::: บทแทรก มาจากชายขอบอารยธรรม :::

ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์


:::มาจากชายขอบอารยธรรม 1:::
1.  ย้อนวันคืนหาห้วงเยาว์
     ขลาดเขลาเง่าโง่โซซ้ำ
     เปื้อนโคลนทั้งร่างด่างดำ
     ตรากตรำกรำงานปานควาย
2.  มาจากชายขอบสังคม
     ตกจมทุกข์ข้นจนพ่าย
     สัมผัสหิวพาตาลาย
     เกือบตายไร้อันใดกิน
3.  แถนฟ้าเทวาคงชัง
     บ่หลั่งฝนนองท้องถิ่น
     คนนาหลั่งน้ำตาริน
     เก็บกินเผือกกลอยมันกา
4.  ต่อวันเนาพงดงดอน
     หมดทางก็จรจบหล้า
     เพื่อขอทานข้าวพริกปลา
     ขอต่อเวลาชีวัน
5.  เป็นประชาชนจนโซ
     พุงโลหน้าตาน่าขัน
     หัวโตสมองตีบตัน
     บ่เป็นชนชั้นปัญญา
6.  ได้ยินกาพย์ฉันท์คร่าวโคลง
     หัวใจก็โยงเชื่อมหา
     อยากร้อยบทพจนา
     ก็สุดปัญญาวงดง
บทแทรก 
(7.	เกิดมามีหูตาใจ
	ฝันได้ในสิ่งประสงค์
	หากบ่ไกลเกินเวิ้งวง
	คือคงดิ้นรนจนจร
8.	มีกินสลับกับอด
	ราวบทไท้ขีดไว้ก่อน
	เหลืองหล่าหน้าเร้นนาคร
	ราวซากอันหนอนหน่ายชัง
9.	เป็นด้วยลายกรรมชำเรา
	ฤาเวรบาปเก่าเหนี่ยวรั้ง
	จึงเวียนไขว้เขวเก้กัง
	ขัดสนกำลังร้อยพจน์
10.	ให้ศัพท์ซึ้งสุดวิเศษ
	จนกล่าวถ้วนเขตปรากฏ
	ว่าถ้อยเนียนหอมพร้อมรส
	ทิพย์ทดเสพซึ้งถ้วนทิศ
11.	หมายใจขอจารโดยเจียม
	ถ้อยคำอันเ รียมลิขิต
	อาจเจือวลีมีพิษ
	นั่นเป็นด้วยฤทธิ์ทุกข์ทบ )
บทสอด  
	
(12.	กล่อมลมหายใจด้วยไผ่สีกอ
	กล่อมฤดีต่อด้วยช่อผักตบ
	อุ่นหัวใจหนาวด้วยตาของวัน
	อุ่นความคิดฝันด้วยมิตรที่คบ
	แบ่งเขียดแบ่งกุ้งปันปูปันปลา
	แบ่งปิ้งปลาร้าแบ่งแกงคั่วกบ
	หาอยู่หากินปลูกกินปลูกใช้
	ขิงข่าตะไคร้ลงไว้จนครบ
	พวกไผ่พวกพร้าวมะนาวมะเฟือง
	เขียวแดงขาวเหลืองค้นหาประสบ
	ขอซื้อขอหามาปลูกมาฝัง
	มีฝน-ชีวิตยัง   ข้าน้อยนั่งนบ)				
comments powered by Disqus
  • ดาหลา & ปะการัง

    4 พฤศจิกายน 2547 10:51 น. - comment id 363419

    มาตาม งาน  คุณอัแล้วค่ะ 
    
    สวยจัง
  • คนเมืองลิง

    4 พฤศจิกายน 2547 10:59 น. - comment id 363433

    ^_^ แวะมาอ่านกลอนดีมีสาระค่ะ
  • extreme life

    4 พฤศจิกายน 2547 11:07 น. - comment id 363444

    งานงามตามเคยนะพี่เอย ^o^
  • นาวา(ม่ลงทะเบียน)

    4 พฤศจิกายน 2547 11:59 น. - comment id 363513

    ในนามของ ความงาม ย่อมมีโรยรา
    แต่หากสำหรับความเยี่ยมย่อมคงทน
    - ก่อพงษ์ เยี่ยมอยู่แล้วครับ
    
  • ผู้หญิงไร้เงา

    4 พฤศจิกายน 2547 12:17 น. - comment id 363527

    แต่งได้ดีมากๆๆๆๆเลยค่ะ  ชื่นชมในผลงานคุณเสมอนะค่ะ
  • อัลมิตรา

    4 พฤศจิกายน 2547 13:18 น. - comment id 363611

    อัลมิตรา..ผู้ไม่ค่อยรู้เรื่องราวในการใช้ชีวิตเป็นชาวชนบทนัก แต่อัลมิตราก็ไม่ใช่ผู้ที่ยินดีในชีวิตชาวกรุงสักเท่าใดนัก ..
    
    บางคราวที่สัญจร ภาพที่เลื่อนไหลผ่านกระจกรถยนต์ ทำให้รู้สึกดี รู้สึกอยากมีความสุข มีรอยยิ้ม เหมือนคนที่โบกมือหยอย ๆ ด้านนอก ..
    
    เสียงกระโดดน้ำ ตูม ตูม .. เสียงหัวเราะร่วน เสียงเชียร์ เอายัง.. เอายัง.. เอาล่ะน๊า.. ( เสียงสุดท้ายของอัลมิตราเอง)  อยากจะร่วมสนุก แต่ก็เก้กังเต็มประดา ไม่รู้ว่าจะกล่าวเช่นไร ไม่รู้ว่าจะเผยทีท่าอย่างไร โอ้เราหนอ..เปิ่น ๆ เชย ๆ ชอบกล .. 
    
    คงเหมือนที่ผ่านมา .. ในเวปบอร์ด ตัวหนังสือที่ผู้อ่านอาจจะไม่ทราบถึงความนัย ในอารมณ์ของผู้เขียน ไม่รู้ถึงอากัปกิริยาอันแท้จริง ไม่รู้ถึงน้ำเสียงและแววตาที่สื่อออกมาอย่างแจ่มแจ้ง .. ภาษิตจีนมีคำหนึ่งซึ่งคุ้นหูอยู่ว่า .. ไม่ต่อยตีกัน ไม่รู้จักกัน .. ผิดกันที่ อัลมิตรามิใช่จอมยุทธ ยังมีอีกมากมายที่อัลมิตราไม่รู้หลายอย่าง ประสบการณ์ที่ผ่านมาของอัลมิตราอยู่ในวงแคบ และอัลมิตราใคร่จะได้เรียนรู้ จากมิตร ..
    
    ขอบคุณค่ะสำหรับน้ำใจที่มีมอบแด่กัน
    
    มิตรภาพตราบสิ้นฟ้า 
    
    
  • ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์

    4 พฤศจิกายน 2547 19:21 น. - comment id 363858

    สวัสดีครับคุณอัลมิตรา
    ขอบคุณในน้ำใจไมตรีเช่นเดียวกันครับ
    มิตรภาพมีค่าสำหรับผมเสมอ
    
    
    ขอบคุณคุณผู้หญิงไร้เงา คุณนาวา คุณextreme life  คุณคนเมืองลิง คุณดาหลา&ปะการัง
    
    และขอบคุณผู้อ่านทุกท่าน
    
    ผมไม่เคยลืมนึกถึงความเอื้อเฟื้อของเวปมาสเตอร์เลยครับ ขอบคุณมากๆด้วยครับผม
    
    
    
  • ลอยไปในสายลม

    4 พฤศจิกายน 2547 21:37 น. - comment id 363948

    เห็นชื่อเลยอยากอ่าน
    เพราะดีค่ะ อิ อิ
    แวะมาเยี่ยมเยียนค่ะ...
  • ชัยชนะ

    4 พฤศจิกายน 2547 22:59 น. - comment id 364045

    เขียนได้ดีมากครับสำหรับชนบทบ้านนอกคอกนา
    คงต้องแวะมาขอคาราวะฝีมือด้วยความเคารพ

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน