใจเยี่ยงใจเด็กจ้อย มืดมากดำน้อย ไป่ทาบไป่ทามลามลง ใจกวีคือใจเจาะจง สร้างเจตจำนง ให้อิสระได้โรจน์เรืองรอง ฯ ใจกู ใจมึง ใจธรรม ใจกระจ่าง ใจกวี : สาม คือใจแน่นหนักได้ ดั่งดิน แลเคลื่อนอยู่ดุษณี ดั่งน้ำ ดั่งลมวูบว่องยิน สรรพสิ่ง แลไล่ปฏิกูลให้คร้าม ดั่งไฟ ฯ คือดินคือน้ำลมไฟ ควั่นเกลียวอยู่ใน จิตแจ้งจิตหนึ่งนิ่งนาน คือจิตมุ่งม้างปฏิการ ต่ำช้าสาธารณ์ ให้ร่อยให้ปลาตลงลาญ ฯ ใจกู ใจมึง ใจธรรม ใจกระจ่าง ใจกวี : สี่ คือใจดาวแห่งฟ้า ปักษ์แรม เพียงส่องประกายใส แก่พื้น คือใจแห่งสุมาลย์แซม สีสด เพียงแต่งโลกให้ชื้น แก่ตา ฯ คือใจแห่งดวงดารา อุทิศแต้มทา แก่ทุ่งฟ้าค่ำคืนแรม คือใจดั่งกลีบสุมาลย์แซม-สีสดปนแปม แก่พื้น, แก่ค่า ตาคน ฯ ใจกู ใจมึง ใจธรรม ใจกระจ่าง ใจกวี : ห้า คือใจอยู่เพื่อสร้าง สุนทรีย์ เบอกอักขรทิพย์เยียวยา โลกแล้ง คือใจเปี่ยมปรีตี ในศักดิ์ คือศักดิ์อันรู้แจ้ง แก่นธรรม ฯ คือใจอิ่มคุณสุนทรีย์ เบอกอักขระปรีตี เพื่อกล่อมโลกแล้งให้ละมุน คือใจเปี่ยมเต็มธรรมคุณ เมตตาการุณย์ แก่ผองสัตว์โลกร่วมเวร ฯ ใจกู ใจมึง ใจธรรม ใจกระจ่าง ใจกวี : หก คือใจดั่งนกฟ้า เริงตะวัน หลุดล่วงจากกฎกรรม บ่วงแร้ว เสพย์ภพทิพยญาณอัน อิสระ ถ้วนสรรพสิ่งล้วนแล้ว ไป่ครอง ฯ คือใจดั่งนกฟ้า หลุดพ้นขื่อคา เสพย์ในทิพยรูปเสรี คือใจหลุดว่างวิธี ไป่ติด ชั่ว-ดี จึงไป่แย่งยื้อถือครอง ฯ ใจกู ใจมึง ใจธรรม ใจกระจ่าง ใจกวี : เจ็ด คือใจพรหมวิหารสี่ตั้ง เต็มธรรม แลแจ่มใจครรลอง หลุดพ้น ว่างสงบอยู่ในธรรม อันก่อ อันก่อเพียงเพื่อค้น ก่นทาง ฯ คือใจแต่งใจในพรหม- วิหารสี่ประนม ประนังไว้แจ้งแห่งใจ คือใจว่างนิ่งอยู่ใน กรรมใกล้กรรมไกล อันก่อเพื่อค้นก่นทาง ฯ ใจกู ใจมึง ใจธรรม ใจกระจ่าง ใจกวี : จบ ใจ-จักรวาลวาดไว้ ดั่งใด กวี-ก็วาดใจวาง ดั่งนั้น คือ-ใจว่างใจใส ใจสด ธรรม-จึ่งแต่งเค้นคั้น ก่องใจ ฯ คือใจผนึกภาพจักรพาล มาก่อในกานท์ อันก่อมุ่งเกื้อเอื้อคน คือใจใสผ่องส่องผล ไร้ห่วงทำงน จึงไป่สูง-ต่ำ, ลำเอียง ฯ คุณภูมิ เขตรอยต่อชายแดนไทย-ลาว ด่านภูดู่,๒๕๔๗
7 ธันวาคม 2547 17:13 น. - comment id 384429
