1.สามวันก่อนลมพัดแรงไปทิศตะวันลับ วานนี้อากาศหนาวก่อนค่ำ เที่ยงคืนอากาศเยือกเย็น เช้ามืดนั้นเย็นจัดจนบางคนต้องละผ้าผวยผืนบางมาก่อไฟผิง 2.ปีนี้ฝนไปไว และไม่ลา ไม่ได้เห็นพายุฟ้าคะนอง หักปลายหน่อไม้ที่ขึ้นปลายสูง เมื่อน้ำน้อย ข้าวของคนในนาดอนแทบไม่ได้เก็บเกี่ยว เสียงจากวิทยุทรานซีสเตอร์ว่า ราคาข้าวปีนี้แพง และรัฐประกาศรับจำนำข้าวที่โรงสีเพื่อประกันว่าราคาข้าวจะไม่ตกต่ำ 3.เราจะขายข้าวไหม คนทำนาวัยกลางคนถามภรรยา หมื่นละกี่ตังค์ ภรรยาของเขาตอบ( 1 หมื่น = 12 ก.ก.) หลายตังค์ ลูกว่าแทน 4.ข้าวจี่โรยเกลือและทาไข่ สุกเหลืองและหอมแล้ว พ่อ แม่ ลูก กินข้าวนั้นกับปลาช่อนเผาเกลือและน้ำพริกปลาร้า สามีภรรยาตกลงกันได้ว่าจะไม่เอาข้าวไปขาย เพราะราคาข้าวถูกเหมือนแจกในห้วงสำนึกของคนก้มหน้าสู้ดิน 5.เก็บไว้กินดีกว่า นั่นเป็นข้อสรุป เอาข้าวนั้น เลี้ยงไก่ ก็ได้กินไก่กินไข่ โดยไม่ต้องกลัวหวัดนก หวัดคน หวัดหมู เอาข้าวนั้น เลี้ยงหมู ก็ได้กินหมู กินมัน แบ่งขายแบ่งปันญาติมิตร เอาข้าวนั้น เลี้ยงปลา ก็ได้กินปลา ขายปลา น้ำในบ่อปลาก็เป็นน้ำรดผักอย่างดี เอาข้าวนั้น เลี้ยงวัว ก็ได้เงินคำกำแก้ว ขี้วัวก็เอาใส่นา ต้นข้าวสูง รวงใหญ่ เมล็ดข้าวดกและหนัก ตกลงคนปลูกข้าวก็ไม่ขายข้าว 6.ข้าวหมื่นละพัน คุณได้ยินชัดและไม่ผิด ( ก.ก.ละ 833 บาท) คนทำนาวัยกลางคนคำนวณจากไก่ ปลา หมู วัว และผัก ที่ให้ผลและสืบเนื่องจากข้าวอันไม่ขาย 7.แต่ คนทำนากี่คนเล่าที่ไม่ตกอยู่ในแรงบีบของความเร่งรีบ และแรงเค้นของดอกเบี้ยของเงินอนาคต ที่เอามาใช้ในอดีต คนทำนากี่คนกันที่ไม่ตกอยู่ในแรงบีบคั้นของโลกที่พร้อมถมทะเลด้วยข้าวปลาอาหารของคนจน เพื่อดันราคา
28 พฤศจิกายน 2547 11:36 น. - comment id 379609
แวะมาก่อนออกไปข้างนอก 5 โมงแล้ว หิวข้าวกันหรือยังครับ
28 พฤศจิกายน 2547 11:59 น. - comment id 379628
แวะมาอ่าน..หอมกลิ่นข้าว...ก่อนออกไปทานข้าวค่ะ...เขียนได้ดีค่ะ..ให้แง่คิดและมุมมอง...ในแง่มุมหนึ่ง...มาทักทายนะคะ..
28 พฤศจิกายน 2547 12:25 น. - comment id 379668
รัก..ที่จะกินข้าวทุกเมล็ดจากจาน สงสารชาวนา และชาวไทยเกือบทั่วประเทศ (ยกเว้นบางคน) และสงสารตัวเอง สวัสดีค่ะ
28 พฤศจิกายน 2547 14:48 น. - comment id 379768
ชาวนาเหนื่อยเพื่อเรามามากแล้ว แต่เหตุไฉนเมื่อไหร่เล่าเขาจะหายเหนื่อย เห็นใจเขาเสมอนะค่ะ ฉะนั้นหากเรากินข้าว เราต้องกินข้าวให้หมด ทนแทนในสิ่งที่ชาวนาอุตส่าห์ลำบากหลังสู้ฟ้า หน้าสู้ดิน ปลูกข้าวให้เรากินค่ะ
28 พฤศจิกายน 2547 15:33 น. - comment id 379808
สวัสดีครับคุณราชิกา คุณกอกก และคุณผู้หญิงไร้เงา ขอบคุณครับที่ทุกคนยังกินข้าว
28 พฤศจิกายน 2547 15:34 น. - comment id 379810
อีกหน่อยเราคงนับเมล็ดข้าวขายนะคะ คุณ ก.พ. ทำใจดีๆไว้ อยากซื้อมาเหมือนกัน แต่ไม่ทราบจะไปขนยังไง..ข้าวสีซ้อมมือหรือเปล่าคะ..
28 พฤศจิกายน 2547 15:45 น. - comment id 379821
ข้าวเปลือกครับ สีเป็นข้าวสาร รำแก่ รำอ่อน ปลายข้าว ใช้เลี้ยงไก่ เป็ด ปลา หมู วัว และคน แม้แกลบ และผงคายก็มีคุณต่อดินและพืชผัก ชาวนาไม่ขายข้าว เขาเอาข้าวไปเลี้ยงสัตว์ คือเลี้ยงไก่ ขายไก่ ไข่ไก่ เลี้ยงเป็ด ขายเป็ด ขายไข่เป็ด เลี้ยงปลาก็ขายปลาสด ปลาส้ม ปลาร้า ปลาจ่อม ปลาเจ่า ปลาแห้ง น้ำพริกปลาร้าสับ ฯลฯ ขายหมู ขายวัว ขายขี้วัว ขายผัก มันสืบเนื่องกันเยอะแยะ เป็นเงินเป็นทองกว่าขายข้าวตรง ๆ ข้าวราคาประกันของรัฐ เทียบไม่ได้กับข้าวที่เขาประกันราคาเอง แบบที่ว่านั้น
28 พฤศจิกายน 2547 15:54 น. - comment id 379827
อ่านแล้วยกย่องน้ำใจน้ำมือ แรงกายของชาวนาชาวไร่ทุกคนเลยค่ะ.....มีค่าแก่ไร่นาจริงๆ ขายไปก็แค่กระดาษพิมพ์ เฮ้อ อยากให้ชาวนาชาวไร่ทุกคนมีความคิดอย่างคุณ จริงๆค่ะ
28 พฤศจิกายน 2547 15:59 น. - comment id 379831
เราคาดหวังระบบการศึกษาของประเทศเราดีไหมครับ
28 พฤศจิกายน 2547 16:07 น. - comment id 379848
สักวันฝันคงเป็นจริงครับ ๚ะ๛ size>
28 พฤศจิกายน 2547 16:10 น. - comment id 379855
ขอบคุณคำอวยพรของคุณRobert TingNongNoi ครับผม