เดินขึ้นภูเมี่ยง (ภูเดี้ยง) ช่างสุขใจ

bluethesky

ฉันจะเก็บเอาไว้ทุกเรื่องราว 
ถึงเมื่อคราวที่บุกไปในไพรสน
นับหมู่มิตรรวมกันได้ยี่สิบสี่คน 
ไปเดินวนขึ้นภูเมี่ยงช่างสุขใจ
ถึงเนินแรกส่งเสียงกันเจื้อยแจ้ว 
ไม่มีแววเหนื่อยล้ามาให้เห็น
ยังสบายเดินกันได้ใจยังเย็น 
ยังคงเห็นเป็นสนุกไม่ทุกข์ใจ
ถึงเนินสองยังสบายเดินได้อยู่ 
ยังไม่รู้ชะตากรรมทางไหนหนอ
คนเดินเก่งเดินต่อไปไม่ต้องรอ
เราไม่ท้อเดินต่อไปถึงปลายทาง
มาเนินสามเดินตามรอยคนเก่ง 
เราก้อเพ่งมองหาทางไหนหนอ
มองกิ่งไม้มีรอยหักก้อคงพอ 
อย่าเพิ่งท้ออีกหลายเนินต้องเดินไป
ก้าวขึ้นหินก้อนสูงอย่างมุ่งมั่น 
ด้วยท่าอันโลดโผนอย่างที่เห็น
พอก้าวปุ๊บ..เดี้ยงปั๊บ..อย่างที่เป็น 
มันจะเป็นเพราะใครเพราะตัวเอง
ถึงเนินสี่เนินปราบเซียนต้องสะอื้น 
น้ำตารื้นขึ้นทันทีที่มองเห็น
แต่ต้องทนเก็บอาการด้วยจำเป็น 
ไม่อยากเป็นตัวถ่วงของใครใคร
ถึงเนินห้าหาหยูกยามาถูนวด 
ยังไม่ปวดแต่เจ็บแปล๊บที่ต้นขา
คงเป็นเพราะเจ้าตะคริวมันตามมา 
หารู้ว่ามันมากกว่าเป็นตะคริว
ถึงเนินหกมองหาใครไม่มีเห็น 
ทำใจเย็นเดินต่อไปยังไหวอยู่
แม้ต้องเดินก้มจับขาไม่น่าดู 
แต่ยังสู้สู้ต่อไปถึงปลายทาง
มาเนินเจ็ดเดินก้มหน้าตาละห้อย 
ตาลอยลอยเมื่อไหร่ถึงซึ่งจุดหมาย
นั่งลงพักเหลียวมองรอบรอบกาย 
ใจไม่หายมีพี่บีอยู่อีกคน.....
หันไปถามพี่พ่องอีกไกลไหม 
ยังอีกไกลน้องหนูกว่าจะถึง
พอได้ยินลมแทบจับพับล้มตึง 
เราจะถึงหรือจะตายก่อนถึงภู
นั่งมองผาแล้วพาอุราเศร้า 
ด้วยขาเราใช้ไม่ได้ดั่งใจหมาย
เอาละวะช่างมันคงไม่ตาย 
แล้วยันกายเดินต่อไปให้มั่นคง
ผาต่อผาเดินไปไม่ต้องพัก 
เพราะยากนักกว่าจะลุกขึ้นมาได้
ต้องกัดฟันเดินต่อเดี้ยงต่อไป 
กำลังใจจากพี่พี่เริ่มหลั่งริน
กว่าจะถึงที่พักช่างยากเข็ญ 
มันยากเย็นกว่าจะถึงซึ่งจุดหมาย
ยังนั่งนึกในใจ...ฉันยังไม่ตาย 
ยังตะกายขึ้นมาได้ถึงปลายทาง
ขึ้นถึงยอดภูเมี่ยงช่างสุขสันต์ 
มองเห็นควันหมอกจางช่างสุขี
ความอ่อนล้าอ่อนแรงที่เคยมี 
หยุดอยู่ที่แนวเขาอันกว้างไกล
@@  กลอนนี้เป็นกลอนแรกในชีวิตค่ะ @@
แต่งตอนไปเดินป่าครั้งแรกในชีวิตเหมือนกัน
ตอนนั้นไปเดินป่าที่ภูเมี่ยง จ.อุตรดิตถ์  (ในรูปประกอบนั่นแหล่ะค่ะ)
ตอนนั้นนึกว่าจะไม่รอดกลับมาแล้ว เพราะมันชันมาก ขาก้อเจ็บด้วย
พอขึ้นไปถึงยอดได้ นั่งพักเหนื่อย มองเห็นทิวเขาที่มีแต่หมอก
กับบรรยากาศที่เย็นจับใจ ก้อนึกถึงเวปนี้ขึ้นมา เลยหาปากกามานั่งแต่งกลอนค่ะ
ฝาก เพื่อนๆ พี่ ๆ ช่วยวิจารณ์ด้วยนะคะ
ติดตามมานานแล้วค่ะ  แต่ไม่กล้าส่งมาให้อ่านกันค่ะ
กลัวพี่ ๆ เพื่อน ๆ หัวเราะเอาค่ะ ว่าแต่งกลอนไม่เป็น
ยังงัยฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ				
comments powered by Disqus
  • ทิกิ_tiki 4895ยังไม่ลงทะเบียน

