กงเอ๋ย..กงเกวียน ผันเปลี่ยนเคลื่อนคล้อยเวียนหมุน กฎแห่งธรรมชาติคอยเอื้อค้ำจุน คอยเกื้อหนุนเป็นไปในห้วงกาล ๒ กรายผ่านอุปสรรคร้อนหนาว กี่หมื่นพันเรื่องราวที่คละเคล้า หนึ่งตัวตนเพียงร่างกับแสงเงา คอยขัดเกลาปัญหาพันธนาการ ๓ ผ่านมาผ่านไป..เฉกนี้ ปะปนเปื้อนชั่ว-ดีหลากหลาย อุปสรรคที่ท้ายท้า..เรียงราย คือความหมายการต่อสู้..สู่ทางเดิน ๔ สู่โลกแห่งจินตนาการกว้างใหญ่ สู่สายธารรวมน้ำใจทางใฝ่ฝัน สู่มิตรภาพเพื่อนร่วมทางเดียวกัน สู่จุดหมายสู่ปลายฝัน..อันงดงาม. ******************
24 พฤศจิกายน 2547 16:30 น. - comment id 376954
เหลือเวลาเพียงน้อยเท่านี้ ชีวิตจะจรลีไปไหน ดุจดวงบุปผามาลัย ย่อมปลิดปลิวไปตามลม มาอ่านงานค่ะ คุณ ปลายภู
24 พฤศจิกายน 2547 17:00 น. - comment id 376981
คลาสสิคมากครับ ^-^
24 พฤศจิกายน 2547 17:54 น. - comment id 377028
กฎชีวิตถูกลิขิตจากมือสร้าง ในแนวทางจากกรรมนำแสวง มุ่งสู่ฝันฟันฝ่าไปตามแรง ก้าวที่แกร่งด้วยแรงใจ...ไม่เลือนจาง... หากยามล้มยามท้อไม่หยุดรุก คอยปลอบปลุกเสมอมิปล่อยว่าง แนะแนวทางให้สู้อยู่ตรงกลาง สิ่งไร้ขวางจักป้องปัดจากโพยภัย... ได้เรียนรู้ชีวิตคือการให้ ได้รับรู้ด้วยดวงใจใส่เสมอ แม้ฝันนั้นอาจอยู่ไกลเกินพบเจอ จะไม่เก้อหากมุ่งมั่นจากดวงใจ... ....ขออนุญาตต่อกลอนที่งดงามนะค่ะ...
24 พฤศจิกายน 2547 21:10 น. - comment id 377226
สู่จุดหมายที่ปลายฝัน สู่ชีวันที่สดใส สู่ความสำเร็จเสร็จสมใจ สู่ความยิ่งใหญ่ในความจริง *-*แต่งได้ดีค่ะ*-*
24 พฤศจิกายน 2547 21:13 น. - comment id 377229
มาอ่านงาน milkkyway คิดถึงนะคะ
25 พฤศจิกายน 2547 06:50 น. - comment id 377456
สายธารเส้นนี้คงฉ่ำเย็นน่าดูจังนะ
26 พฤศจิกายน 2547 18:26 น. - comment id 378884
ใครกันเล่าเข้าใจเราทุกเมื่อ ใครกันเล่าไม่เคยเละจะทิ้งกัน ใครกันเล่าเป็นกำใจให้เสมอ ไม่ใช่ใครแต่คงเป็นตัวเราเอง แต่งจากอารมณ์ตอนนั้นเลยนะเนี่ย