กาพย์ฉบัง ๑๖ ห่อ โคลงโบราณวิชชุมาลี ไม่มีบัญญัติวิธีการแต่งบทกวีวิธีนี้มาก่อนผมคุณภูมิขอกราบอนุญาตบรรพชนครูกลอนกวีในการนำกาพย์ฉบัง ๑๖ มาแต่งร่วมกับโคลงโบราณวิชชุมาลี โดยใช้การแต่งในลักษณะกาพย์ห่อโคลง โดยใช้ข้อบัญญัติหรือกฎข้อบังคับต่าง ๆ เหมือนกับ กฎของกาพย์ฉบัง ๑๖ และโคลงโบราณวิชชุมาลีทั้งสิ้น หมายเหตุ ปกติแล้วการแต่งกาพย์ห่อโคลงจะใช้แต่งขึ้นโดยใช้กาพย์ยานี ๑๑ สลับ กับโคลง ๔ สุภาพ โดยที่ ทั้งกาพย์ยานี ๑๑ และโคลง ๔ สุภาพ จะต้องมีเนื้อความอย่างเดียวกัน คือให้วรรคที่ ๑ ของกาพย์ยานี ๑๑ กับบาทที่ ๑ ของโคลง ๔ สุภาพ บรรยาย ข้อความอย่างเดียวกัน หรือบางทีก็ให้คำต้นของวรรคของกาพย์กับคำต้นของบทโคลงเป็นคำเหมือนกัน ส่วน ข้อบัญญัติหรือกฎข้อบังคับต่าง ๆ เหมือนกับกฎของกาพย์ยานี ๑๑ และโคลง ๔ สุภาพทั้งสิ้น บทกวีบทนี้เป็นอีกบทหนึ่งที่ผมตั้งใจบรรสานสรรค์สร้างมันขึ้นมาด้วยชีวิตและจิตใจที่เสพสมความเป็นกวีในธรรม ขอให้ท่านผู้อ่านกำซาบอาบรสแห่งบทกวี ขอบคุณครับสำหรับทุกๆกำลังใจ ถ้อยติชมของทุกท่าน เสมือนแรงแห่งการเคลื่อนแห่งสรรพาค์ของผม ขอขอบคุณจริงๆ คุณภูมิ
7 ธันวาคม 2547 17:29 น. - comment id 384448
เป็นไงบ้างครับคุณภูมิ เที่ยวสนุกมั้ยครับ กลับมาก็เอาบทกวีที่มีค่าต่อจิตใจมาฝากเลยนะครับ ไพเราะ งดงาม ละเมียด และแข็งกร้าวในบทกวี จะติดตามผลงานตลอดไปครับ
7 ธันวาคม 2547 17:48 น. - comment id 384459
ลงตัวในบทกวี ความหมายที่สื่อได้เห็นภาพไพเราะในสำนวน โดยใช้คำที่เป็นภาษาวรรณคดีโบราณ เป็นการประยุกต์ที่ไพเราะมากค่ะ ชอบบทกวีของคุณภูมิทุกบทค่ะเป็นงานที่ทำออกมาด้วยความตั้งใจ ขอบคุณสำหรับบทกวีค่ะ
7 ธันวาคม 2547 17:49 น. - comment id 384460
อืมม มาอ่านแล้วได้ความรู้มากมายค่ะ เคยแต่ลองกาพย์ห่อโคลงสี่สุภาพ โคลงโบราณยังไม่เคยลอง ไว้ว่างๆก่อน อาจจะนึกสนุกลองบ้างค่ะ ตอนนี้ไส้แห้งพอๆกับสมองกลวงเล็กน้อย พักเอาแรงสักนิด ค่อยคิดเขียน ค่ะ :)
7 ธันวาคม 2547 18:05 น. - comment id 384468
ได้ทั้งความรู้และความงดงามของบทกวีค่ะ
7 ธันวาคม 2547 19:47 น. - comment id 384517
ผมโชคดีมากที่ได้รู้จักthaipoem และได้อ่านงานประณีตของคุณภูมิ ขอบคุณครับ
7 ธันวาคม 2547 22:46 น. - comment id 384710
:)
7 ธันวาคม 2547 23:28 น. - comment id 384762
ขอขอบคุณทุกคำติชมด้วยใจจริงครับ
8 ธันวาคม 2547 07:06 น. - comment id 384879
แวะมาอ่าน
8 ธันวาคม 2547 09:32 น. - comment id 384922
ขอบคุร คุณภูมิ งานงามๆ ๆ ได้ความรู้ แต่ ยังคุด คู้ อยู่ ในรู อ่านไป เรื่อยๆๆ ก่อน เพราะ ปัญยา ยังม่ายเกิด นะคะ มาชื่นชม ค่ะ
15 ธันวาคม 2547 01:28 น. - comment id 388877
ชม......ชื่น..... จึ่ง ชื่นชม กรุณาติดต่อ09-1889787
18 มีนาคม 2548 12:24 น. - comment id 414303
: ]