    30 ตุลาคม 2547 10:31 น. - comment id 360060

    เป็นความพยายามที่ดีมากขอชมเชย  
    เขียนบรรยายความรู้สึกได้ดีจนยาว
    แต่มีนิดเดียวขออนุญาตบอกนะคะ ไม่งั้น
    เดี๋ยวจะโดนว่าอีกว่า เห็นแล้วทำเฉย แกล้งน้อง
    ให้เป็นอย่างนี้ไปหรือ 
             ลองหัดทำสัมผัสระหว่างบท ซึ่งสำคัญมาก
    สำหรับการเขียนกลอน สองบทขึ้นไป ดังนี้ 
     คือ คำ สุดท้าย ของบทแรก จะต้อง รับสัมผัส กับ 
    คำสุดท้าย ของ บาท ที่สอง และ บาทที่สาม 
    
          และ โยงไป คำที่สาม หรือ คำ ที่ห้า (หรือหก กรณีเขียน9 พยางค์ ดังนี้นะคะ  ลองทำให้ดูนะคะ
    
    ฉันจะเก็บเอาไว้ทุกเรื่องราว 
    ถึงเมื่อคราวที่บุกไปในไพรสน
    นับหมู่มิตรรวมกันได้ยี่สิบสี่คน 
    ไปเดินวนขึ้นภูเมี่ยงช่างสุขใจ
    
    ถึงเนินแรกส่งเสียงกันเจื้อยแจ้ว 
    ไม่มีแววเหนื่อยล้ามาเห็นไหม
    ยังดูคล้ายเดินสบายย้ายกันไป
    สนุกกระไรไม่ทุกข์สุขเกิน พอ
    
    ถึงเนินสองยังสบายเดินได้อยู่ 
    ยังไม่รู้ชะตากรรมทางไหนหนอ
    คนเดินเก่งเดินต่อไปไม่ต้องรอ
    เราไม่ท้อเดินต่อไปถึงปลายทาง
    
    ลองเปลี่ยนให้เห็นนิดหนึ่งอย่าว่ากันนะคะ
    คงจะยากที่จะเปลี่ยนในทันทีนะคะ แต่คราว
    หน้า หรือ ถ้ามีเวลา ค่อยๆลองปรับกลอนดุนะคะ
    ให้ได้ความหมายเหมือนเดิม แต่สัมผัส ท้ายของบทหน้าให้ส่งไป คำท้าย บาท สอง และสาม และ
    คำที่ สามหรือห้า บาทที่สี่ พยายาม อย่าให้คำซ้ำ
    ที่เขียนมาเห็นว่าคุณแต่งกลอนบรรยายได้ดีนะคะถือว่ามีคุณสมบัติพื้นฐานดี มีความตั้งใจดี
    มีความเพียร ตั้งใจจริงนะคะ
    
    หวังว่าคงไม่โกรธที่เขียนมานะคะ
    หากคุณโกรธ ต่อไป คุณทิกิ_tiki  ก็คงจะไม่ขอ
    บอกใครๆให้โกรธขึ้งอีกนะคะ ...ขออภัยไว้ล่วงหน้าเลยค่ะ
  • ทิกิ_tiki 4895ยังไม่ลงทะเบียน

    30 ตุลาคม 2547 10:36 น. - comment id 360064

    อีกนิดนะคะ
    
    คำว่าไพรสณฑ์ ใช้อย่างนี้นะคะ 
    หากว่า แก้ไขข้อความ คือให้ลงทะเบียนเข้าหน้าส่วนตัวนะคะ และ มองดูที่ท้ายความ หัวข้อบทกลอน จะมีลูกศร สองอัน ให้กด อันข้างซ้ายจะเป็นแก้ไขบทกลอนนะคะ
    ขอเป็นกำลังใจให้ นะคะ ค่อยๆทำทีละบทก็ได้ค่ะ อย่าหมดกำลังใจนะคะ
    
    หวังให้คุณเขียนงานดีเช่นนี้เสมอนะคะ
    ลืมบอกว่า ขอต้อนรับค่ะ เป็นกำลังใจค่ะ
  • กอกก

    30 ตุลาคม 2547 10:53 น. - comment id 360078

    พี่ชอบเขียนกลอนแนวนี้เหมือนกัน แบบว่าเที่ยวเก่งน่ะค่ะ..
    แต่ก็เขียนไม่ได้เรื่องเท่าไหร่ค่ะ..
    เขียนให้อ่านอีกนะคะ..
    ชอบค่ะ..
    
    สวัสดีนะคะ
  • bluethesky

    30 ตุลาคม 2547 13:46 น. - comment id 360189

    ขอบคุณค่ะพี่ทิกิ กับพี่กอกก ที่ให้ความเห็นและกำลังใจไม่โกรธหรอกค่ะ เพราะคำติสำหรับนู๋ถือว่าเป็นเสียงสวรรค์ค่ะ
    แล้วจะพยายามตั้งใจให้มากกว่านี้ค่ะ
    อาทิตย์หน้าจะไปกระบี่ จะเขียนกลอนมาให้อ่านกันอีกค่ะ
  • tiki

    30 ตุลาคม 2547 14:13 น. - comment id 360214

    โอ้ โห เยี่ยมค่ะ น่ารักมากที่บอกแล้วไม่โกรธ
    จะรออ่านกระบี่ นะคะ นึกถึงน้ำใส เวลาเราไป
    เขาพิงกันพังงา แถวนั้นนะคะ  กระบี่พี่ชอบไข่มุก สีทองที่นั่นมากค่ะ เคยมีน้องเ ชาวเล เก็บมุกสีทอง รูปเบี้ยวๆหน่อยมาฝาก ผลงานเลี้ยงมุก
    กระบี่ที่ได้คุณค่างามไม่แพ้ใคร เป็นรองก็แต่ไข่มุกเซ้าท์ซีละค่ะ
    
               แวะมาอ่านอีกครี้งค่ะ ยินดีต้อนรับอีกรอบนะคะ

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน