เราเดินทางมาถึง สวนจันทร์บุรี ของเพื่อนฐานิชย์ในเวลาพลบค่ำ รถตู้แล่นเข้ามาจอดข้างบ้านพัก เนื่องจากมืดสนิทมีเพียงแสงไฟริมทางเดิน พอลงจากรถจึงมองไม่เห็นทิวทัศน์รอบๆสวน ได้ยินแต่เสียงจักจั่นดังประสานกับเสียงน้ำในห้วย หลังจากเก็บข้าวของเข้าที่พักบ้าง กางเต็นท์กันบ้าง เราช่วยกันทำอาหาร แล้วรับประทานมื้อค่ำใต้แสงไฟในโคมที่ทำเลียนแบบทะลายมะพร้าว แล้วออกไปชมดาวร่วมกัน วิมุติ นักดาราศาสตร์ประจำคณะเป็นผู้นำชม เราชมดาวพราวแพรวแนวนภา อันโดรเมดาโดดเด่นเห็นสุกใส กาแล็กซีนี้ชัดถนัดมิไกล มองเห็นได้ด้วยตาแม้พร่าลง โอ้กลุ่มดาวสกาวไสวไกลสุดยิ่ง เดิมเจ้าหญิงยั่วตาน่าลุ่มหลง ถูกล่ามไว้ใกล้ผาต้องมาปลง ด้วยประสงค์ส่งไปให้มังกร แต่เปอร์ซุสสุดเยี่ยมเปี่ยมความกล้า พิชิตฆ่าสัตว์ร้ายดับตายก่อน นางจึงรอดปลอดภัยไม่เดือดร้อน เป็นคู่นอนของเขาเลิกเศร้าใจ คือนิทานผ่านมากว่าพันปี เนื้อเรื่องดีแห่งดาวพราวไสว ยามนึกถึงซึ่งเจ้าหญิงพิงผาไพร แหงนขึ้นไปปะดาวสกาวนภา เนื่องจากเหน็ดเหนื่อยมาทั้งวัน และอิ่มหมีพีมันกับมื้อค่ำกันอย่างเต็มที่ ผมจึงเริ่มง่วง และต้องขอตัวเข้าเต็นท์นอนเอาแรงก่อนคนอื่น เพราะพรุ่งนี้ยังต้องเดินทางกันอีกไกล แต่ยังคงแว่วได้ยินเสียงคนคุยกันอยู่ในสวน ในไม่ช้าผมหลับใหลไปตั้งแต่เมื่อไรไม่อาจบอกได้ ตื่นขึ้นมาครั้งแรกคงเป็นเวลากว่า 04.00 น. แล้ว แลเห็นวิมุตินอนหลับสนิทอยู่ข้างๆ คนอื่นๆคงยังไม่ตื่นกัน ผมจึงนอนต่ออีกสักพักจนหลับไปอย่างไม่รู้ตัว จากคลองน้ำเชี่ยว เลี้ยวมาเขาสอยดาว 15 16 ตุลาคม 2547
9 พฤศจิกายน 2547 19:21 น. - comment id 366735
แวะมาเสพความเพลิดเพลินฉบับพี่นกตะวันค่ะ ^___^
9 พฤศจิกายน 2547 23:25 น. - comment id 366976
เพียงเพื่อผ่านมาเป็นกำลังใจให้เธอคนดี +.+ กลอนน่ารักดีนะค่ะ+.+ ( ^ . ^ )...คิดถึงจ้า...( ^ . ^ )
9 พฤศจิกายน 2547 23:48 น. - comment id 366993
ดีใจจังได้อ่านนิทานด้วยวันนี้ อิอิ กลอนแต่งได้ดีมากๆๆๆๆๆเลยค่ะ ชื่นชมในผลงานเสมอนะค่ะ แต่เรื่องดูดาวครั้งนี้ พอได้อ่านแล้วคิดถึงตอนเข้าค่ายลูกเสือเมื่อตอนเป็นนักเรียน อาจารย์ปลุกมาดูดาวตีสี่ใกล้สว่าง แบบง่วงมาก ชี้ดาวอะไรให้ดูก็ไม่รู้สักอย่างเลยค่ะตอนนั้น อิอิ